บทที่ 396 ผู้ชายชื่อบุริศร์น่ากลัวมาก
“มีอะไรเหรอ?”
ไมค์ตกตะลึงเล็กน้อย ก็แค่บุหรี่ม้วนเดียวที่ตุลยาให้มาไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงมีปฏิกิริยาโต้ตอบรุนแรงขนาดนี้?
นี่โกรธจนเป็นลมเลยเหรอ?
เป็นไปไม่ได้น่า!
“เฮ้ บุริศร์!”
ไมค์ลุกขึ้นและพยายามดึงบุริศร์ขึ้นมา แต่ก่อนจะคุกเข่าลงก็รู้สึกหน้ามืดไปชั่วขณะ
“ให้ตายสิ!”
ตอนนี้แม้แต่สมองโง่ๆ อย่างไมค์ก็รู้แล้วว่าตนเองถูกหลอก
เขาถูกตุลยาหลอกใช้งั้นเหรอ?
พอคิดถึงเรื่องนี้ ไมค์ก็รู้สึกเสียใจเหลือเกิน
ไม่มีอะไรน่าโมโหมากไปกว่าการถูกคนที่ตนเองชอบหลอกใช้ ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้พี่น้องของเขาต้องเดือดร้อนไปด้วย
แต่มันสายไปแล้วที่จะพูดอะไรในตอนนี้
ทุกอย่างตรงหน้าไมค์กลายเป็นความมืดมิด เขาหมดสติไปและไม่รับรู้อะไรอีก
ตุลยาเดินขึ้นมาจากทางด้านหลัง เมื่อเห็นภาพนี้ก็ยิ้มเล็กน้อย เธอเอาเท้าเขี่ยไมค์ที่อยู่ข้างๆ เมื่อพบว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เธอจึงมองหาคนที่อยู่ด้านหลัง
มีชายสองคนเดินเข้ามารับบุริศร์ไปทันทีตามคำสั่งของตุลยา
ส่วนไมค์ ตุลยายังนับว่าใจดี เธอให้คนพยุงเขาไปพักผ่อนที่โรงแรมใกล้ๆ
บุริศร์ไม่รู้ว่าสลบไปนานแค่ไหน แต่พอเขาลืมตาขึ้นร่างกายก็เปลือยเปล่า มีตุลยานอนอยู่ข้างๆ
“คุณฟื้นแล้วเหรอ?”
ตุลยามีท่าทางขวยเขิน
ความโกรธผุดขึ้นในใจบุริศร์ทันที
“คุณรนหาที่ตาย!”
เขาบีบคอของตุลยา
เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้คิดไม่ซื่อกับเขาตั้งแต่แรก แต่เพื่อเห็นแก่ไมค์เขาจึงไว้หน้าเธอหลายต่อหลายครั้ง คิดไม่ถึงว่าเธอจะคิดวางแผนกับเขา
ทันทีที่คิดว่าเขานอนอยู่กับเธอ บุริศร์ก็รู้สึกสะอิดสะเอียนอย่างบอกไม่ถูก
ตุลยาไม่คาดคิดมาก่อนว่าบุริศร์จะฆ่าตนทันทีที่เขาลืมตา เธอกรีดร้องทันทีด้วยความหวาดกลัว
“บุริศร์ คุณเสียบริสุทธิ์ของฉันไปแล้ว ตอนนี้ยังอยากจะฆ่าฉันปิดปากอีกเหรอ?”
ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกมาก็มีคนพังประตูเข้ามาทันที “แชะแชะ” แฟลชถ่ายภาพสว่างวูบวาบ
ถึงตอนนี้ถ้าบุริศร์ยังเดาอะไรไม่ออกก็ถือว่าเขาล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
ในตอนนี้ต่อให้เขามีสักกี่ร้อยกี่พันปากก็อธิบายไม่ถูกแล้ว
หญิงชายนอนอยู่บนเตียงเดียวกันในห้องแถมยังไม่สวมใส่เสื้อผ้าใดๆ คนที่มีสายตาเฉียบแหลมมองปราดเดียวก็บอกได้แล้วว่ามันหมายถึงอะไร
บุริศร์ไม่คาดคิดเลยว่าในที่สุดก็มาถึงวันที่เขาล้ม!
ยิ่งไปกว่านั้นยังตกอยู่ในเงื้อมมือของคนต่ำช้าอย่างตุลยาอีกต่างหาก!
ตอนนี้ถึงแม้ว่าเขาจะฆ่าตุลยาตาย เขาก็ยังไม่หายแค้น
บุริศร์ไม่ดิ้นรนอะไรอีกพลางปล่อยตุลยาไป เขามองนักข่าวที่อยู่เต็มห้องแล้วพูดอย่างเย็นชา “พวกคุณสนใจเรื่องของผมขนาดนี้เชียวหรือ? ผมแค่เล่นสนุกกับผู้หญิงคนหนึ่งมันคุ้มค่ากับการที่พวกคุณระดมกันมาไหม? ผมจะบอกอะไรที่ไม่ค่อยน่าฟังสักเท่าไรนะ ผมบุริศร์ ไม่มีเงินจะเล่นสนุกกับผู้หญิงในเมืองชลธีเหรอ? ยิ่งไปกว่านั้นผมไม่จำเป็นต้องเล่นสนุกกับผู้หญิง ปรกติก็มีพวกไม่มียางอายคอยเข้ามาเกาะติดอยู่แล้ว พวกคุณยังจะมีอะไรให้เขียนอีก?”
บรรดาผู้สื่อข่าวตกตะลึงทันที
บุริศร์พูดตรงไปตรงมาขนาดนี้ พวกเขายังจะพูดอะไรได้อีก?
สิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง
ในฐานะลูกชายในตระกูลชั้นนำของเมืองชลธี อย่าว่าแต่เล่นสนุกกับผู้หญิงเลย ต่อให้เที่ยวผู้หญิงอย่างโจ่งแจ้ง จะมีใครกล้าพูดอะไรได้? ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เขาพูดนั้นถูกต้อง ปรกติก็มีผู้หญิงบางคนที่พยายามตะกายขึ้นไปบนเตียงของเขาอย่างเต็มที่ สำหรับตระกูลโตเล็ก สำหรับบุริศร์แล้ว มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
ความตกตะลึงของบรรดานักข่าวทำให้ตุลยาหวาดกลัวลนลาน
เธอรีบก้มหน้าร้องไห้
“บุริศร์ ทำไมคุณพูดเรื่องของเราแบบนี้ล่ะ? ก็ไหนคุณบอกว่าคุณจะดีกับฉัน”
บุริศร์มองสีหน้าท่าทางของตุลยาอย่างเย็นชาพลางกล่าวยิ้มเยาะ “คุณเชื่อสิ่งที่ผู้ชายพูดตอนถอดกางเกงด้วยเหรอ? ยิ่งไปกว่านั้นนะคุณตุลยา คุณเป็นคนพาผมขึ้นเตียงไม่ใช่หรือ? ไม่งั้นเราลองไปเปิดดูกล้องวงจรปิดของโรงแรมกันหน่อยไหมว่าใครเป็นคนอุ้มผมขึ้นเตียง?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นดวงตาของบรรดานักข่าวก็สว่างไสวขึ้นทันที
“คุณตุลยา นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? อย่าบอกนะว่าคุณก้าวขึ้นเตียงของคุณชายบุริศร์เองจริงๆ?”
บรรดาผู้สื่อข่าวยื่นไมค์ไปที่ตุลยา
บุริศร์คือใคร?
พวกเขาไม่กล้าล่วงเกิน
แต่ตุลยาก็พูดไปอีกอย่าง ผู้หญิงที่ต้องการยกระดับด้วยการก้าวขึ้นเตียงบุริศร์ ก็ยังพอที่จะนับได้ว่าเป็นวัตถุดิบสำหรับการเขียนอย่างหนึ่ง
เมื่อตุลยาเห็นบุริศร์พุ่งเป้ามาที่เธอทั้งหมดก็ตื่นตระหนกอย่างช่วยไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...