บทที่ 420 คุณแม่จะตีใครให้ตายนะครับ
นรมนไม่สนใจว่าคุณนายทวีทรัพย์ธาดาจะเป็นอย่างไร ตอนนี้เธอมีโทสะถึงที่สุดแล้ว
คุณนายทวีทรัพย์ธาดากลับมาเตือนเธอให้หย่ากับบุริศร์เพื่อตุลยา
นี่มันคืออารมณ์ความรู้สึกอะไรกันแน่ ถึงได้ทำให้เธอสามารถเอ่ยพูดเรื่องนี้ออกมาได้
นรมนเดินกลับไปนั่งหงุดหงิดในห้องของตัวเองด้วยโทสะ
หลังจากที่ธิดาและนาวินเชิญคุณนายทวีทรัพย์ธาดากลับไปได้แล้ว ก็รีบโทรศัพท์หาบุริศร์ทันที ทั้งยังเล่าเรื่องนี้ให้บุริศร์ฟังด้วย
บุริศร์ฟังถึงตรงนี้แล้ว คิ้วก็ขมวดเป็นปม
พฤกษ์เห็นเขาเป็นแบบนี้แล้ว ก็อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ว่า “ประธานบุริศร์ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือครับ”
“บอกกับตรินท์ให้ผมด้วยว่า ให้มุ่งเป้าหมายไปที่กิจการของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาอย่างไม่ต้องเสียดายค่าตอบแทน ผมต้องการให้เกิดวิกฤตทางการเงินกับกิจการของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาภายในหนึ่งวัน ร่วมมือกับธุรกิจร่วมทุนกับพวกเรา ก็ต้องพุ่งเป้าไปที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา!”
ในคราวนี้บุริศร์มีโทสะแล้วจริงๆ
คุณนายทวีทรัพย์ธาดาพาตุลยามาบีบบังคับที่บ้านตระกูลโตเล็กให้แต่งงานด้วย เขาสามารถทำเป็นไม่สนใจได้ และรู้สึกไม่มีอะไร ตัวเองสามารถรับมือได้ แต่ในเมื่อคุณนายทวีทรัพย์ธาดาเป็นผู้ไปพบนรมนด้วยตัวเองถึงที่ ทั้งยังบีบบังคับให้นรมนหย่ากับเขา นี่มันเกินไปแล้วจริงๆ!
พฤกษ์ฟังถึงตรงนี้แล้ว ก็ไม่ได้พูดอะไร แต่รีบไปจัดการทันที
ตรินท์ถอนคำสั่งการบีบบังคับตระกูลรัตติกรวรกุลกลับคืนมา และเริ่มพุ่งเป้าหมายไปที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาแทน
“ผมว่านะลูกพี่ คุณชี้ไปทางไหน ผมก็ไปจัดการทางนั้น บริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดต้องพัฒนาไปทีละขั้น คุณจะให้ผมพุ่งเป้าไปที่ตระกูลทรัพย์ทวีธาดาระยะยาวหรือว่าระยะสั้นครับ ผมต้องดูสถานะทางการเงินของบริษัทพวกเราก่อนนะครับ!”
ตรินท์รู้สึกว่าช่วงนี้บุริศร์หุนหันพลันแล่นเกินไปแล้ว
เป็นศัตรูกับตระกูลทวีทรัยพ์ธาดา ไม่เหมือนกับตระกูลรัตติกรวรกุล ตระกูลรัตติกรวรกุลเพิ่งจะเริ่มต้นกิจการ เงินทุนจำนวนมากล้วนถูกผูกเอาไว้กับโครงการ เป็นศัตรูกับพวกเขาค่อนข้างสะดวก เพราะว่าการเคลื่อนไหวทางด้านเงินทุนของทุกคนล้วนไม่เยอะ แต่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดานั้นไม่เหมือนกัน
ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเป็นตระกูลนักการเมือง ระยะนี้เพิ่งจะลงทุนไปกับห้างสรรพสินค้า แม้ว่าประสบความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง แต่ใครจะไปรู้ว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดานั้นมีเส้นสนกลในเท่าไร
อีกทั้งผู้อยู่เบื้องหลังตระกูลทวีทรัพย์ธาดาก็คือเมืองหลวงทางนั้น ดังนั้นการพิจารณาของตรินท์จึงมีความเชื่อใจได้มากที่สุด
บุริศร์กลับไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เอ่ยเสียงเย็นว่า “ระยะยาว ให้ดีที่สุดก็คือ สามารถกดตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจนถึงขั้นไม่สามารถพลิกกลับมาได้อีก”
เมื่อประโยคนี้ถูกเอ่ยออกมา ก็ทำให้ตรินท์ตะลึงค้าง
“ความสัมพันธ์ของคุณกับคุณชายธรณีไม่เลวไม่ใช่หรือครับ ทำแบบนี้จะเกิน........”
“นั่นเป็นเพราะว่าคุณนายทวีทรัพย์ธาดาของพวกเขาทำเรื่องชั่วร้าย อย่ามาโทษฉัน”
เมื่อคำพูดของบุริศร์เอ่ยออกมาแล้ว ตรินท์ก็ดูเหมือนว่าจะเข้าใจอะไรขึ้นมา
“ตกลง ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
ทางด้านตรินท์นั้นเริ่มต้นลงมือ ทางด้านธุรกิจร่วมทุนของพฤกษ์นั้นก็เริ่มกดดันไม่ถอย
อย่างไรธรณีก็คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับตัวเองอย่างกะทันหัน หุ้นของตระกูลทวีทรัพย์ธาดานั้นหยุดนิ่งตลอดทั้งบ่าย ธุรกิจทางด้านนอกก็ถูกผูกขาด เดิมธุรกิจที่เจรจากันเรียบร้อยแล้ว จู่ๆผู้ขายก็กลับคำเสียอย่างนั้น ยินยอมที่จะจ่ายเงินค่าผิดสัญญา แต่ไม่ร่วมมือกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา
ถ้าหากว่าตอนนี้ธรณียังมองไม่ออกอีกว่าตัวเองได้ล่วงเกินคนอื่น ถูกตัดขาดเส้นทางหาเงินแล้วล่ะก็ เขาก็ถือได้ว่าไร้ซึ่งความสำเร็จโดยสิ้นเชิงแล้ว
“ไปตรวจสอบให้ผมทีว่า ใครกันแน่ที่พุ่งเป้ามาทางพวกเรา หรือไม่ก็ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกเราล่วงเกินใครเข้า”
ธรณีรู้สึกอึดอัดมาก
หลายปีมานี้ในเมืองชลธี ใครๆก็ล้วนเห็นแก่หน้าของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ขณะนี้กลับเหมือนถูกคนพุ่งเป้าเข้าหา จะเดินก้าวหนึ่งก็ลำบากแล้วจริงๆ
ธรณีประสบกับความรู้สึกแบบนี้น้อยมาก แม้ว่าก่อนหน้านี้จะอยู่ในเขตสงคราม ก็ไม่เคยถูกกระทำจนต้องตื่นตูมแบบนี้มาก่อน
ไม่นาน เลขาก็กลับมา
“คุณชายธรณี เป็นตระกูลโตเล็กครับ!”
“ใครนะ”
ธรณีไม่กล้าเชื่อหูตัวเองจริงๆ แม้ว่าบุริศร์จะไม่สนใจความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนระหว่างพวกเขา แต่ก็ไม่อาจไม่คิดเพื่อนรมน จะพูดอย่างไร ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาก็เป็นตระกูลฝ่ายแม่ของนรมน แม้ว่าตอนนี้จะเข้าใจผิดกันอยู่ แต่ก็ไม่ถึงกับต้องเด็ดขาดขนาดนี้มั้ง
“ตระกูลโตเล็กครับ!”
เลขานึกว่าธรณีได้ยินไม่ชัดเจน จึงพูดใหม่อีกครั้งหนึ่ง
คิ้วของธรณีขมวดเป็นปม
“หาสาเหตุเจอหรือยัง”
“ดูเหมือนว่าจะมีสาเหตุมาจากการที่คุณนายทวีทรัพย์ธาดาท่านไปก่อเรื่องที่บ้านของตระกูลโตเล็กครั้งหนึ่งครับ”
เลขาสืบรายละเอียดการพูดคุยระหว่างคุณนายทวีทรัพย์ธาดากับนรมนไม่ได้ แต่ว่าเรื่องที่คุณนายทวีทรัพย์ธาดาถูกบอดี้การ์ดของตระกูลโตเล็กเชิญออกมานั้น เลขายังคงรายงานไปตามความจริง
ธรณีรู้สึกเพียงแค่ว่าตอนนี้จนปัญญาเป็นอย่างมาก
ช่วงนี้คุณนายทวีทรัพย์ธาดาของพวกเขาเป็นอะไรไปกันแน่
“กลับบ้าน!”
ธรณีไม่กล้ารอช้า วางเรื่องของบริษัทในมือทั้งหมดทิ้งเอาไว้ และตรงกลับบ้านอย่างรวดเร็ว
คุณนายทวีทรัพย์ธาดาถูกทำให้โกรธเสียจนนั่งด่านรมนอยู่ในห้องรับแขกอย่างสาดเสียเทเสีย ส่วนตุลยาก็นั่งพูดอย่างละอายใจอยู่ด้านข้าง “คุณยาย คุณยายอย่าโกรธพี่สาวเลยนะคะ อารมณ์ของพี่สาวไม่ดี ดังนั้นถึงได้ปฏิบัติกับคุณยายแบบนี้ ความจริงแล้วพี่สาวรักบุริศร์มาหลายปีขนาดนั้น ระหว่างพวกเขาก็มีลูก เป็นธรรมดาที่ไม่อยากหย่า วันนี้คุณยายหุนหันพลันแล่นเกินไปแล้วจริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...