บทที่ 455 พวกเราเป็นหมอ ไม่ใช่เทวดา
ได้ยินคมทิพย์พูดแบบนี้แล้ว ธรณีพูดไม่ออกทันที
“นี่คือความต้องการของนรมนหรอ?”
“คุณนึกว่าฉันจะให้นรมนรู้ว่าคุณอยู่ข้างนอกหรอคะ?”
คมทิพย์มองหน้าธรณี อดไม่ได้ถอนหายใจทีนึงแล้วพูด:“คุณชายธรณีคะ นรมนผิดหวังกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกคุณอย่างสิ้นเชิงแล้ว และพวกคุณก็ทำเรื่องให้ถึงที่สุดแล้ว แล้วจำเป็นด้วยหรอคะที่ตอนนี้จะมาขอให้เธอกลับไป?คุณนายทวีทรัพย์ธาดาของบ้านคุณอายุมากก็จริง อาจจะมีบางเรื่องที่ทำให้เธอรู้สึกเสียใจในตอนนี้ แต่ถึงเป็นอย่างนั้นจริง แล้วยังไงคะ?เมื่อความเจ็บช้ำมันได้เกิดขึ้นแล้ว หรือแค่ว่าอาศัยอายุของคุณนายเยอะแล้ว ใกล้จะเข้าโลงแล้ว ก็จะให้คนหนุ่มสาวยกโทษให้โดยสมเหตุสมผลงั้นหรอคะ?แล้วอีกอย่าง ที่ร่างกายของนรมนต้องเป็นแบบนี้เพราะอะไรล่ะคะ?คนอื่นอาจจะไม่รู้ แล้วคุณชายธรณีก็ไม่รู้ด้วยหรอคะ?”
“คุณรองคิดดูเถอะนะคะ เมื่อก่อน นรมนเป็นคนแข็งแรงขนาดไหน ตอนนี้ เธอแทบจะกลายเป็นคนป่วยง่ายไปแล้ว คุณสามารถรับรู้ได้มั้ย ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้คนเจ็บปวดขนาดไหน?คุณพูดมาตลอดว่าคุณเป็นอาของเธอ คุณหวังดีกับเธอ คุณเป็นห่วงเธอ แต่ถ้าคุณเป็นห่วงเธอจริง ขอร้องคุณ อ้อนวอนคุณเถอะค่ะ อย่ามาให้เธอเห็นหน้าอีกเลยนะคะ ปล่อยให้เธอได้รักษาตัวดีๆเถอะนะคะ เรื่องวุ่นวายที่ตระกูลของพวกคุณสร้างให้เธอยังไม่พออีกหรอคะ?คุณหมอโพนี่บอกแล้ว เธอเลือดลมไม่ดี ร่างกายเพลียมาก เป็นเพราะเธอเครียดเกินไป เพราะฉะนั้น สุขภาพถึงได้แย่ขนาดนี้ ถือว่าฉันขอร้องคุณเถอะค่ะ คุณกลับไปเถอะ ความเสียใจของคุณนายทวีทรัพย์ธาดาของบ้านคุณ นรมนของเราไม่สามารถช่วยชดเชยอะไรได้”
คมทิพย์พูดถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าธรณียังดื้อดึงอีก ก็ดูจะเกินไปแล้ว
เขามองไปทิศทางห้องของนรมน ถึงจะรู้สึกเสียใจ แต่ก็พูดด้วยเสียเบา:“คุณวางใจเถอะครับ ผมจะไม่มารบกวนเธออีก แต่ถ้าหากเธอเกิดอะไรขึ้นจริงๆ หวังว่าถึงตอนนั้นคุณจะแจ้งผมด้วย”
“วางใจเถอะค่ะ”
ถึงคมทิพย์จะทำตัวทะเล้นต่อหน้านรมน แต่เธอก็หวังดีกับนรมนจริงๆ หลังจากรู้เรื่องทั้งหมดระหว่างนรมนกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจากปากของพฤกษ์แล้ว คมทิพย์เคยคิดไปขอความยุติธรรมกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาให้กับนรมนโดยไม่คำนึงถึงตัวเอง กลับถูกพฤกษ์ห้ามปรามเอาไว้
ยังไงซะ เรื่องระหว่างความสัมพันธ์ของนรมนกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดานั้น ไม่ใช่คนนอกอย่างพวกเขาจะเข้าไปยุ่งได้
แต่ตอนนี้คมทิพย์ทนดูต่อไปไม่ไหวจริงๆ
ธรณียังอยากจะพูดอะไรต่อ แต่กลับทำยังไงก็เปิดปากพูดไม่ออก
เขาหันไปอย่างผิดหวัง พาคนของตัวเองไปจากบ้านตระกูลธนาศักดิ์ธน
คมทิพย์โล่งใจในที่สุด
เธอไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้ๆ จากนั้นก็กลับมาที่บ้านตระกูลธนาศักดิ์ธน
นรมนหลับไปแล้ว
แค่แป๊บเดียว เธอหลับไปไวมาก
คมทิพย์รู้สึกแปลกใจ มองหน้าโพนี่ แล้วถามด้วยเสียงเบา:“เธอทำไมง่วงนอนง่ายขนาดนี้คะ?”
“เป็นเรื่องปกติ ใครก็ตามที่เสียเลือดเยอะขนาดนี้ สุขภาพก็ต้องแย่ได้ น้ำเกลือนี้ช้ามาก ต้องให้คุณช่วยดูแลหน่อยแล้วนะคะ ฉันจะกลับไปที่โรงพยาบาลหน่อย เดี๋ยวค่อยกลับมา”
คำพูดของโพนี่ทำให้คมทิพย์อึ้ง
“คุณจะมาอีกหรอคะ?”
“ใช่ค่ะ เธอต้องให้น้ำเกลือติดต่อกันสามขวด คุณไม่ใช่พยาบาล เรื่องบางเรื่องคุณอาจจะทำไม่เป็น ฉันต้องกลับไปสั่งการที่โรงพยาบาลหน่อย จากนั้น ค่อยกลับมา”
ได้ยินที่โพนี่อธิบายแล้ว คมทิพย์ถึงรู้สึกโล่งใจ
“รบกวนคุณแล้วนะคะ”
“รบกวนอะไรกันคะ นี่เป็นหน้าที่ของฉันนะคะ”
โพนี่ยิ้ม แล้วสะพายกระเป๋าพยาบาลออกจากบ้านตระกูลธนาศักดิ์ธน
หลังจากออกจากบ้านตระกูลธนาศักดิ์ธนแล้วโพนี่ได้โทรไปหาป้องโดยตรง
“อาการของประธานบุริศร์เป็นยังไงบ้างคะ?”
ป้องเขย่าคอที่ปวดเมื่อย ดูหน้าจอวิดีโอคอลตรงหน้าแล้วพูด:“ไม่ค่อยดีเลย กำลังดำเนินการกายภาพบำบัด มีอะไรหรอ?”
“อาการของคุณนายบุริศร์ไม่ค่อยสู้ดีเลยค่ะ”
คำพูดของโพนี่ทำให้ป้องตึงเครียดขึ้นมาทันที
“เป็นอะไรครับ?เกิดเรื่องอะไรขึ้น?แค่ร่างกายอ่อนเพลียเองไม่ใช่หรอครับ?”
“ฉันว่าไม่เพียงแค่นี้นะคะ ป้อง ฉันต้องกลับไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลหน่อย ถ้าเป็นไปได้ละก็ ดีที่สุด อีกวันสองวันพาเธอมาตรวจร่างกายให้ทั่วครั้งนึง ที่สำคัญคือต้องตรวจดูมดลูก”
สีหน้าของโพนี่ดูเคร่งเครียด น้ำเสียงก็ฟังไม่ค่อยดี
“มดลูกของเธอเป็นอะไรหรอครับ?”
“ฉันสงสัยว่าตอนนี้เธอเป็นสัญญาณของการเลือดออกในมดลูก เลือดประจำเดือนของเธอเป็นสีแดงเข็มออกดำ แถมกลิ่นแรงมาก เลือดเป็นก้อนเยอะเลย ฉันไม่มีเครื่องมือจะตรวจ สามารถสันนิษฐานได้ด้วยประสบการณ์หลายปีมานี้ ฉันได้ให้ยาห้ามเลือดให้กับเธอแล้ว จะสามารถควบคุมได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ อีกอย่าง อาการของเธอไม่ค่อยดี ง่วงง่าย ไม่มีแรง ถ้าเป็นไปได้ ฉันหวังว่าประธานบุริศร์จะสามารถอยู่ข้างกายของเธอ คุณต้องรู้นะ ผู้หญิงเวลาแบบนี้ จะเป็นเวลาที่อ่อนแอและไร้เรี่ยวแรงที่สุด”
โพนี่พูดด้วยเสียงเบา
ป้องกลับพูดอย่างลำบากใจ:“แต่ฝั่งของบุริศร์ก็จะชะล่าใจไม่ได้ สภาพร่างกายของเขาตอนนี้ กลับไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ถึงกลับไปแล้ว เรื่องทั้งหมดจะต้องถูกเปิดเผยแน่ ถ้าตอนนี้ ปล่อยให้นรมนรู้เรื่องสภาพร่างกายของบุริศร์ในตอนนี้ คุณว่า เธอจะสามารถรับไหวหรอ?”
คำตอบคือไม่แน่นอน ข้อนี้โพนี่รู้ดี
“แต่ว่าตอนนี้ เธอเป็นแบบนี้ ถ้ามดลูกมีปัญหาจริง ยังไงก็ต้องมีคนเซ็นชื่อ ฉันคิดในทางเลวร้ายที่สุด คุณรู้มั้ย?”
“ผมรู้ พวกเราจะรักษานรมนอย่างสุดความสามารถโอเคมั้ย ?ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน ก็ต้องให้เธอหายดี”
“ป้อง พวกเราเป็นหมอนะ ไม่ใช่เทวดา โรคบางโรคคุณเองก็น่าจะรู้ดี ไม่ใช่ว่าแค่เราพยายามก็จะห้ามได้ ฉันพูดได้แค่ว่า ฉันจะช่วยเธออย่างสุดความสามารถของฉัน แต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลที่เราคาดเอาไว้ได้หรือเปล่า ฉันไม่กล้ารับปากจริงๆ”
คำพูดของโพนี่ ป้องเข้าใจดี
“ผมเข้าใจ ผมใจร้อนเกินไปหน่อย ผมจะหาโอกาสคุยกับบุริศร์เอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...