บทที่ 491 สามีภรรยาก็เหมือนคน ๆ เดียวกัน
นรมนถูกกอดรัดจนเริ่มเจ็บ แต่ก็ไม่ได้ห้ามบุริศร์แต่อย่างใด
เธอดูออก ว่าตอนนี้บุริศร์กำลังอ่อนแอเป็นอย่างมาก
คิดมาตลอดว่าเขาคือคนที่อยู่เหนือผู้อื่นเสมอ ไม่มีสิ่งไหนที่เขาทำไม่ได้ ตอนนี้เพิ่งได้รู้ว่า เวลาเขาอ่อนแอเขาก็เหมือนเด็กคนหนึ่ง เขาในตอนนี้ยิ่งปลุกความเป็นแม่ในตัวของเธอให้เอ่อล้นออกมา
มันเป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากความรู้สึกที่มีให้กานต์อย่างสิ้นเชิง เพราะมับแอบแฝงไปด้วยความรัก จึงทำให้เธอไม่โกรธและไม่เสียใจ
“ผมเคยบอก ว่าจะไม่ทำให้คุณลำบากอีก แต่หลังจากที่คุณแต่งงานกับผม ก็เหมือนจะทำให้คุณลำบากมากกว่าตอนคุณอยู่กับครอบครัว ผมมันไม่ได้เรื่อง ปกป้องคุณก็ไม่ได้ ผมไม่กล้าจินตนาการเลย ถ้าตอนนั้นผมกลับมาแล้วเห็นคุณนอนอยู่บนเตียงในสภาพแบบนั้น ผมจะทำยังไง? ขนาดภรรยาตัวเองผมยังปกป้องไม่ได้ ผมมันคุณชายภาษาอะไรวะ คนอย่างผมยังเป็นลูกผู้ชายได้อยู่เหรอ?”
บุริศร์ต่อว่าตัวเองออกมามากมายเหมือนน้ำหลาก เขาแทบจมอยู่กับคำต่อว่าเหล่านั้น
เขาคิดมาตลอดว่าการที่เขาแบกรับทุกสิ่งทุกอย่าง มันคือวิถีลูกผู้ชาย แต่เมื่อได้รู้เรื่องทุกอย่างของนรมน เขาถึงได้พบว่าตัวเองไม่ใช่อย่างที่กล่าวมาเลย
เขามันไม่ได้เรื่อง เอาแต่ทำให้ผู้คนรอบข้างต้องตกอยู่ในอันตรายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“นรมน ผมขอโทษ”
“เลิกขอโทษได้แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษฉัน ทุกอย่างฉันเลือกเอง และฉันก็เลือกคุณ เลือกที่จะมีชีวิตแบบนี้ ฉันรู้ว่าการเป็นภรรยาของคุณต้องแบกรับความยากลำบากแบบไหนบ้าง ฉันเตรียมตัวมาแล้ว เพราะฉะนั้นบุริศร์ คุณอย่าพูดว่าตัวเองไม่ได้เรื่อง คุณไม่ใช่เทพเจ้า คุณก็แค่มนุษย์ธรรมดา ฉันรู้ว่าคุณพยายามปกป้องฉันและลูกๆอย่างเต็มที่แล้ว ฉันเคยบอกแล้วไง ว่าฉันและคุณลงเรือลำเดียวกันแล้ว และฉันไม่ได้พูดเล่นๆด้วย”
คำพูดของนรมนยิ่งทำให้บุริศร์เสียใจมากกว่าเดิม
“บางครั้งผมก็อยากให้คุณอ่อนแอเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆบ้าง ผมอยากให้คุณพึ่งพาผม เชื่อใจผมเยอะๆ คุณไม่รู้หรอก ว่าการที่ได้เห็นคุณเข้มแข็งแบบนี้ มันทำให้ผมยิ่งรู้สึกสงสารคุณมากขนาดไหน”
มือที่กอดนรมนอยู่เริ่มสั่นขึ้นมาเล็กน้อย
ความรู้สึกที่เกือบสูญเสียเธอไป ทำให้เขารู้สึกหม่นหมองและหดหู่เป็นอย่างมาก
“สามีภรรยาก็เหมือนคนคนเดียวกันนั่นแหละ คุณสงสารฉัน แล้วทำไมฉันจะไม่สงสารคุณล่ะ? อย่าเป็นแบบนี้สิ ถ้าคนอื่นมาเห็นเข้า จะคิดว่าฉันแกล้งคุณเอานะ”
นรมนปลอบใจบุริศร์
เธอไม่รู้ว่าบุริศร์ไปเจออะไรมา หรือไปรับรู้อะไรมาในระหว่างที่เธอหลับ แต่บุริศร์ที่เป็นแบบนี้น่าสงสารมากๆ มากซะจนเธอเริ่มหายใจติดขัด
บุริศร์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดขึ้นมาว่า “ผมโชคดีจัง ที่ได้คุณมาเป็นภรรยา”
“คนโง่”
นรมนหัวเราะออกมา
ขอแค่บุริศร์อยู่ข้างๆเธอ ไม่ว่าต้องเจออะไร เธอก็ไม่เสียใจ
เธอเป็นคนหัวดื้อ และเธอก็รักผู้ชายที่ตัวเองเลือกอย่างไม่สนสิ่งใด
“ผมเป็นคนโง่ แล้วคุณเป็นอะไร? ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น ผมว่าคงหนีไปตั้งนานแล้ว มีแค่คนซื่อบื้ออย่างคุณเท่านั้นแหละ ที่ยังยอมอยู่ข้างๆ และคอยเป็นห่วงผม ต้องมาเห็นเรื่องชั่วร้ายและอันตรายรอบๆตัวผมแต่คุณก็ไม่เคยไปไหน”
“หยุดพูด แล้วก็ลุกขึ้นได้แล้ว เราไปรับลูกที่โรงเรียนกัน พวกเขารู้แล้วว่าคุณกลับมาวันนี้ ถ้าเราไปรับพวกเขาด้วยกัน พวกเขาต้องดีใจมากแน่ๆ”
นรมนไม่อยากให้บุริศร์จมอยู่กับการต่อว่าตัวเอง
เธอรู้ ว่าบุริศร์เป็นห่วงเธอ และรู้สึกผิดที่เธอต้องแบกรับเรื่องราวมากมายเหล่านี้ แต่เธอไม่เคยต้องการให้บุริศร์รู้สึกผิดเลย
เมื่อได้ยินที่นรมนพูด บุริศร์ก็รีบมองเวลา “เด็กๆเลิกเรียนกี่โมง?”
“สี่โมง! เหลือเวลาไม่เยอะแล้วค่ะคุณชาย”
บุริศร์รีบรุดลงจากเตียง แล้ววิ่งไปเข้าห้องน้ำ ท่าทางแบบนั้นทำให้เขาดูราวกับเป็นเด็ก
เธออดหัวเราะออกมาไม่ได้
ราวกับบุริศร์นึกอะไรขึ้นมาได้ เขาจึงชะโงกหน้าออกมาจากห้องน้ำแล้วพูดว่า “ผมไปรับพวกเขาเองก็ได้นะ คุณส่งที่อยู่โรงเรียนมาให้ผมก็ได้ ร่างกายของคุณไม่ค่อยดี อย่าออกไปเลย”
“ไม่เป็นไร โพนี่บอกฉันว่า ตอนนี้ร่างกายของฉันไม่เป็นอะไรมากแล้ว ประเด็นคือฉันรับปากเด็กๆเอาไว้แล้วว่าจะไปรับพวกเขาพร้อมกันกับคุณ เพราะงั้นจะทำให้เด็กๆผิดหวังไม่ได้สิ ช่วงนี้ฉันยิ่งละเลยพวกเขาบ่อยอยู่ ฉันทำหน้าที่ไม่สมกับเป็นหม่ามี๊พวกเขาเลย”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์นิ่งไป จากนั้นเขาก็พูดออกมาว่า “ไปด้วยกันก็ได้ แต่ถ้าคุณไม่สบายตรงไหน ต้องบอกผมทันทีเลยนะ”
“โอเค ฉันไม่ใช่คนขี้โรคขนาดนั้นซะหน่อย คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉันขนาดนี้ก็ได้ ฉันมีแค่สภาพจิตใจเท่านั้นแหละที่ยังไม่ค่อยหายดี อย่างอื่นไม่ได้อ่อนแออย่างที่คุณคิดหรอกน่า”
นรมนไม่อยากให้บุริศร์เป็นห่วงตัวเองขนาดนี้ จึงพูดออกมายิ้มๆอย่างไม่คิดอะไรมาก
แต่ยิ่งเธอเป็นอย่างนี้ บุริศร์ก็ยิ่งเจ็บปวดและสงสาร
“ก็ได้ แล้วแต่คุณ”
เขามองนรมนอย่างรักใคร่ จากนั้นก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความรวดเร็ว
นรมนเองก็จัดการตัวเองเรียบร้อย จากนั้นไม่นานทั้งสองก็ออกจากบ้านไป
เมื่อคุณนายตระกูลโตเล็กเห็นพวกเขาคุยไปยิ้มไป ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา ถ้าหากตรินท์มีคนมาคอยเข้าอกเข้าใจแบบนี้เหมือนกัน ครอบครัวของเธอก็คงจะสมบูรณ์แบบ
พอนึกถึงตรินท์ คุณนายตระกูลโตเล็กก็ยังคงอาวรณ์อยู่เสมอ
เธอจึงโทรไปหาเขา เพื่อบอกให้เขากลับมาทานข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา
ตอนแรกตรินท์บอกว่าไม่ว่าง แต่ต่อมาเมื่อได้ยินน้ำเสียงแกมคำสั่งของคุณนายตระกูลโตเล็ก เขาถึงได้ตอบตกลง
ขณะเดียวกันเขาก็ไม่มีทางได้เห็นความเจ็บปวดเสียใจในแววตาของคุณนายตระกูลโตเล็กเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...