บทที่ 499 เจอเรื่องอะไรมาหรือเปล่า?
กิจจาร้องไห้จนหลับไปอยู่ในอ้อมกอดของนรมน แม้จะหลับไปแล้วแต่ก็ยังสะอื้นออกมาเป็นพักๆ อย่างน่าสงสาร
นรมนวางกิจจาลงบนเตียง จากนั้นก็หยิบยามาทาแผลให้เขา
ยิ่งเห็นมากเท่าไหร่ ในใจก็ยิ่งรู้สึกรับไม่ได้
กานต์ยืนอยู่ข้างๆไม่ได้ไปไหน
เมื่อเขาเห็นว่านรมนทายาให้กิจจาเสร็จแล้ว. ถึงได้พูดขึ้นมาว่า "หม่ามี๊ ผมอยู่กับกานต์ที่นี่ได้ไหม?"
"ได้สิ แต่เขาน่าจะเหนื่อย หนูอย่าทำให้เขาตื่นล่ะ"
เมื่อนรมนเห็นลูกชายมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกานต์ ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา
"ครับ"
กานต์พยักหน้า
เห็นกานต์เป็นแบบนี้ นรมนก็รู้ว่าเขากำลังกังวล และเธอก็กลัวว่าเขาจะโกรธตรินท์ จึงพูดขึ้นมาว่า "เรื่องวันนี้ อย่าไปเอาเรื่องคุณอาเขาเด็ดขาด เข้าใจไหม?"
"แต่เขาตีกิจจานะ!"
ดวงตาของกานต์หรี่ลงเล็กน้อย
นรมนรู้ว่าเด็กสองคนนี้ผูกพันกันมาก พอเห็นกานต์เป็นแบบนี้ นรมนก็ต้องถอนหายใจออกมา "เขาเป็นอาหนูนะ แล้วก็เป็นพ่อของกิจจาด้วย ถ้าแด๊ดดี้ของหนูตีหนู แล้วหนูต้องจัดการแด๊ดดี้ด้วยไหม?"
"แด๊ดดี้ไม่มีทางตีผมแบบนี้แน่"
คิ้วของกานต์ขมวดแน่น
นรมนรู้ว่าในใจของเขาไม่สามารถก้าวผ่านปัญหานี้ไปได้ พูดตามตรง เธอเองก็โกรธที่ตรินท์ทำอย่างนี้ แต่ว่าจะปล่อยให้เด็กคิดอย่างนี้ไม่ได้
"เอาล่ะ พ่อแม่แต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าหนูสงสารกิจจา หลังจากนี้หนูก็ทำดีกับเขาให้มากๆ เข้าใจไหม?"
"เข้าใจครับ ผมจะปกป้องเขาเอง"
กานต์พยักหน้า
"เอาล่ะ หนูอยู่กับกิจจานะ หม่ามี๊จะไปดูแด๊ดดี้กับคุณย่า ถ้าได้เวลากินข้าวจะมาเรียกพวกหนูนะ"
"ครับ"
กานต์นิ่งเป็นอย่างมาก
เขาล้างหน้าล้างตา แล้วมานั่งอยู่ข้างเตียงกิจจา จากนั้นก็นั่งจ้องกิจจาตาไม่กระพริบ
นรมนถอนหายใจ แล้วส่ายหัว จากนั้นถึงได้เดินออกไปจากห้อง
อารมณ์ของคุณนายตระกูลโตเล็กยังไม่สงบลง
บุริศร์เองก็ไม่ทันได้ทายา ทำเพียงแค่พูดเสียงเบาอยู่ข้างๆผู้เป็นแม่
"แม่ครับ พวกเราไม่รู้ว่าตรินท์ผ่านอะไรมา เขาอาจจะเข้มงวดกับกิจจาไปบ้าง แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นพ่อ บางทีหลังจากตีกิจจาแล้ว เขาอาจจะเสียใจเหมือนกันก็ได้ แม่อย่าโกรธเขาเลยนะ"
"แกยังจะพูดแทนเขาอีกนะ"
เมื่อคุณนายตระกูลโตเล็กนึกถึงบาดแผลบนตัวของกิจจาก็โกรธเป็นอย่างมาก
"เขายังเป็นพ่ออยู่เหรอ? แกดูสิ พ่อที่ไหนตีลูกตัวเองจนมีสภาพแบบนี้! ก็ว่าอยู่ ทำไมถึงพากิจจาออกไปไม่ให้พอเจอผู้คน ที่แท้ก็พาหลานฉันไปทารุณกรรมในที่ที่ไม่มีใครเห็นนี่เอง"
ยิ่งคิดคุณนายตระกูลโตเล็กยิ่งโกรธ
นรมนเดินเข้ามา แล้วพูดว่า "คุณแม่คะ กิจจาหลับไปแล้ว ฉันทายาให้เขาแล้วเรียบร้อย คุณแม่สบายใจได้ค่ะ ตอนนี้มีกานต์อยู่เป็นเพื่อนกิจจา"
"แผลเยอะไหม? ฉันไม่กล้าดู"
คุณนายตระกูลโตเล็กถอนหายใจออกมา "เด็กคนนี้ช่างอาภัพจริงๆ แม่แท้ๆของตัวเองก็ไม่เอาถ่าน จากโลกไปก็เร็ว ตอนนี้พอพ่อแท้ๆของตัวเองกลับมา ยังต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้อีก นี่ถ้าความอดทนของเขาไม่ดีพอจนกลายเป็นเด็กปิดกั้นตัวเอง ฉันต้องรู้สึกผิดกับพ่อของพวกแกที่ตายไปแล้วขนาดไหน?"
ยิ่งพูดดวงตาของคุณนายตระกูลโตเล็กก็ยิ่งเปียกชื้น
บุริศร์เองก็รับไม่ค่อยจะได้
พูดมาถึงตรงนี้ จริงๆแล้วกิจจาก็เป็นเด็กที่เขาเลี้ยงมากับมือ เมื่อมาเห็นกิจจาในสภาพนี้ แล้วเขาจะไม่สงสารได้ยังไงไหว? และวิธีการสั่งสอนลูกของตรินท์มันก็ไม่ถูกต้องจริงๆ
นรมนถือกล่องยา แล้วจับหน้าบุริศร์ให้หันมาหา จากนั้นก็ค่อยๆทายาให้เขา พร้อมทั้งพูดกับคุณนายตระกูลโตเล็กว่า "เมื่อก่อนตรินท์ก็เป็นแบบนี้เหรอคะ?"
"จะเป็นไปได้ยังไง? เมื่อก่อนตรินท์เป็นคนอบอุ่นจะตายไป ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นอะไรไป ช่วงนี้ถึงได้โมโหง่ายแบบนี้"
คำพูดของคุณนายตระกูลโตเล็กทำให้นรมนชะงักไปเล็กน้อย
"โมโหง่าย? เพราะเจอเรื่องอะไรมาหรือเปล่าคะ?"
ถ้าเป็นคนเรียบๆง่ายๆ จู่ๆก็ไม่น่าจะขี้โมโหขึ้นมาอย่างนี้
ทันใดนั้นบุริศร์ก็นึกถึงคำพูดที่คุณนายตระกูลโตเล็กเคยพูดกับตัวเองเมื่อไม่นานมานี้ และแน่นอน ว่าคุณนายตระกูลโตเล็กก็นึกถึงเหมือนกัน
ทั้งสองมองตากัน แล้วเงียบไปพร้อมกัน
เมื่อนรมนเห็นทั้งสองคนเงียบไป ก็เอ่ยถามอย่างสงสัยว่า "เป็นอะไรไป? ฉันพูดอะไรผิดหรือเปล่า?"
"เปล่า แค่จู่ๆก็นึกขึ้นมาได้ ว่าช่วงนี้ตรินท์อาจจะเจอเรื่องอะไรมาเหมือนอย่างที่ว่าจริงๆ"
"คะ?"
นรมนชะงักไปเล็กน้อย
บุริศร์พูดเสียงเบาว่า "ตั้งแต่ที่รับช่วงต่อบริษัทบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัด เขาก็ยุ่งมาตลอด. ผมได้ยินมาว่าช่วงนี้เขากำลังทุ่มเทให้กับแผนการเคลื่อนย้ายแถบชานเมืองทิศใต้. แต่ก็ได้ยินมาว่าการดำเนินงานไม่ค่อยราบรื่น ผู้ถือหุ้นของบริษัทหลายคนต่างก็พากันร้องเรียน อาจจะเพราะมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน. ถึงยังไงตรินท์ก็เพิ่งรับช่วงต่อ. ก็เลยอาจจะขัดแย้งกับเหล่าผู้มีประสบการณ์อย่างเลี่ยงไม่ได้"
เมื่อได้ยินที่บุริศร์พูด นรมนก็เข้าใจในทันที
"ผู้ถือหุ้นพวกนั้นเอาคุณไปเปรียบเทียบกับตรินท์เหรอ?"
ถ้าไม่ใช่แบบนี้ ตรินท์ก็คงไม่สุดโต่งขนาดนั้นหรอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...