บทที่ 500 ผู้ชายดีๆก็ควรเป็นทหารกันทั้งนั้น
ความจริงแล้วกิจจาหลับไม่ค่อยสนิท
หลายวันมานี้เขาต้องแบกรับทุกอย่าง จึงทำให้เขาไม่สามารถหลับได้อย่างสนิท
หลังจากที่นรมนออกไปไม่นาน กิจจาก็ตื่นขึ้นมา แล้วคิดจะลงจากเตียงในทันที แต่เมื่อเห็นว่ากานต์นั่งอยู่ข้างๆเตียง จึงชะงักไปชั่วขณะ
“เฮียมาอยู่นี่ได้ไง?”
“ฉันกลัวหลับไม่ตื่น”
กานต์พูดออกมาเสียงเบา จากนั้นก็ลุกขึ้นไปเทน้ำมาให้กิจจา
กิจจาค่อนข้างประหลาดใจที่ถูกดูแลเป็นอย่างดี
เมื่อก่อนมีแต่เขาคอยเทน้ำให้กานต์ บัดนี้กานต์ผู้เย็นชากลับเป็นกันเองอย่างไม่คาดคิด เขาจึงไม่ค่อยชินเท่าไหร่
“เอาไปสิ!”
เมื่อกานต์เห็นกิจจามองมาที่ตัวเองอึ้งๆ ก็นึกว่าเขาถูกตีจนกลายเป็นคนซื้อบื้อไปแล้ว
กิจจารีบรับมา จากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างโง่ๆ
“ยิ้มอะไร?”
“ไม่มีอะไร ก็แค่คิดว่ามีเฮียอยู่ด้วยนี่มันดีจริงๆ”
คำพูดของกิจจาทำให้กานต์หมดคำจะพูด
เขาเดินไปที่ประตู แล้วเปิดออกไปดู เมื่อเห็นว่าพวกนรมนกำลังพูดคุยกันอยู่ข้างล่าง ไม่มีใครสนใจทางนี้ เขาถึงได้ปิดประตูลงพร้อมกับลงกลอน จากนั้นก็มานั่งข้างๆกิจจา
เมื่อเห็นกานต์ทำแบบนี้ กิจจาก็สงสัย
“เฮียทำอะไร?”
“ฉันมีเรื่องจะบอก”
ท่าทางลับๆล่อๆของกานต์ ทำให้ความสงสัยของกิจจาก่อเกิดขึ้นมา
“เรื่องอะไรเหรอ?”
กานต์มองมาที่กิจจา ราวกับกำลังครุ่นคิดว่าควรพูดดีไหม ท่าทางสับสนพวกนั้นทำให้กิจจาเริ่มกระวนกระวายขึ้นมาบ้างแล้ว
“ตกลงเฮียจะพูดอะไร?”
“เราหนีออกจากบ้านกันไหม”
คำพูดของกานต์ทำให้กิจจาสะดุ้ง
“หนีออกจากบ้าน? เฮียจะบ้าเหรอ?”
“ซู่วว——“
กานต์รีบปิดปากของกิจจาเอาไว้ แล้วพูดว่า “นายยังอยากอยู่ที่นี่อีกเหรอ? นายดูแผลบนตัวนายสิ ถึงตอนนี้จะมีคุณย่ากับพ่อของฉันคอยปกป้องนายอยู่ แต่ยังไงพ่อนายก็คือพ่อนาย ต้องมีสักวันที่พานายกลับไป แล้วฉันจะไปพูดอะไรได้? ห้ามไม่ให้นายไปกับพ่อของนายได้เหรอ?นายไปกับเขาก็มีแต่ลำบาก”
ดวงตาของกิจจาหม่นแสงลงทันที
“แต่เขาเป็นแด๊ดดี้ของผมนะ ผมไม่ฟังเขาไม่ได้หรอก อีกอย่างเขาก็หวังดีกับผมด้วย เคยมีคนบอกว่าที่พ่อผมทำอย่างนี้ก็เพราะว่าเขาตั้งความหวังกับผมไว้มากเขาถึงได้เข้มงวดกับผม”
“ถุยเถอะ! คนเราสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้! ยังจำโค้ชคนเมื่อก่อนได้ไหม? เขาบอกว่าเราเก่งเหมือนกันไม่ใช่หรือไง? แด๊ดดี้ของนายน่ะเป็นบ้าไปแล้ว ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปนายคงถูกตีจนตายแน่ ถึงตอนนั้นฉันก็ไม่มีนายเป็นพี่น้องแล้วนะ”
คำพูดของกานต์ทำให้กิจจาเงียบไป
พูดตามตรง เขาเองก็ไม่อยากกลับไปที่ฐานทัพกับตรินท์
ที่นั่นทรมานเกินไป
อีกอย่างตรินท์ก็ตั้งความหวังกับเขามากเกินไป แผนการฝึกที่จัดเตรียมไว้ให้เขา เขาก็ไม่สามารถทำสำเร็จสักอย่าง
“ผมไปคนเดียวได้ ถ้าเฮียไปกับผม คุณลุงกับหม่ามี๊ต้องเป็นห่วงแน่ๆ”
กิจจามองมาที่กานต์ เขารู้ดีว่ากานต์ไม่เหมือนเขา
บุริศร์กับนรมนแทบจะโอบอุ้มกานต์เอาไว้ในมือขนาดนั้น
แต่กานต์กลับพูดออกมาอย่างไม่คิดอะไรว่า “ไม่ต้องห่วง ฉันจะเขียนจดหมายไว้ให้พวกเขา”
“แล้วเฮียจะไปไหน? มีจุดมุ่งหมายไหม?”
เมื่อกิจจาเห็นประกายวาวโรจน์ในดวงตาของกานต์ ก็คิดขึ้นมาได้ทันทีว่า แต่ไหนแต่ไรกานต์ไม่เคยทำเรื่องที่ตัวเองไม่ถนัด งั้นก็แปลว่าเขาหาลู่ทางไว้ตั้งนานแล้วงั้นเหรอ?
กานต์หัวเราะฮิๆ จากนั้นก็หยิบนามบัตรออกมา “ดูนี่ นี่คือชมรมยิงปืน ตามที่ได้ยินมาในนี้มีแต่ของจริงทั้งนั้น วันนี้ฉันเจอคนหนึ่งที่สวนสนุกมา เขาบอกหม่ามี๊ฉันว่า เขาสามารถฝึกฉันจนกลายเป็นนักแม่นปืนได้แน่นอน นายเองก็รู้ ว่าฉันชอบสิ่งนี้มาก นายเองก็ยิงปืนได้ไม่เลวเลยนี่ เราไปที่นั่นด้วยกันได้นะ อีกอย่างที่นั่นน่าจะมีที่กินที่พักให้ด้วย พวกเราไม่จำเป็นต้องไปนอนกลางดินกินกลางทรายกันเลยด้วยซ้ำ แล้วฉันก็พอมีเงินอยู่บ้าง พอให้เราใช้แน่นอน”
เมื่อกิจจาเห็นนามบัตร ก็ขมวดคิ้วนิดๆ “เชื่อถือได้เหรอ?”
“ไปดูก็รู้แล้วไหม? ถ้าเชื่อถือไม่ได้ คนฉลาดอย่างพวกเรา ยังไงก็หนีออกมาได้อยู่แล้ว สบายใจเถอะน่า ถ้านายไม่อยากไป ฉันไปคนเดียวก็ได้ แต่เราตกลงกันแล้วนะ ถ้าฉันไปนายห้ามบอกหม่ามี๊กับแด๊ดดี้ของฉันเด็ดขาดว่าฉันไปไหน เข้าใจไหม?”
กานต์เก็บนามบัตรกลับมาอย่างระมัดระวัง
เมื่อกิจจาเห็นกานต์ตั้งใจจะไปจริงๆ ก็เริ่มหวั่นไหว
ตอนนี้เขาเจ็บไปทั้งร่างกาย แม้ว่าจะทายาแล้วก็ตาม. ถ้าพ่อของเขากลับพรุ่งนี้. เขาก็ต้องกลับไปกับพ่อใช่ไหม?
พอกลับไปที่ฐานทัพ ก็ต้องกลับไปฝึกอะไรพวกนั้นข้ามวันข้ามคืน บางทีอาจจะถึงขั้นถูกตีด้วยก็ได้
ในเมื่อเป็นแบบนี้. หนีไปชมรมยิงปืนอะไรนั่นกับกานต์จะไม่ดีกว่าเหรอ ถึงตอนนั้นยังไงเขาก็คงได้เรียนแค่ทักษะเดียวอยู่แล้ว
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ กิจจาก็พูดออกมาว่า "เราจะไปตอนไหน?"
"คืนนี้ ตอนแรกฉันว่าจะรออีกสักวันสองวัน แต่ถ้าคุณอากลับพรุ่งนี้ ก็คงพานายกลับด้วยแน่ๆ พอแบบนั้นถ้าจะไปหานายคงยากแล้วล่ะ เพราะงั้นนายลองคิดดีๆ ว่าจะไปกับฉันไหม? นายสบายใจได้เลย ฉันจะปกป้องนายเอง"
กานต์ตบไหล่กิจจาอย่างยึดมั่นในสัจจะ
กิจจาเริ่มรู้สึกเจ็บขึ้นมานิดๆ แต่หัวกลับโลดแล่น
"ผมจะไปกับเฮีย!"
กิจจาไม่อยากใช้ชีวิตโดยมีตรินท์คอยวางแผนไว้ให้ อีกอย่างเขาก็พยายามมามากพอแล้ว แต่ก็ไม่เคยตรงตามเงื่อนไขของตรินท์สักที
เมื่อกานต์ได้ยินแบบนั้น ก็ดีใจขึ้นมาทันที
"งั้นฉันจะกลับไปเก็บของ"
"เก็บทำไม? เราเอาแค่บัตรเอทีเอ็มไปก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ?"
คำพูดของกิจจาทำให้กานต์มองบนในทันที
"นายโง่หรือไง? ถ้าเรารูดบัตร พวกเขาก็รู้สิว่าเราอยู่ที่ไหน เราต้องเอาเงินสดไปเท่านั้น"
"นั่นสิ ทำไมผมถึงคิดไม่ได้นะ"
กิจจาลูบท้ายทอยของตัวเองแล้วพูดว่า "แต่ถ้าเป็นเงินสดเราต้องเอาไปเยอะๆนะ ถ้าเกิดโดนปล้นขึ้นมาจะทำยังไง?"
"ไม่ต้องห่วงน่า. ฉันมีวิธี!"
กานต์พูดอย่างมีลับลมคมใน จากนั้นก็พูดเสียงเบาว่า "นายดูต้นทางไว้ เดี๋ยวฉันจะกลับไปเก็บของที่ห้อง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...