บทที่ 503 พวกเขาเกือบถูกจับได้แล้ว
นรมนก็ไม่เข้าใจปัญหานี้เช่นกัน ไม่คิดมันแล้ว
“เรื่องนี้ค่อยๆ โผล่ออกมา คุณเพิ่งกลับมา อย่าไปคิดมากเลย ตอนนี้เห็นคุณซีดเซียวแบบนี้ เราพักผ่อนกันดีกว่า พรุ่งนี้รอให้จิตใจแจ่มใส เราค่อยมาสืบเรื่องพวกนี้กันต่อ”
นรมนปลอบบุริศร์
แต่นี่ยังไม่ถึงสองทุ่มเลย จะหลับลงได้อย่างไร?
บุริศร์เอามือเธอวางไว้ในอ้อมอก แล้วพูดเสียงทุ้ม “รู้ไหม? แปดวันนี้สิ่งที่ฉันอยากทำมากที่สุดคือกอดคุณไว้ในอ้อมแขน เราไม่ต้องทำอะไรก็ได้ แค่คุยกันแบบนี้ ไม่ว่าจะคุยเรื่องลูก คุยเรื่องอนาคตของเรา หรือคุยเรื่องอดีตของเราก็ได้”
“คุณอยากคุยอะไร? ฉันคุยเป็นเพื่อน”
นรมนยังคงคลอเคลียข้างกายบุริศร์ ช่วงเวลานี้น่าพอใจจริงๆ
เธอไม่รู้ว่าร่างกายตัวเองจะทนได้นานแค่ไหน และไม่รู้ว่าสารพิษในร่างกายเธอจะทำให้เธออยู่กับเด็กๆ และบุริศร์ได้อีกนานแค่ไหน แต่ถ้าได้ใช้ชีวิตเงียบสงบแบบนี้ในทุกๆ วันต่อไป เธอรู้สึกว่ามันก็ดีแล้ว
บุริศร์จูบผมของเธอแล้วพูดขึ้น “ชีวิตนี้มีคุณ สำหรับฉันมันก็เป็นของขวัญจากพระเจ้าแล้ว”
“พูดไร้สาระอีกแล้ว”
“จริงๆ นะ ฉันรู้สึกแบบนี้ พรุ่งนี้ไปเยี่ยมตระกูลทวีทรัพย์ธาดากันเถอะ”
คำพูดบุริศร์ทำให้นรมนตกตะลึงนิดหน่อย
“ไปตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเหรอ?”
“ใช่ ไปตระกูลทวีทรัพย์ธาดา!”
บุริศร์มองนรมน แล้วพูดเสียงทุ้ม “คุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดาก็เหมือนกับฉัน โดนคนวางยาพิษ เป็นพิษชนิดหนึ่ง ได้มาจากนาคร แต่นาครตรินท์เป็นคนเฝ้ามอง ถ้าตังเมหนีออกไปได้ ตุลยาก็หนีไป ตังเมโดนเจตต์ควบคุมอยู่ แล้วตุลยาล่ะ? นาครอยู่ที่ตรินท์หรือเปล่าฉันยังไม่รู้ ฉันอยากไปดูจริงๆ นะ แต่กลัวไปดูแล้วจะเป็นการดึงดูดตรินท์ รู้สึกว่าฉันไม่ไว้ใจเขา”
บุริศร์ก็ค่อนข้างสับสนไปกันใหญ่แล้ว
ถ้าไม่มีเรื่องในวันนี้ ถ้าทั้งสองคนไม่ได้ทะเลาะกันวันนี้ บางทีพรุ่งนี้จะสามารถหาเหตุผลไปดูว่านาครอยู่หรือไม่ แต่ตอนนี้ทะเลาะกับตรินท์จนเป็นแบบนี้ เขาเดาว่าแผนนี้ต้องหยุดสักพัก
“ตอนนี้เราทำได้แค่ไปเยี่ยมตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ว่าสามารถหาเบาะแสอะไรเจอได้ไหม ถึงแม้ตุลยาจะไม่อยู่แล้ว แต่อาจจะทิ้งร่องรอยไว้ ทิ้งบางอย่างไว้มากพอ”
นรมนขมวดคิ้วเล็กน้อย
พูดตามตรง เธอไม่ค่อยอยากไปตระกูลทวีทรัพย์ธาดา
เพราะคุณนายทวีทรัพย์ธาดา และเพราะความทรงจำบางอย่างที่ไม่ดีพวกนั้น แต่ตอนนี้ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ เธอก็รู้ว่าบางเรื่องมันหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ตกลง พรุ่งนี้ฉันจะไปกับคุณ”
“ไปตระกูลทวีทรัพย์ธาดาทำให้คุณอึดอัดหรือเปล่า?”
บุริศร์กำลังมองนรมน รู้ความคิดในใจนรมนอย่างแน่นอน
นรมนยิ้มแล้วพูดขึ้น “ก็ไม่ถือว่าอึดอัดหรอก แต่รู้สึกไม่ค่อยอยากไป แต่ในเมื่อทำเพื่อเรื่องพวกนี้ มันก็ไม่สำคัญสำหรับฉัน”
“ขอโทษที่ทำให้คุณยุ่งยาก”
“ไม่ยุ่งยากหรอก”
ทั้งสองคนพูดกันอีกสักพักหนึ่ง ก็รู้สึกค่อนข้างเหนื่อยแล้ว
คนหนึ่งร่างกายเพิ่งฟื้นตัว อีกคนร่างกายอ่อนแออยู่ ไม่สามารถเทียบกับคนปกติได้อย่างแน่นอน
เห็นนรมนหาวอย่างต่อเนื่อง บุริศร์ก็กอดเธอแล้วพูดขึ้น “พักผ่อนเถอะ”
“ทางด้านลูกๆ ……”
“ทางนั้นมีป้าหวานกับคุณแม่ เราไม่ต้องเป็นห่วง นอนเถอะ”
คำพูดบุริศร์ทำให้นรมนวางใจอยู่บ้าง
ใช่แล้ว ที่นี่คือคฤหาสน์หลังเก่าตระกูลโตเล็ก สามารถรับประกันความปลอดภัยได้
คิดถึงตรงนี้ นรมนก็หาตำแหน่งสบายๆ นอนลงในอ้อมแขนบุริศร์ จากนั้นก็หลับอย่างสงบนิ่ง
แปดวันนี้ของบุริศร์ถือว่าจิตใจเหนื่อยล้า วันนี้ได้กอดภรรยาที่บอบบาง ก็อดไม่ได้ที่จะหลับไปทันที
กมลรบกวนให้กิจจาเล่านิทานให้เธอฟังไม่หยุด
กิจจาก็ไม่เลี่ยง ตราบใดที่เป็นคำขอของกมลก็ตอบตกลงหมด
กานต์เห็นว่าเป็นแบบนี้ ก็ส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดขึ้น “ทำไมฉันรู้สึกว่าพวกเธอเป็นแฝดกันเลย?”
“พี่อิจฉาเหรอ? ริษยาใช่ไหม?”
กมลเขย่าศีรษะ ทำหน้าโอ้อวด
กานต์ขี้เกียจจะสนใจเธอแล้ว
โชคดีที่เด็กคนนี้ซนมาก ถึงแม้จะติดคน แต่พอประมาณสองทุ่มครึ่งก็เหนื่อยอยากนอนแล้ว
“พี่ ฉันง่วงมากอ่า!”
กมลพิงไหล่กานต์ ทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดให้กานต์
กานต์เห็นเธอเป็นแบบนี้ ก็พูดเสียงทุ้ม “กมล”
“หืม?”
กมลสะลึมสะลือบ้างแล้ว เมื่อได้ยินกานต์เรียกตน ก็เผลอตอบ
กานต์มองเธอ แล้วพูดเสียงอ่อนโยน “ถ้าพี่ไม่อยู่บ้าน ต้องดูแลแด๊ดดี้กับหม่ามี้ให้ดีนะ แล้วก็คุณย่า คุณยายและคุณตาด้วย รู้ไหม?”
“รู้แล้ว”
กมลตอบโดยไม่รู้ตัว
กิจจาเห็นว่าเป็นแบบนี้ ก็รีบเรียกป้าหวานมาพากมลไปพักผ่อน
เมื่อในห้องเหลือแค่กานต์กับกิจจาสองคน กิจจาก็ลังเลอยู่บ้าง
“จะไปเงียบๆ แบบนี้จริงๆ เหรอ? พวกเขาจะเป็นห่วงนะ”
“แล้วนายอยากอยู่ต่อไหม? อยู่ต่อให้แด๊ดดี้นายปฏิบัติอย่างโหดร้าย? ให้หม่ามี้ฉันเห็นแล้วสงสาร? เราแค่ออกไปแล้วกลับมา แด๊ดดี้นายจะไม่กล้าตีนายอีก”
คำพูดกมลทำให้คิ้วกิจจาขมวดขึ้นมาอีกครั้ง
เขาค่อนข้างทนไม่ไหวกับความเข้มงวดของตรินท์จริงๆ
“แต่ถ้าเราสองคนไปแล้ว ตระกูลโตเล็กก็จะไม่มีเด็กผู้ชาย”
“คุณบุริศร์ไม่ใช่เหรอ? เขาอายุตั้งเท่าไร? อยู่ได้นานหลายปี เอาล่ะ อย่าลังเล รีบเขียนโน้ต เราต้องรีบพักผ่อน ตามข้อตกลงเดิม เดินทางตอนกลางดึก”
“โอเค!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...