บทที่ 584 เขาเป็นใคร
สีหน้าของบุริศร์เปลี่ยนไปเล็กน้อยทันที
“พี่”
ตรินท์เห็นว่าสีหน้าของบุริศร์ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แล้วก็อยากจะพูดอะไร แต่ว่าพออ้าปากแต่กลับไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
เขาอึ้งไปเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นว่า “ใช่ ผมทำเอง ผมทำเองทั้งหมด”
บุริศร์จ้องมองเขา อย่างกับไม่รู้จักเขายังไงอย่างงั้น
เขาเงียบไม่พูดอะไร แววตาที่เรียบเฉยนั้นทำให้ตรินท์รู้สึกลนลานขึ้นมาเล็กน้อย
“พี่ พี่จะไม่ถามผมเหรอว่าทำไม?”
“ฉันว่านายจะต้องมีเหตุผลของนาย แต่ว่าตรินท์ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไร ก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่นายจะเอาออกมาทำร้ายคนในครอบครัวได้”
บุริศร์พูดจบก็จากไปเลย
ตรินท์จ้องมองแผ่นหลังของเขา แล้วก็พูดไม่ออกอยู่เนิ่นนาน
พอเขาเห็นพฤกษ์มาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ หัวคิ้วก็ขมวดขึ้นเล็กน้อย ในใจรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาบ้าง แต่กลับไม่ได้พูดอะไร แล้วก็ถอยออกไปเลย
พฤกษ์ตามบุริศร์มาถึงห้องหนังสือ
“รายงานผลการตรวจเป็นยังไงบ้าง?”
บุริศร์หันหลังให้กับพฤกษ์ แล้วมองไปบนท้องฟ้าภายนอก
บนท้องฟ้าไกล ๆ นั้นไม่มีก้อนเมฆ ดูสว่างสดใสมาก แต่ว่าในใจบุริศร์กลับรู้สึกอัดอั้นจนเจ็บปวด
พฤกษ์ไม่ได้พูดอะไร แล้วก็เอารายงานผลการตรวจให้กับบุริศร์ดู
มือของบุริศร์สั่นไปครู่หนึ่ง แต่ก็ยังสูดลมหายใจลึก ๆ เข้าทีหนึ่ง แล้วก็รับรายงานผลการตรวจไป
ผลการประเมินบนรายงานทำให้ดวงตาของเขาหรี่ลงมาทันที
“มันเป็นไปได้ยังไง? ทำไมถึงเป็นไปได้?”
บุริศร์รีบหันไปมองพฤกษ์ทันที
พฤกษ์พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “นี่เป็นผลที่คุณชายป้องทดสอบเองกับมือ จากนั้นก็เอาให้หน่วยงานผู้มีอำนาจในต่างประเทศตรวจสอบอีกรอบ ต่างก็ได้ผลแบบนี้ครับ”
บุริศร์รีบเอารายงานผลการตรวจมากำไว้แน่น จนเส้นเอ็นสีเขียวบนมือโผล่ออกมาแล้ว
“เขาไม่ใช่ตรินท์! เขาไม่ใช่ตรินท์จริง ๆ ด้วย! ถ้างั้นเขาเป็นใครล่ะ? ตรินท์ของเราหายไปไหนแล้ว? ทำไมเขาถึงได้มีหน้าที่เหมือนกับตรินท์อย่างกับแกะแบบนี้ด้วย?”
ทุกคำถามของบุริศร์ต่างก็ไม่มีใครสามารถตอบเขาได้
พฤกษ์ยืนอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ
เขารู้ว่าตอนนี้ในใจของบุริศร์นั้นเจ็บปวดมากแค่ไหน
นึกมาตลอดว่าตรินท์ตายไปเมื่อห้าปีที่แล้ว แล้วตอนที่ตรินท์กลับมา บุริศร์ก็ดีใจแทบตาย แต่มาวันนี้ผลรายงานการตรวจกลับแสดงผลออกมาว่า เขาไม่ใช่ตรินท์ การสะเทือนใจแบบนี้ทำให้บุริศร์รู้สึกรับไม่ไหวเล็กน้อย
เขารีบออกไปจากห้องหนังสือทันที แล้วมาถึงห้องของคุณนายตระกูลโตเล็ก
ในช่วงระยะนี้มา คุณนายตระกูลโตเล็กอยู่ข้างนอกก็ไม่ได้อยู่อย่างสบายใจมากนะ พอวันนี้เห็นบุริศร์กลับมาแล้ว ก็ถือได้ว่ามีที่พึ่งทางใจแล้ว พอเพิ่งจะอยากจะอาบน้ำให้ผ่อนคลายสักหน่อย ก็เห็นบุริศร์เดินเข้ามาพอดี
ดวงตาของเขาแดงเล็กน้อย อารมณ์ดูร้อนรนเล็กน้อย
“ทำไมเหรอ?”
คุณนายตระกูลโตเล็กรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง แล้วพูดขึ้นว่า “เป็นเพราะว่าตรินท์ใช่ไหม? ยังไงเขาก็เป็นน้องชายของแก ฉันรู้ว่าครั้งนี้ตรินท์ทำเกินไปแล้วจริง ๆ แต่ว่าในฐานะที่เป็นพี่น้องท้องเดียวกันมา แกจะโกรธก็ได้ แต่อย่าทำอะไรเขาเลย......”
“เขาไม่ใช่ตรินท์! เขาเป็นใคร?”
คำพูดของบุริศร์ทำให้คุณนายตระกูลโตเล็กมึนงงขึ้นมา
“แกพูดว่าอะไรนะ?”
บุริศร์เดินเข้ามาทีละก้าวทีละก้าว แล้วก็ปิดประตูลง และยังล็อกประตูจากข้างในด้วย
เขาเอารายงานผมการตรวจยื่นให้กับคุณนายตระกูลโตเล็ก แล้วถามขึ้นว่า “ห้าปีก่อน ตรินท์ตายไปแล้ว เป็นข่าวที่เบื้องบนส่งออกมา ห้าปีให้หลัง แม่ก็มาพูดกับผมว่า เขายังมีชีวิตอยู่ เพียงแต่ว่าเปลี่ยนไปอยู่ใต้ดิน กลายเป็นคนของอาณาจักรรัตติกาลไป ผมก็เชื่อ แล้วก็ยังขอบคุณสวรรค์ที่ไม่ได้แย่งเอาชีวิตของตรินท์ไป และส่งเขากลับมา แต่ว่าตอนนี้แม่จะอธิบายเรื่องรายงานผลการตรวจนี้กับผมยังไงครับ?”
ตอนที่คุณนายตระกูลโตเล็กเห็นรายงานผลการตรวจว่ามีความคล้ายคลึงกันแค่ร้อยละหนึ่งเปอร์เซ็นต์นั้น ก็อึ้งไปครู่หนึ่งแล้วถามขึ้นว่า “นี่เป็นผลตรวจระหว่างแกกับตรินท์เหรอ?”
“ใช่ครับ!”
“ไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นะ?”
“พฤกษ์เป็นคนจัดการด้วยตัวเองเลย”
คำพูดของบุริศร์ทำให้คุณนายตระกูลโตเล็กอึ้งไปอีกครั้ง
พฤกษ์ติดตามบุริศร์มาเป็นสิบปี เขาทำงานละเอียดและรอบคอบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องที่บุริศร์เป็นคนสั่ง เพราะฉะนั้นถ้าเรื่องนี้พฤกษ์เป็นคนจัดการเองจริง ๆ ละก็ งั้นความเป็นจริงก็มีสูงมากแน่
“เป็นไปได้ยังไง? ทั้ง ๆ ที่คือตรินท์ชัด ๆ”
สีหน้าของคุณนายตระกูลโตเล็กดูประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่าตัวเองก็โดนรายงานผลการตรวจนี้กระทบกระเทือนด้วยแล้ว
บุริศร์สูดหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่ง แล้วก็พูดอย่างพยายามสะกดกั้นความเจ็บปวดรวดร้าวขึ้นว่า “ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร แต่ตอนนี้เขามีใบหน้าของตรินท์อยู่ ก็จะต้องห้ามทำให้ชื่อเสียงของตรินท์เสียหาย แล้วก็ยิ่งห้ามใช้ใบหน้าของตรินท์มาทำร้ายผม ทำร้ายลูกของผม ทำร้ายกิจจาอย่างไม่เกรงกลัวอะไรแบบนี้! ผมจะไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่! ไม่ว่าเขาจะเป็นคนของแม่หรือเป็นคนของอาณาจักรรัตติกาล ผมก็จะไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่! ครั้งนี้นรมนเกือบจะตายเพราะเขาแล้ว อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น แม่รู้ไหมครับ? เขากับท่านขุนอินในเมืองใต้ดินสมรู้ร่วมคิดกัน อยากจะได้ความลับของตระกูลโตเล็กเรา เขาอาจจะเป็นคนของทางกรมทหาร และอาจจะไม่ใช่ แต่ว่าขอแค่เขาไม่ใช่ตรินท์ ผมก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเมตตาเขา แล้วผมจะทำอะไร แม่ก็อย่ามาขวางผมละกัน”
คุณนายตระกูลโตเล็กอ้าปากเล็กน้อย แต่แล้วก็ไม่ได้พูดคำพูดขัดขวางอะไร เพียงแต่พูดขึ้นว่า “ตอนนี้นรมนเป็นแบบนี้อยู่ ก็อย่าเพิ่งรับพวกเด็ก ๆ กลับมาเลย”
“ผมรู้แล้วครับ”
บุริศร์พูดจบก็เดินออกไปเลย
พฤกษ์ยังคงรออยู่ที่ห้องหนังสือตลอด
ในตอนที่เขาเห็นบุริศร์กลับมาก็ถามเสียงต่ำขึ้นว่า “ประธานบุริศร์ครับ ขั้นต่อไปเราจะทำยังไงต่อครับ?”
“ไปหากานต์ หลังจากที่เอาของที่ฉันให้เขาจัดการมาไว้ในมือได้แล้ว ค่อยไปหาป้องแล้วเอาสัญญาถือกรรมสิทธิ์ร่วมมา”
“ครับ”
พฤกษ์พูดจบก็ถอยออกไปเลย แต่กลับโดนบุริศร์เรียกตัวไว้
“ไม่ได้ไปดูเจตต์บ้างเหรอ? ขาของเขาเป็นยังไงบ้าง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...