บทที่ 607 แกรนหาที่ตาย
บุริศร์มองไปทางนรมน
นี่ยังไม่ถึงหนึ่งวัน คิดไม่ถึงว่านรมนจะร้องขอความเมตตาเพื่อคนที่ลักพาตัวเธอ?
เขาไม่อาจเข้าใจได้ ดวงตาคู่นั้นค่อนข้างมืดมน
นรมนรู้ว่าบุริศร์เข้าใจผิด แต่ตอนนี้ไม่สามารถอธิบายอะไรได้มาก เธอจึงทำได้เพียงแค่พูดว่า “คิดถึงกิจจาสิ ถึงแม้เขาจะทำผิดมากมาย แต่กิจจาไม่ได้ผิดอะไร เด็กคนนั้นเพิ่งจะได้อยู่กับพ่อของตัวเองกี่วัน?เขาอยู่แถวนี้ ถ้าให้เขารู้ว่าพ่อของเขาไม่อยู่แล้ว เขาจะรับได้อย่างไร?พวกเราเป็นผู้ใหญ่จะเป็นอย่างไรก็ได้ แต่คิดถึงเด็กสิ”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์อึ้งไปสักพัก
ในสมองของเขาปรากฏใบหน้าที่ไร้เดียงสาของกิจจาลอยขึ้นมา
เจ้าตัวเล็กที่เคยเรียกแด๊ดดี้ตามก้นของตนเอง หลังจากเขมิกาตายไปดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเยอะเลย ตอนนี้เกิดเรื่องของตรินท์อีก หัวใจของบุริศร์บีบแน่นฉันพลัน
เขาสามารถลงมือกับใครก็ได้ แต่อย่างเดียวคือไม่สามารถทำร้ายหัวใจของลูก
บุริศร์มองรามิล เกิดความลังเลขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด
รามิลจะไม่รู้ว่าบุริศร์คิดอะไรอยู่ในใจได้อย่างไร ในใจอดยิ้มอย่างขื่นขมไม่ได้
บทบาทเดียวที่เขาทำได้ไม่ดีก็คือการเป็นพ่อ
เขารู้สึกขอโทษต่อกิจจาเด็กคนนั้น!
เพื่อการล้างแค้น เขาไม่ให้ความอบอุ่นแก่กิจจาแม้แต่นิดเดียว แต่กิจจากลับอาลัยอาวรณ์เขาเช่นนี้ ต่อให้เขาตีเขา เขาก็ยังคงชอบเขาเหมือนเดิม เข้าใกล้เขาเหมือนเดิม
นี่อาจจะเป็นพลังของสายเลือด จึงทำให้รามิลมองออกว่ากิจจาโหยหาความรักในครอบครัว
เขาน้ำตาซึมเล็กน้อย
ท่านขุนอินเห็นฉากนี้ จึงอดพูดขึ้นมาไม่ได้ “ประธานบุริศร์ อันที่จริงพวกเราสามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างสันติวิธีจริงไหม?พวกเราแค่ต้องการแบบแปลนและสัญญามอบอำนาจเท่านั้น เพียงแค่คุณส่งให้พวกเรา พวกเราก็จะไม่ทำร้ายตรินท์กับนรมนทั้งสองคนแม้แต่นิดเดียว จะปล่อยพวกเขาไว้ตรงนี้ คุณคิดว่าเป็นอย่างไร?”
บุริศร์มองรามิล ในแววตามีความยุ่งเหยิง แต่ดวงตาคู่นั้นยังคงคลุมเครือไปด้วยความเกลียดชัง
เขาไม่อาจให้อภัยคนที่ปลอมตัวเป็นน้องชายของเขา หลอกลวงความรู้สึกของเขา คนที่ทำร้ายภรรยาของเขา!แต่จริงอย่างที่นรมนพูด ใบหน้านี้ของเขาปลอบโยนจิตใจของกิจจาได้มาก ในจุดนี้ เขาจำต้องตรึกตรอง
รามิลยิ้มอย่างขื่นขม สบตาของบุริศร์ และพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ขอโทษ”
“มาพูดขอโทษตอนนี้ไม่คิดว่ามันสายไปหน่อยเหรอ ?ในเมื่อรู้สึกผิดแล้วจะทำไปทำไม?บุญคุณและความแค้นของนายกับฉัน หลังจากนี้ค่อยๆ คิดบัญชี เพื่อกิจจา วันนี้ฉันจะยกโทษให้นาย แต่นายต้องจำเอาไว้ว่า นายติดหนี้ฉัน ติดหนี้ตระกูลโตเล็ก ฉันจะเอาคืนจากนายทีละนิด”
บุริศร์พูดอย่างเย็นชา ส่วนรามิลแค่ยิ้มอย่างขื่นขม ไม่ได้พูดอะไร
นรมนถึงจะถอนหายใจอย่างโล่งอก
เธอพยายามดิ้นอยู่สักพัก มองธรรศอย่างเกลียดชังและกล่าวว่า “หวังจริง ๆ ว่าบนร่างกายของฉันจะไม่มีเลือดเหมือนกับคุณ คุณทำให้ฉันสะอิดสะเอียนสุดๆ ”
ธรรศกลับกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “จริงเหรอ?น่าเสียดายที่เธอหนีไม่พ้นจากโชคชะตาที่เป็นหลานสาวของฉัน”
นรมนโมโหสุด ๆ แต่ธรรศไม่มองเธออีก แต่หันไปมองทางบุริศร์
“ประธานบุริศร์ ว่าอย่างไร?คิดพิจารณาดีแล้วหรือยัง? พวกเราแค่ต้องการแบบแปลนและสัญญามอบอำนาจ”
สายตาของบุริศร์ถึงจะหันไปมองทางธรรศและนรมน
สายตาของเขากวาดมองบนร่างกายของนรมน เมื่อแน่ใจว่าเธอปลอดภัยจึงพูดว่า “คุณทำให้ผมประหลาดใจจริงๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าธรณีกับคุณนายทวีทรัพย์ธาดารู้หรือไม่ว่าคุณยังมีชีวิตอยู่ รู้หรือเปล่าว่าตอนนี้คุณมีชีวิตสบายแบบนี้?”
“เรื่องนี้ไม่ต้องลำบากประธานบุริศร์หรอก เร็วเข้าเถอะ ผมไม่มีเวลามาก เมื่อได้แบบแปลนและสัญญามอบอำนาจแล้ว ผมต้องรีบกลับไป ไม่อย่างนั้นคุณคิดจริงๆ หรือว่าตรินท์จะสามารถทำให้ผมออกมาได้?”
ได้ยินธรรศพูดแบบนี้รามิลท่าทางมีอารมณ์ขึ้นมา แต่กลับไม่ทำอะไร เหมือนกับรอการตัดสินใจของบุริศร์
ดวงตาของบุริศร์ลดต่ำลง สองมือบีบแน่นจนกลายเป็นกำปั้น
นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาถูกคนกลุ่มนี้คุกคาม
ตั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้ นี่เป็นการทำลายสถิติของเขา
สีหน้าของบุริศร์น่าเกลียดสุดๆ แต่กลับพูดอย่างเย็นชา “ผมเคยบอกแล้วว่าจะให้พวกคุณ แน่นอนว่าจะทำตามที่สัญญา แต่พวกคุณกลับทำให้พวกเราพี่น้องโกรธกัน ทำให้เขาเอาตัวภรรยาของผมไป ไม่รู้ว่าตอนนี้ร่างกายของภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้าง ดังนั้นผมจะให้แบบแปลนกับพวกคุณก่อน ส่วนสัญญามอบอำนาจ ผมจะรอให้ภรรยาของผมกับตรินท์กลับไปอย่างปลอดภัยถึงจะส่งให้พวกคุณ”
“ประธานบุริศร์ แบบนี้ไม่ค่อยดีนะ?”
คำพูดของธรรศทำให้บุริศร์หัวเราะอย่างเย็นชาเล็กน้อย
“ไม่ดี?ตอนนี้ผมไม่มีความเชื่อใจพวกคุณแม้แต่นิดเดียว ปล่อยพวกเขา ให้พวกเขาไป เพียงแค่พวกเขาถึงเมืองชลธี ผมจะส่งสัญญามอบอำนาจให้แก่พวกคุณ ไม่อย่างนั้น พวกคุณไม่ว่าใครก็อย่าคิดจะได้ไปเลย”
“นี่……”
“ลังเลอยู่เหรอ?พวกคุณคิดว่าพวกคุณยังมีเวลาลังเลจริงๆ เหรอ?”
เสียงของบุริศร์เย็นชาลงไปอีก
ในขณะนั้นเอง เสียงใสๆ ของเด็กก็ดังขึ้นมา
“แด๊ดดี้? คุณลุง หม่ามี้!”
เสียงของกิจจาดังมาจากไม่ไกล ทำให้สีหน้าของทุกคนตะลึงไปทันที
“กิจจา ?หนูมาที่นี่ได้อย่างไร?”
เส้นประสาทของนรมนตื่นตัวขึ้นทันที สีหน้าของรามิลก็ดูไม่ได้
ดวงตาของบุริศร์หรี่ลงในชั่วพริบตา เขามองไปทางขุนอินทันที
“ขุนอิน นี่คุณหมายความว่าอะไร?”
“ผมเคยบอกว่าจะไม่เล่นงานยมราช และจะไม่ทำอะไรในโรงพยาบาลของเธอ แต่ผมไม่เคยพูดว่าผมจะไม่ทำอะไรนายน้อยของตระกูลโตเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาอยู่โรงเรียนอนุบาลในเขตเมือง ไม่ได้อยู่ในขอบเขตอำนาจของยมราชจริงไหม?ประธานบุริศร์ คุณก็อย่าโทษผมเลย ผมเพียงแค่ป้องกันไว้ล่วงหน้า จริง ๆ นะ พวกเรายังสามารถร่วมมือกันได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...