บทที่ 616 คนที่ร่วมเตียงเคียงหมอนสามารถเปลี่ยนผู้ชายหนึ่งคนได้
“นอกจากน้ำแล้วท่านยังต้องการอะไรอีก”
คำพูดของนรมนทำให้คุณนายตระกูลโตเล็กชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นจึงได้พูดขึ้น “อยากได้อะไรฉันจะไปรู้ได้อย่างไร ให้ฉันได้คิดก่อนถึงจะรู้ เป็นสะใภ้ของตระกูลโตเล็กเรียกเมื่อไหร่ก็ต้องมาเมื่อนั้น เพราะถึงอย่างไรเธอก็ไม่ได้ไปทำงาน ไม่ได้เป็นคนหาเงิน คิดว่าตัวเองเป็นคุณนายที่จะมาเสวยสุขอย่างนั้นเหรอ”
คำพูดของเธอยิ่งพูดน้ำเสียงยิ่งแดกดัน
นรมนไม่อยากจะสนใจเธออีก จึงพูดกับคนรับใช้ที่อยู่ข้างๆว่า “ไปรินน้ำมาให้คุณนาย”
เมื่อเธอพูดเสร็จก็หันหลังแล้วเดินจากไป โดยที่ไม่สนใจคุณนายตระกูลโตเล็กสักนิดเดียว
เธอดูออกว่า ถ้าเธออยู่ที่นี่ คุณนายตระกูลโตเล็กไม่มีทางรามือ และจะใช้เธอเป็นเป้าในการเล่นงานคนตระกูลทวีทรัพย์ธาดา
เธอไม่ได้ต้องการอยากจะพูดแทนคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา เพียงแต่รู้สึกตัวเองไม่จำเป็นต้องมายืนอยู่ตรงนี้เพื่อให้ทำให้เธออับอายขายขี้หน้า
คุณนายตระกูลโตเล็กเห็นนรมนโอหังเช่นนี้ รู้สึกโกรธมากจึงหยิบแก้วน้ำที่อยู่ข้างคุณนายทวีทรัพย์ธาดา มาโยนใส่หลังของนรมนทันที
“คนที่ไม่ได้รับอบรมสั่งสอน! ฉันใช้เธอมารินน้ำให้ฉัน เธอกลับกล้าใช้คนรับใช้มารินให้ฉัน ตระกูลโตเล็กแต่งเธอเข้าบ้านเพื่ออะไร”
แก้วน้ำนี้เป็นแก้วน้ำชาที่นรมนเพิ่งจะรินให้กับคุณนายทวีทรัพย์ธาดา
นรมนคิดไม่ถึงว่าคุณนายตระกูลโตเล็กจะบ้าคลั่งได้ขนาดนี้ เธอจึงไม่ทันระวัง แก้วน้ำชาที่มีน้ำชาร้อนๆได้ถูกโยนมาใส่ที่แผ่นหลังของเธอ
“นรมน!”
คุณนายทวีทรัพย์ธาดาส่งเสียงกรีดร้องขึ้นทันที
นรมนรู้สึกแผ่นหลังปวดแสบปวดร้อน
“คุณนายตระกูลโตเล็ก นี่ท่านทำอะไร เรื่องที่ธรรศเป็นคนก่อ ทำไมท่านต้องไปลงที่นรมน ท่านทำแบบนี้บุริศร์รู้เรื่องหรือเปล่า”
ธรณีไม่มีการเคลื่อนไหว มีเพียงหน้าที่ถอดสี
คุณนายทวีทรัพย์ธาดา เดินตัวสั่นเทามาหานรมน แล้วพูดอย่างเป็นห่วงว่า “เป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากเลยใช่ไหม มาเดี๋ยวย่าจะพาหนูไปโรงพยาบาล”
เธอพลางพูดพลางยื่นมือไปจูงมือนรมน
มือของเธอที่ค่อนข้างผอมแห้ง
นรมนจำได้ว่าแต่ก่อนนี้มือของเธอค่อนข้างอวบอิ่ม ดูแล้วการเปลี่ยนแปลงในครั้งนั้นทำให้เธอได้รับความลำบากไม่ใช่น้อย
เธอมึนงงอยู่สักพัก ก่อนที่จะชักมือของตัวเองกลับแล้วพูดว่า “ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณมาก คุณนายทวีทรัพย์ธาดา”
นรมนเรียกเธอเหมือนคนแปลกหน้า ทำให้คุณนายทวีทรัพย์ธาดา น้ำตาอาบสองแก้มอีกครั้ง
ผลเป็นแบบเป็นเพราะกรรมที่ตัวเองเคยก่อเอาไว้ เธอไม่สามารถจะโทษคนอื่นได้
แผ่นหลังของนรมนปวดแสบปวดร้อน เธอไม่มีเวลาที่จะไปสนใจคุณนายทวีทรัพย์ธาดา เธอหันไปมองคุณนายตระกูลโตเล็ก แล้วพูดออกมาทีละคำๆว่า “สนุกมากหรือไง”
“สนุกสิ! สนุกมากๆ แล้วยังไง เธอจะลงไม้ลงมือกับฉันหรืออย่างไร”
คุณนายตระกูลโตเล็กที่ไม่สะทกสะท้าน
เป็นครั้งแรกที่นรมนรู้สึกว่าคุณนายตระกูลโตเล็กนั้นยากที่จะต่อกร
เธอยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันไม่กล้าลงไม้ลงมือกับท่านหรอก แต่ทางที่ดีท่านจะทำอะไรควรคิดไตร่ตรองให้ดีถึงผลที่จะตามมา ท่านทำให้หลังฉันได้รับบาดแผล ตอนกลางคืนบุริศร์จะต้องนอนเตียงเดียวกันกับฉัน ท่านลองทายดูสิว่าถ้าเขาเห็นแผ่นหลังของฉันแล้วจะถามฉันหรือเปล่า แล้วฉันจะบอกเขาไหม ท่านแคร์ความรู้สึกของบุริศร์ที่มีต่อท่านมาก กลัวว่าบุริศร์จะไม่ต้องการท่าน แต่ท่านกลับลืมไปว่า คนที่ร่วมเตียงเคียงหมอนสามารถเปลี่ยนผู้ชายหนึ่งคนได้”
“เธอมันไร้ยางอาย! เธอมันสารเลว!”
คุณนายตระกูลโตเล็กโกรธจนหยิบสิ่งของมาโยนใส่นรมนอีกครั้ง
ครั้งนี้นรมนหลบได้ทัน เห็นท่าทางของเธอที่โกรธจนควบคุมไม่อยู่ จึงได้พูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันไร้ยางอาย ฉันสารเลว ก็ล้วนเรียนมาจากท่านแม่ทั้งนั้น เพราะท่านสอนมาดี ท่านวางใจเถิด ฉันไม่มีทางให้คนมาใส่ยาให้ ฉันจะรอบุริศร์กลับมาแล้วเปิดให้เขาดู ดูซิ แม่ที่แสนดีในสายตาของเขาว่าแท้ที่จริงแล้วปฏิบัติกับลูกสะใภ้อย่างไร”
“เธอกล้าเหรอ!”
คุณนายตระกูลโตเล็กเกิดอาการลนลาน
เธอคิดมาตลอดว่านรมนนั้นเป็นลูกพลับอ่อนๆ ตอนนั้นที่อยู่ตระกูลโตเล็กมาสามปี ก็ถูกคนอื่นรังแกและก็เงียบมาตลอดไม่ใช่หรือ ทำไมตอนนี้ถึง
“เธอกลับกล้านำความไปฟ้องบุริศร์”
ราวกับเหมือนมองออกถึงความคิดของคุณนายตระกูลโตเล็ก นรมนพูดเบาๆว่า “คนมักจะเปลี่ยนแปลงเสมอ ฉันคงไม่อาจยอมให้คนมารังแกได้ตลอด แปดปีก่อนฉันตัวลำพังโดดเดี่ยวเดียวดาย จะทำอะไรอย่างไรก็ได้ แต่ว่าตอนนี้ฉันเป็นแม่ของเด็กสองคน ฉันยังต้องปกป้องครอบครัวของฉันอีก ท่านคิดว่าฉันจะอดทนกล้ำกลืนเรื่องราวทั้งหมดลงไปเพื่อให้ทุกอย่างสงบอย่างนั้นเหรอ หลังจากที่ท่านทำแบบนี้กับฉันแล้ว ฉันจะปฏิบัติกับท่านเหมือนแม่บังเกิดเกล้าเหรอ คุณนายตระกูลโตเล็ก ท่านอย่าได้ฝันหวานไปหน่อยเลย”
เมื่อพูดจบ นรมนก็หันหลังแล้วเดินจาก
แต่ละก้าวที่ย่างเดิน แผ่นหลังของเธอปวดแสบปวดร้อนไปหมด
คุณนายทวีทรัพย์ธาดาเห็นนรมนต่อกรกับคุณนายตระกูลโตเล็กในตอนนี้ ก็รู้ทันทีว่าสาเหตุมาจากเรื่องของธรรศ นรมนอยู่ที่บ้านตระกูลโตเล็กไม่ได้สุขสบายอย่างที่คิด
เธอพยายามรั้งนรมน แล้วพูดขึ้นว่า “ย่ารู้ว่าหนูไม่มีทางให้อภัยย่า และย่าก็รู้ว่าเมื่อก่อนย่าเคยทำเรื่องที่ผิดพลาดมากมาย จนทำให้หนูไม่ยอมรับในตัวย่า เรื่องเหล่านี้ย่าไม่ได้สนใจทั้งนั้น ย่านั้นอยู่ในวัยที่ใกล้โลง ย่าหวังแค่เพียงให้หนูมีความสุข”
“ฉันก็มีความสุขดี ขอบคุณ”
นรมนยิ้มจางๆ แต่ทว่าเป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้มาจากใจ
ความเสียใจของคุณนายทวีทรัพย์ธาดา นั้นได้สายเกินไปแล้ว
หัวใจที่แตกสลายไม่ใช่จะรักษาให้หายเป็นปกติได้ง่ายๆ
เธอพูดด้วยเสียงต่ำ “ย่ารู้ว่าหนูไม่ชอบตระกูลทวีทรัพย์ธาดา แต่ถ้าหนูอยู่ที่ตระกูลโตเล็กต่อไปไม่ได้ ประตูบ้านของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ยังคงเปิดต้อนรับหนูเสมอ อย่าได้ทนฝืนกล้ำกลืนในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้กระทำ จนทำให้ตัวเองต้องทุกข์ทรมาน”
“ไม่มีทาง”
นรมนพูดอย่างหนักแน่น “ ไม่มีทางที่ฉันจะออกจากบ้านตระกูลโตเล็ก เพราะนี่คือทางที่ฉันเลือก ที่นี่มีลูกๆของฉัน มีคนที่ฉันรัก ทำไมฉันจะต้องจากไปด้วย ฉันไม่มีทางทำให้ตัวเองลำบาก เพราะถ้าฉันลำบาก ลูกๆของฉันก็จะลำบากไปด้วย ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมฉันจะต้องทำแบบนี้ด้วย ชีวิตยี่สิบกว่าปีของฉัน ไม่เคยมีตระกูลทวีทรัพย์ธาดาหนุนหลัง ฉันก็มีชีวิตที่ดี เพราะฉะนั้นคุณนายทวีทรัพย์ธาดา ท่านอย่าได้เป็นห่วง วันนี้ที่พวกท่านมา เพราะกลัวว่าฉันจะได้รับความลำบากที่บ้านตระกูลโตเล็ก อย่างนั้นก็โปรดวางใจได้เลย ฉันสามารถดูแลตัวเองได้ ต่อให้ฉันจะไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ฉันก็ยังมีสามีของฉัน ดังนั้นพวกท่านอย่าได้เป็นห่วง เชิญกลับไปเสียเถิด”
พูดจบ นรมนก็ไม่ได้อยู่ต่อหันหลังแล้วเดินกลับไปที่ห้อง
คุณนายตระกูลโตเล็กยังคงดุด่าสาปแช่งอยู่ด้านล่าง โดยนรมนก็ไม่อยากจะฟัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...