บทที่ 68 แค่นามภรรยาเฉยๆ
บุริศร์ก็นับว่าเร็ว พูดกับหล่อนได้ไม่นาน ก็มีนางพยาบาลพูดกับหล่อนว่าเวลากลับไปแล้วควรระวังอะไรบ้าง
หล่อนโมโหแต่ไม่แสดงออก
เขายังเหมือน5ปีก่อน คิดว่าเขาจะคุมหล่อนได้
หล่อนกำมัด รู้ว่าตัวเองต้องทำไรสักอย่าง
เวลานางพยาบาลชี้แจ้ง หล่อนทำหน้าตาเฉยไม่มีสีหน้าใดๆ พูดจบนางพยาบาลก็รีบออกไป
บุริศร์ที่บอกอยู่ด้านนอก สายตาเขาบ่งบอกถึงความรู้สึกที่ยุ่งเหยิง
เขาบอกคนทำคงามสะอาด ของที่เกี่ยวข้องกับเขมิกานั้นเอาไปไว้มีคฤหาสน์ริมทะเล เพราะรู้ว่าหล่อนไม่ชอบ และไม่มีร่องรอยที่เขมิกาเคยอาศัยอยู่ และพ้นน้ำยาฆ่าเชื้อ
1ชั่วโมงผ่านไปเร็วมาก
หล่อนรู้ว่าตัวเองควรทำไรสักอย่างไม่ว่าเพื่อความปลอดภัยของลูกหรือตัวเอง หล่อนก็ต้องตอบตกลงเขาไปอยู่ดี ความรู้สึกที่ถูกบังคับนั้นทำให้คนเกลียดและรับไม่ได้
หล่อนคิดว่าใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงมาทำให้ตัวเองอารมณ์ดีขึ้นนั้นคงจะดีขึ้น แต่เวลาผ่านไปแล้ว หล่อนยังโกรธอยู่ดี
เขาก็ยืนอยู่ข้างนอกเล่นบุหรี่ในมือไปมา ดูออกว่าเขาใจเข้านั้นวุ่นวายไปหมด
พฤกษ์โทรมาบอกว่า ทำความสะอาดเสร็จแล้ว ถามว่าจะให้ไปรับมั้ย จู่ๆเขาก็คิดได้ว่าไม่อยากทำลายบรรยากาศที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง
“ไม่ต้องละ เดี๋ยวฉันกลับเอง”
นี้เป็นรอบแรกที่เขาจะจัดการเรื่องส่วนตัวเอง
พฤกษ์ตกใจมาก และเขาก็ต้องรีเซ็ตที่ตำแหน่งผู้หญิงคนนี้ในใจบุริศร์ใหม่
ผู้หญิงคนนี้ต้องดีด้วยแล้ว
บุริศร์วางสายและไปจัดการค่าใช้จ่ายตอนนอนโรงพยาบาล เรื่องของหล่อน เขาไม่รู้ว่าหล่อนจะให้โอกาสเขาอีกมั้ย
หล่อนรอนานมากเขาก็ไม่มาสักที หล่อนก็เบื่อ หรือว่าเขาเปลี่ยนใจละ?
หล่อนดีใจครึ่งไม่ดีครึ่งที่กลับมาเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง หล่อนไม่รู้ว่ามันจะยากแบบนี้
หล่อนยอมจัดการเรื่องเขาให้เสร็จสิ้นสักทีไม่ว่าจะยุ่งยากยังไงก็ตาม ก็ไม่อยากเกลียดเขา และให้เขาตกหลุมรักหล่อน และหล่อนก็จะเอาของๆหล่อนไป
เมื่อเขากลับมาเห็นหล่อนสภาพที่ตัดสินใจไม่ได้
หล่อนมองเขาด้วยสายตาที่ไม่ยอมเขาง่ายๆ แต่มันกับทำให้เขาดีใจ
“คิดเสร็จยัง?”
“เธอให้ฉันคิดด้วยหรอ?”
หล่อนกัดฟันพูด
เขาเหมือนเห็นหล่อนในเมื่อก่อน จำได้ว่าตอนแรกพบ หล่อนยังวัยรุ่นและสดใส มองเขาด้วยสายตาที่ชื่นชอบ ถึงตอนนี้เขายังจำได้ชัดเจน
เมื่อก่อนในยามเวลาที่ดีทำไมเขาไม่รู้ใจตัวเองตั้งแต่แรก? แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้สายไป ในเมื่อห้าให้โอกาสอีกครั้ง เขาก็จะไม่ปล่อยมือ
ตอนนี้หล่อนแค้นเต็มที แต่เขาดันมองไม่เห็น เขากะว่าจะเก็บของให้หล่อน ยิ่งเวลาจะเก็บของที่สำคัญและส่วนตัวนั้น สีหน้าหล่อนนั้นบ่งบอกว่าไม่ยินยอมเป็นอย่างมาก
ผู้ชายนี้ไม่เจอ5ปีหน้าด้านขึ้นเยอะ
หล่อนไม่ยอมที่จะไปกับเขาอย่างมาก เพราะขาหล่อนไม่สะดวก โดนเขาอุ้มมันเรียกสายตาคนมองมาก หล่อนรู้สึกรำคาญ
“เอาไม้พยุงให้ฉัน ฉันเดินเองได้”
หล่อนพูดเสียงต่ำ
“ฉันนี้แหละไม้พยุงของเธอ”
ถึงเขาจะพูดแบบนี้ แต่หล่อนก็ไม่สนใจอยู่ดี
ทั้งสองเงียบต้นทางจนถึงบ้าน
นี้เป็นรอบแรกที่ป้าโอเห็นบุริศร์อุ้มผู้หญิงเข้าบ้านและผู้หญิงคนนี้สวยมาก ทำให้ป้าโอนึกถึงภรรยาคนก่อนนรมน ยังไงตำแหน่งนี้มันก็ว่างอยู่แล้ว ยิ่งผู้หญิงข้างนอกที่อยากแทนที่ ป้าโอไม่ทำสีหน้าดีๆให้หรอก
“คุณบุริศร์ ห้องเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว ฉันเก็บวาดห้องแขกให้คุณแคทเธอรีแล้ว ไม่ว่ายังไง หล่อนไม่ใช่ภรรยา งั้นก็ไม่สามารถให้อยู่ห้องเดียวกับคุณบุริศร์ไม่ได้”
ป้าโอพูดอย่างหนักแน่น
หล่อนทำงานในบ้านโตเล็กนี้ตั้งแต่บุริศร์เด็กๆแล้ว ตอนนั้นน้ำนมของแม่บุริศร์ไม่พอ จึงเรียกป้าโอมาเป็นแม่นมให้ ถึงแม้ตลอดมานี้เป็นแค่ตำแหน่งคนใช้ที่พิเศษขึ้นมาหน่อย แต่บุริศร์ก็เคารพป้าโออย่างมาก
ตั้งแต่นรมนแต่งงานและเข้าบ้านนี้มามีป้าโอนี้แหละที่ดีกับหล่อนที่สุด แต่สีหน้าไม่ให้แล้วยิ้มพูด:“เธอเป็นใครหรอ? สามารถออกคำสั่งได้ หรือว่าเป็นคุณนายหญิง?”
คำนี้ทำให้ป้าโอเอาไม่อยู่
“คุณคะ นี่เป็นบ้านตระกูลโตเล็ก บ้านนี้มีกฎระเบียบ คุณบุริศร์ให้คุณเข้ามาอยู่ ไม่ได้ให้สิทธิ์มาตามใจตัวเองแบบนี้”
“หล่อนมี”
เขาพูดคำนี้ออกไป ทำให้ป้าโออึ้ง
5ปีมานี้ป้าโอรู้ความรู้สึกที่บุริศร์มีต่อนรมน แม้ไฟไหม้ใน5ปีก่อนผ่านไป ถึงแม้บุริศร์จะให้เขมิกาเข้ามาอยู่บ้านนี้ แต่ก็ไม่เคยมองเขมิกาเลยสักนิด ยิ่งอย่าคิดว่าจะให้เขมิกาเข้าห้องนอนบุริศร์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...