บทที่ 75 เธอทำให้ฉันเจ็บนะ
บุริศร์ไม่อยากคิดไรเยอะแยะ แต่เขาก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เหมือนตัวเขามีไรเข้าไปสิง จนทำให้เขาเปลี่ยนไปจนไม่รู้จักตัวเอง
รถขับไปถึงร้านอาหาร เขาเห็นรถFerrariที่แดงจนแทงตาของเจตต์ และที่ทำให้แทงตาเขาที่สุดก็คือนรมนกับเจตต์นั่งอยู่ริมหน้าต่างคุยกันหัวเราะสนุกสนาน เห็นได้ชัดว่า นรมนอารมณ์ดีมาก
ไม่รู้ว่าเจตต์พูดอะไรถึงทำให้หล่อนหัวเราะ และไปจับขาที่ได้รับบาดเจ็บ ท่าทางไม่ได้ชัดเจน แต่บุริศร์นั้นเห็น
เขาขมวดคิ้วโทรหาพฤกษ์
“เอาผ้าคลุมบางๆมาที่ร้านอาหารFood gardenนี้”
พฤกษ์ก็ไม่ได้รู้สึกตกใจอะไรมากละเพราะว่าเขาได้เจอกับเรื่องที่ตกใจกว่านี้มาแล้ว
พฤกษ์รีบเอาผ้ามาแล้ว
บุริศร์ดันพูดขึ้น“ส่งเข้าไปให้หล่อน ขาหล่อนยังไม่หายดี อากาศมันหนาวเย็น ขาหล่อนคงจะรับไม่ไหว”
พฤกษ์รู้สึกงง
“ให้ฉันเอาเข้าไปให้?”
บุริศร์จ้องพฤกษ์ด้วยสายตาแหลมคม
พฤกษ์รู้สึกตัวเองไม่ได้ผิดไรเลยนะ
เรื่องแบบนี้ให้บุริศร์ไปส่งเองไม่ดีกว่าหรอ?
อีกอย่างนรมนกับเจตต์พูดหัวเราะกันอย่างนั้น เขาไม่ควรไปจับหรือ?หรือไม่ก็แสดงคงามเป็นเจ้าของไม่ใช่หรอ?
พฤกษ์ไม่เข้าใจบุริศร์ แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าโต้เถต้องไปก่อนไปพฤกษ์นั้นดันนึกอะไรออก“ท่านประธาน แคทเธอรีกับเจตต์รู้จักกันจริงๆด้วย งั้นที่ข้อมูลลับของบริษัทเป็นหล่อน.....”
“เรื่องนี้ไม่ต้องสืบและไม่ต้องพูดขึ้นอีก”บุริศร์พูด
พฤกษ์อึ้งค้างจริงๆ
“ท่านประธาน นั้นเป็นธุรกิจใหญ่ขิงปีนี้งั้นจะให้เจตต์ได้ไปฟรีๆหรอ? ท่านให้แคทเธอรีผู้หญิงแบบนี้อยู่ข้างกายไม่ได้!”
“เรื่องของฉันกลายเป็นเรื่องที่เธอต้องจัดการเมื่อไหร่?”
บุริศร์พูดเสียต่ำ
พฤกษ์รีบเงียบปาก แต่ก็ยังไม่โอเคกับนรมน
“รีบไป!”
บุริศร์เห็นนรมนจับขาอีกทีก็รีบตะโกนขึ้น
พฤกษ์ก็เอาเข้าไปให้อย่างไม่เต็มใจ
“ท่านประธานบอกว่าขาคุณยังไม่หายดี อากาศหนาวเลยให้เอานี้มาให้”
พฤกษ์พูพอย่างเย็นชา
นรมนและเจตต์นิ่งค้าง
พวกเขารีบหันไปมองด้านนอกและเห็นบุริศร์พอดี
เจตต์หัวเราะ
“แคทเธอรี เธอนี้มีเสน่ห์จริงๆ ท่านประธานบุริศร์ที่เขาเล่ากันว่าเป็นภูเขาน้ำแข็งดันเอาผ้าคลุมมาให้แล้วเห็นเธอกับฉันก็ยังไม่พุ่งเข้ามาอีกนะ! ไม่เหมือนบุริศร์ที่ฉันรู้จักเลย”
อย่าบอกว่าเจตต์งงขนาดตัวนรมนเองก็งง
ไม่พูดถึงว่าบุริศร์หาที่นี้เจอได้ไง ถ้าจะพูดเรื่องการกระทำของเขานั้นไม่ใช่สไตล์เขาจริงๆ
ถ้าเป็นเมื่อก่อน บุริศร์ก็จะรีบพุ่งเข้ามาแล้วก็ลากหล่อนกลับไปไม่ให้หล่อนมานั่งกินกับเจตต์ตรงนี้หรอก?
แต่คาดไม่ถึงมาก
แต่นรมนก็กินไม่ลงแล้ว
พฤกษ์ตรงหน้านรมนมองนรมนเหมือนผู้หญิงที่ออกมากับชู้ ด้านนอกก็มีเขารอไว้แต่เขาไม่เข้ามา รอนรมนกินข้าวเสร็จงี้หรอ ความรู้สึกแบบนี้ขนลุกจัง?
นรมนวางตะเกียบลง
เจตต์รู้สึกตกใจ“ไม่ใช่ว่าเธอจะไปแล้วนะ? เรายังไม่ได้พูดไรกันเลย!”
นรมนยักไหล่ “ตอนนี้เขาเป็นเจ้านายฉัน เธอคิดว่าฉันยังจะนั่งกินได้อยู่หรอ?”
“หมดอารมณ์!”
ชัดว่าเจตต์นั้นผิดหวังแต่เขารีบพูดต่อ“พรุ่งนี้มีงานประมูลไปด้วยกันป่ะ”
“ดูเวลาก่อน ยังไงฉันก็ยังเป็นผู้ป่วยอยู่”
นรมนไม่ได้ให้คำตอบที่แน่ชัด
นรมนถอยหลังแล้วห่มผ้าคลุมที่ขา
เมืองชลธีอากาศอย่างไรนรมนรู้แต่นรมนไม่อยากเพียงเพราะเรื่องตัวเองไปพูดกับผู้จัดการร้าน
เห็นนรมนห่มขาตัวเอง เจตต์เพิ่งจะสังเกต
“เธอหนาว?” ทำไมไม่บอกกับฉัน? ครั้งหน้าฉันจะระวังนะ
เจตต์รู้สึกเครียด
นรมนยิ้มพูด“ไม่เป็นไร ไม่ได้หนาวขนาดนั้น ก็แค่ขาได้รับบาดเจ็บรับอากาศหนาวเย็นไม่ไหว รอบหน้าจะฉันเตรียมมาดีๆ”
“งั้นตกลงแล้วนะรอบหน้า”
เจตต์รีบชวนต่อ
นรมนรู้ว่าเจตต์นั้นมีเป้าหมายต่อนรมน เพราะว่านรมนเป็นนักดีไซน์รถให้บริษัทของบุริศร์ และยังเป็นคู่อริกับบุริศร์ิอีกยิ่งน่าสนใจไปใหญ่ และเจตต์ก็ยังเป็นเจ้าชู้ตัวพ่อ
แต่นรมนรู้จริงแล้วเจตต์ก็ไม่ได้ขนาดนั้นและยังมีความสุภาพบุรุษอยู่
“ค่อยนัดรอบหน้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...