บทที่ 76 ไม่กลัวตายมีอะไรก็พุ่งเข้ามาได้เลย
“กิจจาไม่ใช่ลูกของฉันจริงๆ แต่กิจจาเป็นเด็กของตระกูลนี้ ฉันไม่สามารถทนเห็นเด็กของตระกูลตัวเองเร่รอน”
เขาอธิบาย
นรมนยิ่งงงเข้าไป
ตระกูลนี้ไม่ใช่ว่ามีบุริศร์คนเดียวหรอ?
เขาบอกตัวเองว่ากิจจาไม่ใช่ลูกของเขา แต่บอกว่ากิจจาเป็นเด็กของตระกูลโตเล็ก หรือว่าเป็นลูกของตาแก่? แต่นั้นก็ตายไปนานแล้วไม่ใช่หรอ คำอธิบายนี้ไม่สมเหตุสมผลพอหรอกมั้ง?
นรมนยิ้มกริ่ม “ท่านประธาน เธอไม่จำเป็นต้องอธิบายกับฉัน ฉันไม่ใช่เป็นใครสักหน่อย”
“เธอ!”
เหมือนมีไรมีติดไว้ตรงกลางอกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ผู้หญิงคนนี้อยากจะทำให้เขาบ้ารึไง?
“ฉันจะบอกให้เธอ กิจจาเป็น...”
เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเขาจึงต้องรับสาย
แต่นรมนดันไม่ได้สนใจ
ไม่ว่าเขาจะดูฤดูยังไงหล่อนก็จะไม่เชื่อ โลกนี้ไม่มีไรสำคัญเท่าคนที่ตัวเองแคร์และลูกในท้อง
5ปีก่อนใครก็ดูออกว่าบุริศร์นั้นแคร์เขมิกา อีกอย่างพวกเขาก็เคยเป็นคนรักกัน ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อนโดนวางยาที่งานเลี้ยงและมีไรกับบุริศร์และโดนพวกนักข่าวจับได้ พวกเขาอาจจะอยู่ด้วยกันตั้งแต่8ปีที่แล้ว แล้วไม่ใช่หรอ?
นึกถึงตรงนี้นรมนยิ้มๆแล้วหันหน้าออกไปด้านนอก แต่ดันได้ยินเขาพูดว่า“เขมิกาฟื้นแล้ว? หมอพูดไงบ้าง?”
น่าจะเป็นพฤกษ์โทรมา
ระหว่างเวลาที่ช่วยให้เขมิกาฟื้นนั้นเขมิกาไม่ฟื้นทั้งคืน เมื่อเขาเพิ่งออกไปไม่นานก็ฟื้น เหอะนับเวลาดีจริงน้า
เขมิกาแม่งแอบแย่งเขาไปจากนรมนตลอด
5ปีก่อนนรมนแคร์ แต่ตอนนี้หล่อนไม่แคร์ไรสักนิด
นรมนกะจะเปิดประตูแล้วโดนลงไป แต่โดนเขาจับแขนไว้
“อืม บอกให้เขมิกาอยู่ไว้ก่อน ถ้าฉันมีเวลาไว้จะไปเยี่ยม”
เขาวางสาย
“เธอจะไปไหน?”
สายตาเขาเต็มไปด้วยความโมโห
นรมนรู้สึกตัวเองไม่ผิดไร ยักไหล่แล้วพูด“ในเมื่อการเป็นคนรักที่ดีก็ควรจะหลบหลีกเวลาที่เธอกับแฟนคุยโทรศัพท์กันไม่ใช่หรอ? ไม่ใช่ว่าควรหลีกเลี่ยงเวลาที่แฟนเธอต้องการเธอหรอ? เธอวางใจได้ จะเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบยังไง ฉันรู้อยู่แล้ว!”
คำนี้แทงใจเขาอีกรอบ
“เธอรู้? งั้นเธอก็รู้ไม่น้อยเลย งั้นเธอรู้รึเปล่าเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบยังมีอีกอย่างที่เธอยังไม่ได้ทำ?”
“อะไร?”
นรมนถามไป จู่ๆเขาก็ดึงตัวหล่อนเข้ามาเพราะขาข้างเดียวจึงทำให้หล่อนยืนไม่นิ่งเลยล้มลงไปที่นั่งและตอนนี้เขาได้จัดการล็อกประตู และหน้าอกที่แน่นค่อยเข้าใกล้
นรมนอึ้งสักพักแล้วเหมือนคิดไรออก
“บุริศร์ นี้มันบนรถ!”
“ไม่เป็นไร บนรถเฟลได้กว่าไม่ใช่หรอ? หรือว่าเธอกลัวเจตต์เห็น? ก็ใช่ เจตต์ยังไม่ไปเลย ที่สำหรับรถสั่นสะเทือนฉันก็อยากลองอยู่นะ ไม่ใช่ว่าเธอรู้ว่าการเป็นคนรักที่สมบูรณ์แบบหรอ? งั้นคำว่าสมยอมนี้ไม่รู้?”
เขาเกลียดที่หล่อนพูดเหมือนหล่อนเองไม่มีสิทธิ์ไม่มีตำแหน่ง
จริงแล้วนรมนเป็นคนที่เขาแต่งงานด้วยอย่างเปิดเผย จริงแล้วสามารถถามทุกอย่าง และสามารถหึงและแคร์เขา แต่ทำไมทุกอย่างมันเปลี่ยนไป?
เพราะว่าเปลี่ยนหน้าหรอถึงทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง?
เขายอมได้ที่หล่อนไม่พูดความจริง สามารถรอหล่อน แต่เขาสังเกตเห็นว่าหล่อนนั้นค่อยๆตัดตัวเองออก
เขารีบจูบลงไปที่ริมฝีปากหล่อน
นรมนรู้จักการหลบ
ริมฝีปากเขานั้นผ่านตรงแก้มหล่อนไป
ตอนนี้เขายิ่งโมโห
“ไม่ใช่บอกว่าจะเป็นคนรักที่สมบูรณ์แบบหรอ? ฉันคิดว่าเธอมีประสบการณ์สักอีก แต่แค่จูบยังไม่เป็นให้ฉันสอนมั้ย?”
คำนี้ทำให้หล่อนโมโห รีบเงยหน้าขึ้นก็เห็นตาที่แดงก่ำ ของเขาที่กำลังอดทนไรอยู่
นรมนทำไรให้เขาเป็นแบบนี้?
นรมนขมวดคิ้วคิดอยากจะดันเขาออกแต่ก็ได้เปลี่ยนใจ
นรมนรีบไปกอดคอเขาไว้ ยิ้มกริ่ม พูดอย่างออดอ้อน “เค้าไม่ชอบตรงนี้ได้มั้ย?”
“เธอชอบตรงไหน? วันนี้ฉันอยู่กับเธอเอง!”
ดูสภาพเขาแล้วไม่น่าจะให้หล่อนพักเลย
ก่อนกลับมานรมนก็ทำได้ไว้แล้วมันไม่เป็นไม่ได้ที่จะไม่มีเพศสัมพันธ์กับเขาหรอกแต่ไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วแบบนี้ จริงแล้วนรมนเกลียดแต่เพื่อกานต์และกลม หล่อนยอม
นรมนก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ยังบริสุทธิ์ และขึ้นเตียงกับเขาก็ไม่ใช่รอบแรก ก็คิดว่าโดนหมากัดแล้วกัน เพียงแค่ถึงจุดหมายที่หล่อนต้องการยกตัวหล่อนให้เขาแล้วยังไง?
นรมนคิดได้ และพูดไปว่า“ไปโรงแรมเถอะ”
สายตานรมนนั้นอัดแน่นไปด้วยจำใจยอมและโมโห แต่คำพูดหล่อนนั้นเฉยชามาก เหมือนหล่อนพูดคำว่าตอนเช้านี่กินอะไรดีแบบนี้เลย แต่มันกลับกลับกัน ทำให้เขานั้นอยู่ยาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...