แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 81

บทที่ 81 นี่เป็นหมากที่เธอจะพลิกวิกฤติ​เป็นโอกาส

พฤกษ์​เห็นอาการตกใจของตังเม จึงพูดขึ้นมาอย่างสีหน้านิ่งเฉยว่า"คุณ​หนูเขมิกาเธอทำผิดไป​ ท่านประทานบุริศร์จึงให้คุณหนูเขมิกากลับมาสำนึก​ความผิดของตัวเอง​ ช่วงนี้ค่าใช้จ่าย​ของคุณหนู​เขมิกาตระกูล​โตเล็กจะไม่รับผิดชอบอีกต่อไป​ หากคุณหนูยังไม่สำนึกผิด​ท่านประธาน​บุริศร์บอกแล้วว่าห้ามคุณ​หนูเขมิกากลับไปที่บ้านตระกูล​โตเล็กอีก​ ตอนนี้คุณชายน้อยก็โตแล้ว​ท่านประธาน​บุริศร์จะสอนเขาด้วยตัวเอง​ ไม่รบกวนคุณ​หนูเขมิกาดีกว่า​ ตอนนี้คนก็ส่งมาถึงที่แล้ว​ คุณเขมิกา ฉันขอตัวก่อนแล้วกัน"

พูดจบ​ พฤกษ์​ก็หันหลังกลับทันที

ตังเมงงไปหมด

ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?

 เธอตบหน้าเขมิกาแรงๆ

" เธอไปทำอะไรให้บุริศร์โกรธ​เกลียด?​ เธอไม่รู้รึไงเขาเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายของเราสองแม่ลูก?  ห้าปีแล้ว  เธอยังเป็นคุณนายตระกูล​โตเล็กไม่ได้​ ตอนนี้เธอยังทำให้บุริศร์เกลียด​เธออีก​ เธอกำลังทำอะไรกันแน่?"

ตังเมตบเธออย่างเต็มแรง​ ทำให้เขมิกาไม่ทันได้ตั้งตัวจนเธอล้มลงไปอยู่ที่พื้น

เธอน้อยอกน้อยใจมากเหมือนจะร้องไห้​ออกมาทันทีทันใด

" ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น​ ห้าปีที่ผ่านมานี้​ ฉันคอยระวังตัวอยู่ตลอด​เวลา ก็เพื่อเธอทั้งนั้น​ เพื่อตระกูลศิริวัชรภัทร ส่วนฉันได้อะไรตอบแทน?  ในใจบุริศร์ไม่เคยมีฉันแม้แต่น้อย​ เขาไม่สนใจใย​ดี​ฉันเลยสักนิด​ เธอคิดหรือห้าปีก่อนฉันได้ตั้งครรภ์​ เขามารับฉันกลับไปที่บ้านตระกูล​โตเล็ก​ เขาก็มีความผูกพัน​กับฉัน​ และเอ็นดูฉันอย่างนั้นหรือ? ห้าปีที่ผ่านมานี้เธอรับแต่ผลประโยชน์​จากตระกูล​โตเล็ก​มาโดยตลอด​ เธอรับความกตัญญู​ของฉันอย่างได้หน้าได้ตา​ เธอรู้ไหมว่าฉันอยู่อย่างไร?  ห้าปีแล้ว​ บุริศร์ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวฉันเลยสักครั้ง​ ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ให้ฉันเข้าไปที่ห้องของเขาอีก​ ฉันคลอดกิจจา​ ผู้สืบทอด​ตระกูล​โตเล็ก​ แต่ว่าจนถึงตอนนี้พวกเขายังเรียกฉันอยู่ว่าคุณ​หนูเขมิกา​ ไม่ใช่คุณ​นายเขมิกา​ เธอถามฉันว่าห้าปีที่ผ่านมานี้ฉันสบายดีรึเปล่า? เธอลืมไปหรือยังว่าฉันเป็นลูกสาวเธอ​ ไม่ใช่ธนาคาร​ของเธอ"

เขมิการ้องไห้ฟูมฟาย​ เธอน้อยอกน้อยใจจนถึงสุดขีด​

ตังเมไม่เคยเห็นสภาพ​นี้ของเขมิกามาก่อน

เธอเชื่อมาตลอดว่าว่าลูกสาวคนนี้ของเธอมีจุดยืนของตัวเองอย่างชัดเจน​ ต้องการอะไรรู้อยู่​แก่ใจโดยที่ไม่ต้องมีใครมาพูด​ ก็มีจุดยืนและเป้าหมาย​ของตัวเองอย่างชัดเจนแล้ว  แต่ว่าเขมิกาในตอนนี้​ทั้งอ่อนแอ​และ​หมดหวัง​ นี่เป็นลูกสาวของเธอจริงหรือ?

 เขาเป็นคนที่มาบอกกับเธออย่างได้ใจว่าจะแต่งงานเข้าบ้านตระกูล​โตเล็ก​ ที่สำคัญจะทำให้อนาคต​ของตระกูลศิริวัชรภัทรอยู่​ดี​มีสุขคนนั้นหรือ?

 ตังเมงงไปหมด​ ผ่านไปสักพักใหญ่​เธอถึงได้สติกลับมา

"ฉันก็แค่ตบหน้าเธอไปนึงทีจะทำไม? ทำไมต้องร้องไห้ฟูมฟาย​ขนาดนี้ด้วย?  นี่ก็เป็นแม่คนแล้วนะ​ คนอื่นมาเห็นเข้าไม่ขายหน้าแย่หรือ? รีบลุกขึ้นมาบอกกับแม่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?"

ตังเมพยุงเขมิกาลุกขึ้นมาถาม​ เเละพยุงเธอไปนั่งที่โซฟา

พอเขมิกาถูกแม่ปลอบใจอยู่ตลอดเวลา​เช่นนี้ เธอยิ่งน้อยอกน้อยใจไปใหญ่​ แต่เธอก็รู้ดี​ หากเธอบอกเรื่องราวทั้งหมดให้กับตังเม  ให้เธอช่วยคิดหาวิธี​

แต่พอเธอบอกเรื่องราวทั้งหมดให้กับตังเม ตังเมก็ขมวดคิ้ว​

 "เธอไม่เคยไปสืบประวัติ​ของเเคทเธอรีมาก่อนเลยหรือ?"

"สืบมาแล้ว​ เธอเป็นดีไซเนอร์​ด้านรถยนต์​ของประเทศ​อเมริกา​ แต่ว่าเพิ่งออกมาทำได้ไม่นาน​ ชื่อเสียงจึงไม่ได้โด่งดังอะไรมาก​ ได้ยินมาว่าบุริศร์ออกเงินมหาศา​ลจ้างเธอมา  แต่ว่าแม่​ แม่ไม่เคยเห็นเธอ​ เธอหน้าตาเหมือนจิ้งจอก​มาก​ พอบุริศร์เห็นเธอก็เหมือนถูกกระชากวิญญาณ​ไปอย่างไงอย่างนั้นเลย  ตอนนี้ยังพาเธอไปบ้านตระกูล​โตเล็กอีกด้วย​ แม่ก็รู้  บ้านตระกูล​โตเล็กมีแต่ลูกสะใภ้​เท่านั้นที่สามารถ​เข้าไปได้​ หากฉันไม่ได้คลอดกิจจาฉันก็ไม่เข้าไปหรอก​ แต่นี่จิ้งจอก​อย่างมัน ถือสิทธิ์​อะไรเข้าไปในบ้านตระกูล​โตเล็ก? "

     

เขมิกายิ่งพูดยิ่งน้อยเนื้อต่ำใจ  

 

ตังเมรีบตบมือเธอแล้วพู​ดว่า" เธอใจร้อนเกินไป​ ที่สำคัญอุบัติเหตุ​ครั้งนั้นที่เธอลองขับรถแล้วไม่ชนให้เธอตายไปเลย  งั้นตอนนี้ก็อย่าเพิ่งใจร้อน ผู้หญิง​คนนี้ดูมีเล่ห์เหลี่ยมไม่เบา​ มิเช่นนั้นคงไม่ทำให้บุริศร์หลงได้ถึงขนาดนี้​ ทุกคนมีจุดอ่อนของตัวเอง​ พอหาจุดอ่อนเธอเจอ งั้นเรื่องทุกอย่างก็ง่าย​ เธอทุ่มเทมากขนาดนี้​ถึงเข้าไปในบ้านตระกูล​โตเล็กได้​ คนข้างนอกเค้ารู้กันหมดว่าเธอเป็นลูกสะใภ้บ้านตระกูล​โตเล็ก​ เพรา​ฉะนั้นเราจึงยังทำให้คนเกรงใจบ้าง​ หากเธอถูกไล่ออกมาจากบ้านตระกูล​โตเล็ก​ วันหลังความเป็นอยู่ของเราจะเป็นอย่างไร​ เธอรู้ดีที่สุด​ เขมิกาเรื่องนี้เราต้องปรึกษาหารือ​กัน​ดีๆ​ ช่วงนี้เธอก็อยู่บ้านไปก่อน​ บุริศร์แม่จะจัดการเอง​ จากนี้ไปลูกอย่าทำอะไรเด็ดขาด​ เธอต้องเเกล้งทำเป็นสำนึกผิด​ ทำให้คนสงสารยิ่งดี​ เธอเข้าใจไหม? "

พอฟังตังเมพูดแบบนั้​ เขมิกาก็เข้าใจทันที

" ฉันเข้าใจแล้ว​แม่​ แม่ดีที่สุดเลย

เขมิกากอดตังเม  เธอเหมือนเด็กที่กำลังหลงทาง

ตังเมตบไหล่ของเธอแล้วยิ้มแย้ม​พูดว่า"ตั้งแต่เธออายุห้าขวบเธอก็ได้เสียพ่อไปแล้ว​ ตระกูลศิริวัชรภัทรมีแต่ผู้หญิง​ที่ตัวเล็กๆอย่างฉันประคับประคอง​มาโดยตลอด​ หากไม่ไหวจริงๆ​ แม่ก็ไม่อยากให้เธอลำบากใจขนาดนี้​ แต่ในเมื่อเราได้ไต่เต้า​บ้านตระกูล​โตเล็กแล้ว​ เราจะยอมเลิกลาง่ายๆไม่ได้เด็ดขาด​ ตระกูล​โตเล็กอยู่ในเมืองชลธีมานับร้อยปี  ทรัพย์สิน​เงินทอง​มากมาย​ ไม่มีตระกูล​โตเล็กก็ไม่มีตระกูลศิริวัชรภัทร เพราฉะนั้น​เขมิกา​ ไม่ว่าทางข้างหน้าจะลำบากแค่ไหน​ เธอก็ยังมีลูกชาย​ นี่เป็นหมากที่เธอจะพลิกวิกฤติ​เป็นโอกาส"

แต่ว่ากิจจาถูกบุริศร์ส่งไปฝึกฝนแล้ว  ไม่อยู่​บ้านตระกูล​โตเล็กซะหน่อย"

พูดถึงเรื่องนี้​ เขมิกาก็กลุ้มใจ

ไม่ว่าอย่างไง​เธอก็ยังเป็นแม่ของกิจจา​ แต่บุริศร์พากิจจาไปไหนไม่บอกกับเธอสักคำ​ เธอทั้งโกรธ​และน้อยใจมาก

 ตังเมก็ไม่คิดเลยว่าบุริศร์จะเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้​ ดูท่าทุกอย่างจะเกี่ยวข้อง​กับผู้หญิง​แคทเธอรีคนนั้น

  "อย่าใจร้อน​ ถึงแม้กิจจาไม่อยู่บ้านตระกูล​โตเล็ก​ แต่ว่าต้องติดต่อหาเธอแน่นอน​ ถึงเวลานั้นเธอก็อ้างว่าป่วย​ หรืออะไรก็ได้​ กิจจา​ต้องเป็นห่วง​และกลับมาดูเธอแน่นอน​ ขอแค่กิจจากลับมา​ เราก็มีโอกาสแล้ว"

ตังเมให้ความเห็นกับเขมิกา

 สองแม่ลูกกำลังวางแผนอยู่​ ป้าโอก็โทรมาพอดี

" คุณ​หนูเขมิกา​ ได้ยินมาว่าเธอถูกคุ​ณผู้ชายไล่ออกมาจากบ้านแล้ว? "

  สายจากป้าโอยิ่งทำให้เขมิกาดูแย่

" ป้าโอก็มาหัวเราะ​เยาะฉันหรือ? "

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย