บทที่ 97 คุณบุริศร์แกล้งทำเป็นไม่รู้ใช่ไหม?
แต่เดิมเขายังคิดจะใช้สิทธิการเลี้ยงดูของกานต์เพื่อให้ได้อยู่กับนรมน ตอนนี้ได้ยินแชมป์พูดอย่างนี้ เขาก็รู้สึกว่าตนเองต่ำทรามเกินไปแล้ว
ไม่ต้องพูดถึงที่ลูกชายไม่ยอมรับตน ถ้าตนเองเป็นอย่างนี้แม้กระทั่งตัวเองเขาก็รู้สึกขยะแขยง!
บุริศร์ตบไหล่ของแชมป์เบาๆพูดขึ้น: “ขอบคุณนายมากนะ แชมป์ ขอบคุณนายที่ทำให้ฉันเข้าใจเรื่องพวกนี้”
“คุณแคทเธอรีคนนั้น คุณบุริศร์คิดจะขอมาเป็นภรรยาใช่ไหมครับ?”
แชมป์ก็พอจะมองออกว่าความรู้สึกที่บุริศร์มีต่อนรมนไม่เหมือนกับคนอื่นทั่วไป ดังนั้นจึงถามออกมาอย่างไม่ทันคิด
บุริศร์พูดเสียงต่ำ: “กานต์เป็นลูกชายของฉัน ลูกชายแท้ๆของฉัน! และแคทเธอรีเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดกานต์ ดังนั้นนายคิดว่าฉันควรทำอย่างไร?”
แชมป์ก็ตกตะลึงไปในทันที
เขารู้ว่าบุริศร์เคยมีภรรยา แต่ที่เขาไม่รักนรมนก็เป็นเรื่องจริงที่คนทั้งเมืองชลธีต่างก็รู้กันอยู่แล้ว
“แคทเธอรีคนนี้คือผู้หญิงกับลูกนอกสมรสที่คุณเอาไว้ข้างนอก?”
แชมป์ทำได้เพียงคาดการณ์เช่นนี้ ถึงแม้จะรู้สึกว่าบุริศร์ไม่น่าจะทำเรื่องอย่างนี้ออกมา แต่สมองของเขาไม่สามารถคิดซับซ้อนกว่านี้ได้แล้วจริงๆ
บุริศร์ตกตะลึงเล็กน้อย เข้าใจแล้วว่าแชมป์กำลังคิดอะไรอยู่ ยิ้มแล้วพูด: “ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ฉันมีเธอเป็นผู้หญิงของฉันเพียงคนเดียว”
แต่ที่แชมป์ได้ยิน เหมือนกับว่าตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้แคทเธอรีเป็นคนที่บุริศร์ดูแลอยู่ข้างนอกแต่กลับเป็นหญิงสาวที่รักอย่างจริงใจตลอดไป
“มิน่าคุณบุริศร์ถึงให้พวกเราทำดีกับกานต์เป็นพิเศษอย่างนั้น เป็นคุณชายนั่นเอง คุณพูดอย่างนี้ผมก็รู้สึกว่า คุณชายกิจจากับคุณชายกานต์เหมือนกันมากจริงๆ แต่พรสวรรค์ของพี่น้องสองคนค่อนข้างแตกต่างกัน คุณชายกานต์เหมือนคุณ”
ได้ยินแชมป์พูดอย่างนี้ ดวงตาของบุริศร์ก็ส่องแสงวาบอยู่ครู่หนึ่ง พูดเสียงต่ำ: “ต่อไปห้ามพูดว่าพรสวรรค์ของกิจจาไม่ดีอีก ทุกๆคนล้วนแต่มีข้อดีของตัวเอง กิจจาไม่ได้แตกต่างจากเด็กทั่วไป ถึงขั้นยังดีกว่ามาก เพียงแต่ไม่ควรเอาไปเปรียบเทียบกับกานต์”
“คุณบุริศร์ ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นครับ ผม......”
“ฉันรู้ ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันมีความสามารถสูงมาโดยตลอด เรื่องอะไรก็ตามดูแค่รอบเดียวก็ทำได้แล้ว ผู้ใหญ่ที่อยู่รอบๆตัวก็บอกอยู่เสมอว่าฉันมีพรสวรรค์ ให้เกียรติฉันเป็นพิเศษ ฉันก็รู้สึกว่าตนเองยอดเยี่ยมมาก จนกระทั่งปีนั้นที่อายุยี่สิบ ฉันเพิ่งจะรู้ว่า จริงๆคนเราไม่ได้แบ่งแยกจากความยอดเยี่ยม โดยปรกติคนที่ฉลาดทั่วๆไป ในเวลาสำคัญก็มีประสิทธิภาพกว่าฉันที่มีพรสวรรค์เสียอีก”
เสียงของบุริศร์แทรกไปด้วยความเจ็บปวดใจเล็กน้อย
แชมป์ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงพูดอย่างนี้ ตอนที่อยากจะถามต่อ บุริศร์ก็ลุกขึ้นไปที่สนามฝึกซ้อมด้านข้างแล้ว เริ่มต้นฝึกซ้อมขึ้นมาเอง
เขามองออกว่า ในใจของบุริศร์เก็บซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้มากมาย เพียงแต่ไม่มีวิธีที่จะพูดให้คนอื่นฟังก็เท่านั้น
ภายใต้แสงจันทร์ ทั้งร่างกายของบุริศร์ชุ่มไปด้วยเหงื่อ แชมป์อยู่เป็นเพื่อนที่ด้านข้าง และกานต์พิงอยู่บนขอบหน้าต่าง กำลังมองบุริศร์ที่ท่าทางแข็งแรงปราดเปรียว สาบานอย่างเงียบๆว่าตนจะต้องเก่งกว่าผู้ชายคนนี้ให้ได้
นรมนกลับเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลย กำลังหลับอยู่อย่างสงบ
ในตอนรุ่งอรุณที่แสงยามเช้าลอยออกมาจากเส้นขอบฟ้า บุริศร์ก็เพิ่งจะเหนื่อยแล้วหยุดพัก ทั้งร่างนอนอยู่บนพื้น เหมือนกับนอนหลับใหลไปแล้ว
นรมนค่อยๆลืมตา รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติไป
ในห้องเหมือนกับมีกลิ่นที่คุ้นเคยวนเวียนอยู่
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย หันไปมองกานต์ ก็เห็นเขาหลับสนิท มือเล็กๆคู่นั้นจับมือของเธอเอาไว้ ออกแรงขนาดนั้น แน่นหนาขนาดนั้น
ริมฝีปากของนรมนยกขึ้นเล็กน้อย
เธอดึงมือของตนเองออกมาเบาๆ ดึงผ้าห่มมาคลุมกานต์เอาไว้ ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ แต่กลับเห็นคนๆหนึ่งนอนอยู่ที่สนามฝึกซ้อม
หมอกตอนเช้าที่บดบังสายตา แต่นรมนกลับมองออกว่าคนๆนั้นคือบุริศร์
กลิ่นที่อยู่ในห้องก็ทำให้เธอขมวดคิ้วอีกครั้ง
บุริศร์มาตั้งแต่เมื่อไหร่?
เขามาทำอะไร?
เขาเข้ามาในห้องแล้ว?
ในใจของนรมนสับสน ใส่เสื้อคลุม แล้วเดินออกไปสนามฝึกซ้อมทันที
แชมป์เห็นนรมนมาแล้ว ก็ถอยออกไปอย่างเงียบๆ
บุริศร์ราวกับตกอยู่ในโลกของตนเอง ไม่ได้สนใจถึงการเข้าใกล้ของคนอื่นเลย
นรมนยืนอยู่ที่ด้านหน้าของเขา กำลังมองบุริศร์ที่ทั้งร่างเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ในตอนนี้ก็มีความงงงวยอยู่เล็กน้อย
ราวกับว่าเขายังเป็นผู้ชายที่เธอหลงใหลในปีนั้น
“ทำไมมานอนอยู่ตรงนี้แล้วล่ะ?”
นรมนเอ่ยปากอย่างวางเฉย
บุริศร์ลืมตาทันที ก็เห็นนรมนยืนอยู่ท่ามกลางแสงยามเช้า เหมือนกับเป็นนางฟ้าที่เป็นความฝันอันเลือนราง
“นรมน?”
บุริศร์ลุกขึ้นนั่งทันที ยิ่งไปกว่านั้นด้วยจิตใต้สำนึกก็จับมือของนรมนเอาไว้
นรมนอยากจะดึงมือกลับ แต่กลับไม่มีแรงพออย่างที่ใจต้องการ
จนกระทั่งได้จับกับฝ่ามือที่อบอุ่นเอาไว้ จึงเพิ่งจะรู้สึกว่าสิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่ความฝัน
“อากาศเย็นอย่างนี้ คุณออกมาทำไม? แล้วก็ไม่สวมเสื้อผ้าหนาๆหน่อย”
บุริศร์รีบตอบสนองกลับ ดึงเสื้อคลุมที่อยู่ข้างๆมาคลุมไปบนร่างของนรมน
กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเขากำลังโอบล้อมนรมนในทันที
มองผู้ชายที่มีความรู้สึกลึกซึ้งจริงใจอยู่ตรงหน้านี้ นรมนก็คิดว่าตนเองตาบอดไปแล้วจริงๆ
บุริศร์ที่เยือกเย็นราวกับน้ำแข็งทำไมถึงอบอุ่นกับเธออย่างนี้?
“คุณบุริศร์ คุณแสดงอย่างนี้ไม่เหนื่อยหรือคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...