แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 105

เมี่ยวกุ้ยพ่อลูกต่างไม่พูดไม่จา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่อยากถูกตีขาหัก

แต่ก็เห็นได้ชัดว่า ขอเสนอขอลั่วเสี่ยวปิงคนหมู่บ้านต้าซิงกลับเห็นด้วยอย่างยิ่ง

คนตระกูลเมี่ยวตีขาจางต้าหลางหัก แล้วพวกเขาก็ตีขาคนตระกูลเมี่ยวหัก ก็ถือว่าหายกัน

ส่วนคนหมู่บ้านเมี่ยวเจีย มีบางคนรู้สึกว่าตีขาคนจนหัก ค่อนข้างเกินไปแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ถามกลับทันทีว่า “แล้วพวกเขาตีขาจางต้าหลางหักนั้น ไม่เกินไปหรือ? จางต้าหลางทำอะไรผิด?”

 เมื่อพูดออกไปเช่นนี้ คนที่รู้สึกว่าเกินไปก็ไม่พูดอะไรแล้ว

ส่วนพวกผู้ชายหมู่บ้านต้าซิงในตอนนี้ แต่ละคนจ้องมองเมี่ยวกุ้ยทั้งสามพ่อลูกราวกับเสือหมาป่า ราวกับอยากจะไปลองตีขาพวกเขาจนหัก

เมี่ยวกุ้ยทั้งสามพ่อลูกถูกมองด้วยสายตาเช่นนี้จนเข่าอ่อน ลูกชายคนโตตระกูลเมี่ยวอดทนไม่ไหวเป็นคนแรก พูดเร่งเร้าชุยซื่อว่า “แม่ รีบไปเอาเงินมา”

 ลูกชายคนรองตระกูลเมี่ยว ก็พูดขึ้นว่า “แม่ ข้าไม่อยากถูกตีขาหัก แม่รีบเอาเงินชดเชยให้พวกเขาไป”

เมี่ยวกุ้ยไม่พูดไม่จา กลับก็หันมามองชุยซื่อ ความหมายชัดเจน

พวกเขาทั้งหมดต่างมองดูชุยซื่อ ไม่สนใจเลยว่าที่บ้านจะมีเงินมากมายขนาดนั้นไหม

เห็นพวกผู้ชายต่างบีบบังคับให้ตนไปเอาเงินมา ชุยซื่อโกรธจัดอย่างมาก

ทันใดนั้นจึงนั่งลงบนพื้น ร้องตะโกนขึ้นมาว่า “ล้วนใช้ให้ข้าไปเอาเงินมา ข้าจะไปเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหน? แต่ละคนยังมีความเป็นธรรมอยู่ไหม บีบบังคับกันให้ไปตายถึงบ้านแล้ว ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว.....”

ชุยซื่อร้องตะโกนเสียงดังมาก ร้องไห้โวยวายขู่ฆ่าตัวตายแสดงได้เหมือนจริงมาก

หากไม่มีเรื่องก่อนหน้านี้เป็นสิ่งนำ ทุกคนคงจะถูกหลงเชื่อการกระทำเช่นนี้ของชุยซื่อแล้ว

เมี่ยวกุ้ยไม่แสดงท่าทีใดใดก่อน อยากรอให้ชุยซื่อโวยวาย แล้วจะได้ไม่ต้องชดใช้เงิน แต่เห็นชุยซื่อร้องไห้อยู่ตั้งนาน คนรอบด้านต่างก็ไม่แสดงท่าทีใดใด มองดูชุยซื่อเหมือนยังดูละคร เมี่ยวกุ้ยจึงเข้าใจขึ้นมาทันทีว่าใช้วิธีโวยวายนั้นไม่ได้ผล จึงพูดกับชุยซื่ออย่างสุดจะทนว่า

“ไม่ต้องร้องโวยวายแล้ว ยังไม่รีบไปเอาเงินออกมา? หรือจะให้ข้าถูกตีขาหักจริงๆหรือ?”

ชุยซื่อฟังแล้วก็ไม่ร้องโวยวายต่อ ยังไงร้องไห้โวยวายอยู่คนเดียวแล้วไม่มีใครสนใจก็ค่อนข้างรู้สึกไม่ดี

แต่ชุยซื่อกลับทำเป็นเลอะเลือนพร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าแก่ บ้านเราจนขนาดไหน จะไปเอาเงินมาจากไหน?”

เมี่ยวกุ้ยเห็นท่าทีชุยซื่อที่ยังไงก็ไม่ยอมเอาเงินออกมา จึงขี้เกียจยุ่งกับชุยซื่ออีก เดินตรงเข้าไปในห้องทันที

เริ่มแรกชุยซื่อยังไม่รู้สึกตัว แต่ไม่นานก็เหมือนคิดอะไรได้ขึ้นมา สีหน้าเปลี่ยนไป แล้วก็รีบตามเข้าไป

“เจ้าแก่ เจ้าค้นหาอะไร?”

“ถอยไป”

“นั่นคือสิ่งที่เจ้าสามซื้อให้ข้า เป็นสิ่งของของข้า เจ้าห้ามแตะต้อง”

“เพียะ”

จากนั้น ภายในห้องก็มีเสียงสิ่งของกระจัดกระจายดังขึ้น

เห็นได้ชัดว่าเมี่ยวกุ้ยกับชุยซื่อตบตีกันอยู่ในห้องแล้ว

สักพักก็เห็นเมี่ยวกุ้ยหอบกล่องไม้ธรรมดาอันหนึ่งวิ่งออกมาด้วยผมเผ้ายุ่งเหยิง บนใบหน้าของเมี่ยวกุ้ยยังเต็มไปด้วยรอยเลือดจากการถูกข่วนไปด้วยเล็บ เห็นแล้วก็น่าสะพรึงกลัว

“นั่นเป็นสิ่งของของข้า เจ้าห้ามเอาไปให้คนอื่น” ชุยซื่อกระโจนออกมา

เทียบกับเมี่ยวกุ้ย ชุยซื่อยิ่งย่ำแย่ ผมฟูยุ่งเหยิงราวกับขอทาน บนใบหน้ายังมีรอยฝ่ามือตบอย่างชัดเจนสองข้าง

แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ ชุยซื่อยังคงคำนึงหาสิ่งของที่อยู่ในกล่องไม้นั่น

ลูกชายสองคนของชุยซื่อ ลูกชายคนโตกับลูกชายคนรองของตระกูลเมี่ยว กลับกลัวว่าแม่ของตนเองจะก่อเหตุทำให้พวกเขาถูกตีขาหัก จึงช่วยกันขวางชุยซื่อไว้

ส่วนเวลานี้ เมี่ยวกุ้ยก็เอากล่องไม้นั่นยกให้กับลั่วเสี่ยวปิง

ภายใต้เสียงตะโกนด่าของชุยซื่อ ลั่วเสี่ยวปิงเปิดกล่องไม้ที่อยู่ในมือ กลับพบว่าในกล่องไม้มีปิ่นปักผมเงินหนึ่งอันกับกำไลหยกหนึ่งอัน

บนปิ่นปักผมเงินก็ฝังไปด้วยหยก ดูจากสีของทั้งสองอย่างนี้ต่างก็ไม่เลว

ดูสิ่งของทั้งสองอย่างนี้ ลั่วเสี่ยวปิงอดไม่ได้ที่จะสงสัย

ตระกูลเมี่ยวเป็นเพียงครอบครัวเกษตรกรธรรมดา เจ้าสามตระกูลเมี่ยวเห็นว่าก็เป็นแค่เพียงบัณฑิตอยู่ในอำเภอ จะมีปัญญาซื้อสิ่งของที่ดีขนาดนี้ได้อย่างไร?

ตามคำกล่าวที่ว่า ทองมีค่า หยกล้ำค่า ยิ่งกว่านั้นหยกที่อยู่ตรงหน้านี้ยังดูไม่เลว

“นั่นเป็นสิ่งของของข้า รีบเอากลับคืนมาให้ข้า” ชุยซื่อตะโกนร้องโวยวายดิ้นรนหลุดจากเจ้าใหญ่เจ้ารองตระกูลเมี่ยว พร้อมพูดขึ้นว่า “สิ่งของที่เจ้าสามเอามาทดแทนบุญคุณข้า ไม่ได้มีมูลค่าแค่ห้าสิบตำลึง เจ้าเอาไปไม่ได้”

เมื่อชุยซื่อพูดออกมาเช่นนี้ สีหน้าคนหมู่บ้านเมี่ยวเจียทุกคนเต็มไปด้วยอาการตกตะลึง

สิ่งของสองอย่างมูลค่าไม่ต่ำกว่าห้าสิบตำลึง?ตระกูลเมี่ยวกุ้ยมีเงินขนาดนี้เลยหรือ?

เจ้าสามตระกูลเมี่ยวร่ำรวยแล้วหรือ?แต่เขากำลังเรียนหนังสืออยู่ในอำเภอไม่ใช่หรือ? เรียนหนังสือยังสามารถเรียนจนได้เงินด้วยหรือไง?

ในขณะที่ทุกคนในหมู่บ้านเมี่ยวเจียกำลังสงสัย เมี่ยวชุ่ยหลานก็หันไปมองแม่ของตนเอง ด้วยสีหน้าโศกเศร้า

ตระกูลพวกนางอัตคัดขัดสนจนต้องหยิบยืมนางมาตลอดไม่ใช่หรือ?ทำไมในบ้านยังมีสิ่งของล้ำค่าเช่นนี้?

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินสิ่งที่ชุยซื่อตะโกนพูดขึ้น ในใจก็ยิ่งสงสัยขึ้นมา แต่ก็กลับไม่ได้คิดมาก เพียงถามชุยซื่อว่า “สิ่งของนี้มูลค่าไม่ต่ำกว่าห้าสิบตำลึง?”

“ไม่ต่ำกว่า ไม่ต่ำกว่าแน่นอน” เพื่อให้ได้สิ่งของของตนเองกลับคืนมา ชุยซื่อรีบพยักหัว

ลั่วเสี่ยวปิง กลับหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “งั้นที่เกินมาก็ถือเสียว่าเป็นการชดเชยแล้วกัน พวกเราไม่ยินดีที่จะตอบแทนมากแล้วได้ชดเชยน้อย

ลั่วเสี่ยวปิงพูดพร้อมกับปิดฝากล่องไม้ แล้วยื่นให้กับจางต้าฉวน

จางต้าฉวนหอบกล่องไม้ไว้ในมือ สีหน้าค่อนข้างตกตะลึง

ส่วนลั่วเสี่ยวปิง กลับประกาศพูดกับทุกคนว่า “วันนี้เรื่องทุกอย่างจบลงแล้ว ต่อไปตระกูลเมี่ยวกับหมู่บ้านต้าซิงสกุลจาง จะไม่เกี่ยวข้องอะไรกันอีก....”

หลังจากพูดเช่นนี้แล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็หันไปมองเมี่ยวชุ่ยหลานอย่างตักเตือน ยักตรงมุมปาก พร้อมพูดขึ้นว่า “วันนี้ปล่อยเจ้าไปก่อน ต่อไปหากมาหาเรื่องข้าอีก.....”

ลั่วเสี่ยวปิงพูดพร้อมกับหันไปมองเข่าของเมี่ยวชุ่ยหลาน ด้วยสายตาลึกซึ้ง

ต่อให้ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้พูดจนจบ เมี่ยวชุ่ยหลานก็รู้ ความหมายของนางก็คือ ครั้งหน้าหากหาเรื่องนางอีก ก็จะตีขาของนางหัก

เมี่ยวชุ่ยหลานเกิดความเกลียดชังอยู่ในใจ แต่ก็ทำได้เพียงกัดฟัน มองดูลั่วเสี่ยวปิงกับคนหมู่บ้านต้าซิงเดินจากไปอย่างหยิ่งผยองต่อหน้าต่อตา

 “ให้ตายเถอะ ล้วนเป็นพวกโจรทั้งนั้น....” ชุยซื่อมองดูพวกลั่วเสี่ยวปิง เอาสิ่งของล้ำค่าของนางจากไปต่อหน้าต่อตา โกรธจนได้แต่กระทืบเท้า แต่ก็ไม่กล้าไล่ตามไป

เวลานี้ชุยซื่อมองเห็นเมี่ยวชุ่ยหลาน แล้วก็เอื้อมมือไปดึงผมของเมี่ยวชุ่ยหลาน พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าจะฆ่าเจ้า เจ้าตัวซวย เจ้าคนสูญเสียเงิน ขายเจ้าไป เจ้าก็ไม่มีมูลค่าเท่ากับสิ่งของที่น้องชายของเจ้าให้ข้า....”

ชุยซื่อก่นด่าไปด้วยทุบตีเมี่ยวชุ่ยหลานไปด้วย เมี่ยวชุ่ยหลานสามารถหลบได้ แต่ก็ไม่กล้าหลบ

คนหมู่บ้านเมี่ยวเจียเห็นภาพนี้เช่นนี้แล้วแต่ก็ไม่มีใครยอมช่วย ต่างแยกย้ายกันกลับไปหมด

ฝ่ายคนหมู่บ้านต้าซิง ถือว่าได้ชัยชนะกลับมา ดังนั้นแต่ละคนจึงอารมณ์ดีอย่างมาก

เวลานี้ จางต้าฉวนบอกว่าจะให้รางวัลทุกคนคนละสิบเหวิน ยังบอกอีกว่าผ่านไปสักพักจะฆ่าหมูแบ่งเนื้อให้ทาน อารมณ์ของทุกคนจึงยิ่งสูงกว่าเดิม

ต่อให้อิจฉาที่จางต้าฉวนได้สิ่งของล้ำค่ามาสองอย่าง แต่เวลานี้ก็มีความสุขอย่างมากแล้ว

 

เมื่อกลับมาถึงหมู่บ้าน ทุกคนต่างก็กลับบ้านใครบ้านมัน ส่วนลั่วเสี่ยวปิงกับฉีเทียนเห้า ทั้งสองกลับตามจางต้าฉวนไปบ้านสกุลจาง เตรียมตัวไปรับเด็กสองคนกลับบ้าน

และแล้ว เพิ่งมาถึงหน้าประตูบ้านสกุลจาง กลับได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังอยู่ข้างใน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง