แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 107

ภายในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด จางเอ้อเก่ากำลังนอนอยู่บนเตียงจางเอ้อหลางอย่างไม่ขยับเขยื้อน

เวลานี้ตัวเสื้อผ้าบนตัวจางเอ้อหลางได้ถูกถอดออก ตรงบริเวณท้องหมอสูได้ทำแผลให้แล้วอย่างง่ายๆ แต่ผ้าที่พันแผลตรงท้องก็ชุ่มไปด้วยเลือด ถึงขั้นยังสามารถมองเห็นว่ายังมีเลือดไหลออกมา

เมื่อดูสีหน้าจางเอ้อเก่าอีกครั้ง บนใบหน้าบนริมฝีปากไม่มีเลือดฝาดเลยสักนิด เอื้อมมือไปจับดู เวลานี้เพราะจางเอ้อเก่าเสียเลือดมากจึงทำให้มือเย็น

จางเอ้อเก่าหายใจออกเยอะกว่าหายใจเข้า สถานการณ์วิกฤติมาก ลั่วเสี่ยวปิงไม่ทันได้สนใจไปตรวจจับชีพจรหรือดูบาดแผลของจางเอ้อเก่า

ตอนนี้ จะต้องรักษาชีวิตของจางเอ้อเก่าไว้ให้ได้ก่อน เป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ตอนนี้ในมือของนางถึงแม้จะไม่มียาดีมายืดอายุขัย แต่มีน้ำแร่วิญญาณ

ไม่แม้แต่จะคิด ลั่วเสี่ยวปิงยกหัวจางเอ้อเก่าขึ้นมา เอื้อมมือไปที่ริมฝีปากของจางเอ้อเก่า เอาน้ำแร่วิญญาณของสเพซน้ำแร่วิญญาณออกมา

อาจเป็นเพราะสัญชาตญาณของการเอาตัวรอด หรืออาจเป็นเพราะความอัศจรรย์ของน้ำแร่วิญญาณ จางเอ้อเก่าที่อยู่ในภาวะช็อก สามารถกลืนน้ำแร่วิญญาณเข้าไป

สามารถกลืนน้ำแร่วิญญาณลงไป แสดงว่าชีวิตของจางเอ้อเก่าสามารถรักษาไว้ได้ชั่วขณะแล้ว

เวลานี้ลั่วเสี่ยวปิงค่อยไปตรวจดู บาดแผลของจางเอ้อเก่า

แกะผ้าพันแผลที่พันแผลออก ลั่วเสี่ยวปิงเห็นบาดแผลของจางเอ้อเก่าแล้ว

บนบาดแผลมีสมุนไพรห้ามเลือดอย่างธรรมดา แต่เห็นได้ชัดว่ายาห้ามเลือดใช้ไม่ได้ผล

ลั่วเสี่ยวปิงรู้ว่า ไม่ใช่เพราะหมอสูไม่มีความสามารถ แต่บาดแผลลึกเกินไป การใช้ยาห้ามเลือดของยุคสมัยนี้ในการห้ามเลือดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

ไม่มีความลังเลอะไรทั้งนั้น ลั่วเสี่ยวปิงใช้น้ำแร่วิญญาณล้างแผลให้กับจางเอ้อเก่าอีกครั้ง

ถ้าเป็นปกติ น้ำแร่วิญญาณที่สามารถช่วยชีวิตคนนี้ ลั่วเสี่ยวปิงไม่เอามาใช้อย่างสิ้นเปลืองแบบนี้แน่นอน แต่ต่อให้น้ำแร่วิญญาณล้ำค่าแค่ไหน เทียบกับบุญคุณที่จางเอ้อเก่าช่วยชีวิตเล่อเล่อนั้น สู้กันไม่ได้เลย ดังนั้นลั่วเสี่ยวปิงเอาออกมาใช้อย่างไม่เสียดายเลยสักนิด

ดีที่น้ำแร่วิญญาณมีประสิทธิภาพดีมาก หลังจากใช้ล้างแผล บาดแผลของจางเอ้อเก่าก็ไม่มีเลือดไหลออกมาอีก

ลั่วเสี่ยวปิงหยิบยาสมุนไฟรที่ก่อนหน้านี้เด็ดมาแปรรูปบางส่วนออกจากในอวกาศแล้วทุบให้ละเอียด จากนั้นเอายาสมุนไพรที่ทุบละเอียดทาบนบาดแผลของจางเอ้อเก่า รอทเสร็จเรียบร้อยแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ทำการพันบาดแผลไว้อีกครั้ง

รอทำทุกอย่างทั้งหมดเสร็จแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงมองดูรอบๆภายในห้อง เห็นภายในห้องมีพู่กันกับกระดาษ จึงเดินไปแล้วเขียนสูตรยาบำรุงเลือดขึ้นมา

โสม ไป๋จู รากสน ตังกุย ชวนฉง ไป๋เสา สูตี้หวง กันเฉ่า อย่างละสามสิบกรัมต้มเป็นปาเจินทัง ช่วยบำรุงเลือด บำรุงร่างกายได้เป็นอย่างดี

แต่สถานการณ์ของจางเอ้อเก่า หากใช้เพียงแค่น้ำต้มปาเจินทัง น่าจะทนรับไม่ได้ เมื่อครุ่นคิดดูแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงหยิบพู่กันขึ้นมาแล้วเขียนสูตรยาสมุนไพรอีกครั้ง

เมื่อทำเสร็จแล้ว ก็ผ่านไปแล้วประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

เวลานี้ ภายในบ้านมีเพียงจางเฉินซื่อกับพวกผู้หญิงไม่กี่คน พวกจางต้าฉวนได้ไปรวบรวมคนในหมู่บ้านไปตามหาคนตามหมู่บ้านต่างๆ

ลั่วเสี่ยวปิงเดินออกมาจากห้องแล้วก็ได้ยินจางเฉินซื่อพูดเช่นนี้ พูดเพียงคำว่าขอบคุณ แล้วเอาสูตรยาออกมา พอดีกับที่หมอสูถือกล่องยาเพื่อมาตรวจอีกครั้ง

 เดิมหมอสูก็ไม่ใช่คนชั่วร้ายอะไร ไม่อย่างนั้นตอนที่ลั่วเสี่ยวปิงเพิ่งมา ก็คงไม่ช่วยเหลือลั่วเสี่ยวปิง

เขารู้ดีแก่ใจว่าตนเองช่วยชีวิตจางเอ้อเก่าไม่ได้ แต่ก็กลับยังคิดถึงชีวิตนี้ ดังนั้นเมื่อพบว่ายาของตนเองไม่สามารถใช้ห้ามเลือดได้ จึงรีบกลับไปเปิดอ่านตำราแพทย์

ตอนนี้ที่หมอสูกลับมาก็เพราะว่าหาเจอวิธีห้ามเลือดได้แล้ว แต่วิธีนี้ใช้ได้ผลหรือไม่หมอสูเองก็ไม่รู้

พูดได้เพียงว่า ตอนนี้หมอสูสามารถทำได้เพียงทั้งที่รู้ว่าไม่มีทางรักษาได้อย่างแน่นอนแต่ยังคงมีความหวัง

แต่เมื่อหมอสูเข้าประตูมาแล้วมองเห็นลั่วเสี่ยวปิง ท่าทีของหมอสูกลายเปลี่ยนเป็นสับสน ภายในสายตาฉายแววไม่เป็นธรรมชาติ

เป็นเพราะการที่ตนเองอายุมากแล้วแต่ฝีมือการรักษาสู้ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้ และก็เพราะท่าทีของตนเองก่อนหน้านี้

ตอนนี้ในใจลั่วเสี่ยวปิงคิดถึงแต่อานอาน ไม่ได้สนใจสังเกตเห็นท่าทีของหมอสู จึงเอาสูตรยาที่เตรียมไว้ให้กับจางเฉินซื่อยื่นให้กับหมอสู

 “จัดยาตามสูตรนี้ให้กับจางเอ้อเก่า ก็จะไม่เป็นอะไรแล้ว”

 ในเมื่อหมอสูเป็นหมอประจำหมู่บ้าน ยังไงที่บ้านก็มียาสมุนไพร เอาสูตรยาให้กับเขาเป็นวิธีที่เร็วที่สุด

 หมอสูรับสูตรยาที่ลั่วเสี่ยวปิงยื่นมาให้ด้วยสัญชาตญาณ สูตรยานี้ ทั้งที่เขาเป็นหมอมาตั้งนานหลายปีเขาก็รู้จักเพียงครึ่งเดียว รู้เพียงว่าเป็นยาบำรุงร่างกายบำรุงเลือด แต่มีบางส่วนที่ไม่ค่อยรู้เรื่อง

แล้วก็เห็นลั่วเสี่ยวปิงเดินไปหาเล่อเล่อ คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น หมอสูคิดอยากที่จะถามก็ทำได้เพียงกลืนลงคอไป

หมอสูไม่ได้รีบไปจัดยาทันที แต่เข้าไปในห้องจางเอ้อหลางเพื่อไปดูจางเอ้อเก่า

เมื่อมองเห็นบาดแผลจางเอ้อเก่าที่ถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว ตลอดจนชีพจรที่เสถียรกว่าตอนที่เขาจากไปของจางเอ้อเก่า หมอสูตกตะลึงอย่างมาก

เมื่อหมอสูออกมาจากห้อง ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่อยู่แล้ว ส่วนเล่อเล่อถูกจางเฉินซื่อกอดไว้แนบอก

หมอสูพูดเพียงว่าข้าไปจัดยา แล้วก็จากไปเลย

ลั่วเสี่ยวปิงออกมาจากสกุลจาง ก็ตรงไปยังปากทางหมู่บ้าน

ตอนนี้ไม่รู้ว่าสถานการณ์อานอานเป็นอย่างไร นางไม่สามารถรออยู่ที่บ้านได้ ยังไงก็จะต้องทำอะไรสักอย่าง

ดีที่เมื่อลั่วเสี่ยวปิงมาถึงหน้าหมู่บ้าน ก็เจอกับรถเกวียนของบ้านผู้ใหญ่บ้าน จึงขึ้นเกวียนของผู้ใหญ่บ้านไป

ที่แท้หลังจากที่จางเต๋อหวั่งรู้ว่าอานอานหายตัวไป ถึงแม้ว่าได้รวบรวมคนในบ้านไปช่วยตามหา แต่ยังไงก็ยังเป็นห่วงมากจริงๆ นั่งรออยู่ที่บ้านไม่ไหว จึงให้ลูกชายขับรถพาเขาไปในเมือง

ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน จางเต๋อหวั่งเคยทำความรู้จักกับคนพเนจรในเมือง จางเต๋อหวั่งคิดว่าจะไปขอร้องให้พวกเขาช่วยเป็นหูเป็นตา

ด้วยเหตุนี้ ลั่วเสี่ยวปิงซาบซึ้งใจอย่างมาก

เมื่อมาถึงในเมือง ลั่วเสี่ยวปิงจึงแยกทางกับผู้ใหญ่บ้าน

ลงจากเกวียน ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกมึนงงไปสักพัก จากนั้นก็ตรงไปที่หอฝูหม่านทันที

อย่างแรก เกิดเรื่องกับที่บ้าน หลายวันนี้สินค้าที่จะต้องส่งมาให้กับหอฝูหม่าน ยังไงก็คงที่จะเป็นเรื่องยาก คนค้าขายให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือ ยังไงนางก็ต้องไปบอกก่อน

อย่างที่สอง นางรู้ว่าเจ้าของหอฝูหม่านคือคุณชายโอหยาง เป็นคนที่มีสถานะคนหนึ่ง บวกกับเขามีธุรกิจไปทั่ว นางอยากขอร้องให้เขาช่วยเหลือ

ถือว่าลั่วเสี่ยวปิงโชคดี ตอนที่นางไปหอฝูหม่าน โอหยางฉี่หยู่กำลังอยู่ในหอฝูหม่านพอดี

เมื่อได้ฟังเรื่องราวที่ลั่วเสี่ยวปิงเล่า ท่าทีโอหยางฉี่หยู่เคร่งขรึม พร้อมพูดขึ้นว่า “ฉีฮูหยินวางใจ เรื่องส่งสินค้าทางนี้ข้าจะให้คนไปเอามาจากที่อื่น ส่วนข่าวของคุณชายข้าก็จะให้คนไปสืบดู”

โอหยางฉี่หยู่พูดเสร็จแล้วก็ไม่ได้อยู่นาน ตรงออกไปทันที

โอหยางฉี่หยู่ร้อนใจจริงๆ

ยังไงเด็กคนนั้นก็เป็นลูกของเขา หากเกิดอะไรขึ้นจะต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่

อีกทางด้านหนึ่ง หลังจากฉีเทียนเห้าออกมาจากหมู่บ้านต้าซิง ก็รีบติดต่อหนานซิงหนานเฉิน ช่วยกันตามหาทุกซอกทุกมุม

หนานเฉินไม่พูดอะไรสักคำ หนานซิงกลับพูดไม่ออก

ลูกผู้หญิงชาวสวนคนหนึ่ง คู่ควรที่เจ้านายจะต้องลงทุนทำขนาดนี้หรือ?

แต่เมื่อมองเห็นสายตาเคร่งขรึมของเจ้านายตนเอง หนานซิงก็ไม่กล้าถามอะไร

หลังจากหนานซิงหนานเฉินจากไป ฉีเทียนเห้าหันไปทางโรงน้ำชาด้วยสัญชาตญาณ ภาพนี้ กลับทำให้ฉีเทียนเห้ามองเห็นเงาร่างที่คุ้นเคย ทำให้ฉีเทียนเห้าอดไม่ได้ที่จะขมวดขึ้นมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง