ในฐานะที่เป็นคนยุคปัจจุบัน ความจริงลั่วเสี่ยวปิงไม่ค่อยจะเชื่อในเรื่องของฮวงจุ้ยซักเท่าไหร่ ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าสาเหตุที่บ้านหลังนี้ขายไม่ออกเพราะเรื่องของฮวงจุ้ย ปฏิกิริยาแรกของลั่วเสี่ยวปิงก็คือรู้สึกว่ามันค่อนข้างไร้สาระเล็กน้อย
ราวกับจะดูออกว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่เชื่อ นายหน้าเลยกล่าวว่า: “ฮูหยินท่านนี้ท่านอย่าไม่เชื่อ เจ้าของคนเก่าเดิมทีก็ไม่เชื่อเช่นกัน แต่ในปีแรกที่เข้ามาอยู่ ลูกสะใภ้ของเขาแท้งไปสองครั้ง ปีที่สองที่เข้ามาอยู่ ขาลูกชายคนเล็กของเขาก็ขาหัก ปีที่สามที่เข้ามาอยู่ การค้าของเขาก็เกิดความผิดพลาดขึ้นมา นี่ถึงทำให้ต้องย้ายออกไป”
ตอนนี้นายหน้าเลยไม่ไปแก้ไขมันซะเลย ถึงอย่างไรที่นี่ก็ขายไม่ออกอยู่แล้ว ไม่สู้พูดทุกอย่างออกมาให้หมดเพื่อสร้างความประทับใจเล็กๆให้กับฮูหยินท่านนี้ดีกว่า
ลั่วเสี่ยวปิง: “……” โชคร้ายมากพอจริงๆ นางไม่มีอะไรจะพูด
แม้แต่ฉีเทียนเห้าที่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรอยู่ด้านข้างยังอดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้
ฉีเทียนเห้าผู้ซึ่งเคยล้มลุกคลุกคลานในภูเขาซากศพและทะเลเลือดมาก่อน ย่อมไม่เชื่อเรื่องฮวงจุ้ยอะไรพวกนั้นเช่นกัน
แต่มันเกี่ยวข้องกับลั่วเสี่ยวปิง เขาก็อยากจะห้ามไม่ให้ลั่วเสี่ยวปิงซื้อที่นี่โดยสัญชาตญาณ
เพียงแต่ว่าตอนที่ฉีเทียนเห้ามองไปทางลั่วเสี่ยวปิง เห็นว่าในแววตาของลั่วเสี่ยวปิงดูเหมือนมีการครุ่นคิดและเข้าใจเล็กน้อย ฉีเทียนเห้าก็เลยตัดสินใจรอดูต่อไปอีกหน่อย
นายหน้าเห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้พูดอะไรมานานพักใหญ่แล้วกลับรู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย ขณะที่มองสังเกตสีหน้าท่าทางของลั่วเสี่ยวปิงอย่างระมัดระวัง ก็เอ่ยปากขึ้นมาอย่างลองเชิง “ฮูหยิน ท่านจะลองไปดูร้านอื่นหรือไม่ ข้านึกขึ้นมาได้ว่าที่ถนนทิศตะวันออกยังมีอีกแห่งหนึ่ง……”
“ในเมื่อฮวงจุ้ยของบ้านหลังนี้แย่ขนาดนั้น เช่นนั้นทำไมถึงไม่จัดการลดราคาบ้านลงมา?” ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้ตอบคำถามของนายหน้า แต่กลับเอ่ยถามข้อสงสัยข้อนี้ขึ้นมา
นายหน้า: “ได้ยินมาว่าตอนที่สร้างบ้านหลังนี้ใช้เงินของคนแก่และคนหนุ่มไปไม่น้อย บวกกับถ้าเรียกราคาถูกเกินไป จะต้องทำให้คนเกิดความสงสัยแล้วไปสืบถามอย่างแน่นอน บ้านหลังนี้ก็จะยิ่งขายไม่ออก”
ลั่วเสี่ยวปิง: “……” ดูเหมือนจะสมเหตุสมผลมากอยู่
ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าเดินไปด้านหลังจากด้านหน้า คราวนี้นางมองสังเกตแผนผังของบ้านอย่างละเอียดมากยิ่งขึ้นเล็กน้อย
หลังจากที่เดินไปถึงเรือนแถวที่ขนาบกับเรือนใหญ่ ในใจของลั่วเสี่ยวปิงก็มีแผนการวางเอาไว้แล้ว
เพียงแต่ว่านายหน้าที่ตามอยู่ด้านหลังลั่วเสี่ยวปิงตลอดนั่นกลับไม่เข้าใจพฤติกรรมเช่นนี้ของลั่วเสี่ยวปิงหมายความว่าอย่างไร
ตามหลักแล้ว เมื่อรู้ว่าฮวงจุ้ยของบ้านหลังนี้ไม่ดี เช่นนั้นฮูหยินคนนี้ไม่ซื้อแน่นอนถึงจะถูก แต่ทำไมท่าทางของฮูหยินคนนี้กลับดูเหมือนจะสนใจมาก?
ในขณะที่นายหน้ากำลังงุนงงอยู่นั้น ในที่สุดลั่วเสี่ยวปิงก็ดูแผนผังทั้งหมดจนจบเช่นกัน
“ห้าร้อยตำลึง ข้าจะซื้อที่นี่เอาไว้”
ลั่วเสี่ยวปิงหันกลับมามองนายหน้า เอ่ยปากพูดเข้าประเด็นเลย
นายหน้าได้ยินรู้สึกแปลกใจมาก คิดไม่ถึงเลยว่าลั่วเสี่ยวปิงคิดจะซื้อบ้านหลังนี้จริงๆ
“ฮูหยิน ท่านไม่ลองคิดดูอีกทีหรือ?” นายหน้าเอ่ยปากขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ
ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินเช่นนี้ก็มองไปที่นายหน้าคนนั้นด้วยความรู้สึกขบขันเล็กน้อย นายหน้าคนนั้นกำลังหงุดหงิดในความปากมากของตนเอง กลับบังเอิญไปสบตาเข้ากับสายตานั่นของลั่วเสี่ยวปิงพอดี อดที่จะรู้สึกอายขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้: “ถ้าหากฮูหยินอยากได้จริงๆ ข้าก็จะไปหาเจ้าของบ้านถามดูว่าจะลดราคาลงมาได้หรือไม่”
ลั่วเสี่ยวปิงพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรอีก
นายหน้าเห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงอยากจะซื้อบ้านจริงๆ เลยนัดกับลั่วเสี่ยวปิงเอาไว้ว่าอีกหนึ่งชั่วยามให้หลังให้มาเจอกันในตรอกของประตูหลังแห่งนี้ ก็จากไปอย่างเร่งรีบ
หลังจากที่นายหน้าจากไปแล้ว ฉีเทียนเห้าถึงได้มองไปทางลั่วเสี่ยวปิง “ในกล่องใบนั้นของข้ามีเงินสดอยู่พันตำลึง” ดังนั้นไม่ต้องประหยัดเงินไปซื้อบ้านที่มีฮวงจุ้ยที่ไม่ดี
“อืม ข้ารู้แล้ว” ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้รู้สึกตกตะลึงกับจำนวนเงินนั้น ถึงอย่างไรนางประเมินเองก็น่าจะมีขนาดนี้เช่นกัน
สายตาของนางหยุดอยู่ที่เด็กสองคนที่เดินอยู่ข้างหน้า ในใจกำลังคิดอยู่ว่าจะใช้ประโยชน์จากเวลาหนึ่งช่วยยามที่ว่างออกมาอย่างไรดี ดังนั้นจึงไม่ได้สังเกตเห็นความคิดของฉีเทียนเห้าในเวลานี้
ฉีเทียนเห้า “……หากเจ้าอยากจะซื้อบ้านในเมืองจริงๆ ข้าสามารถซื้อหลังที่ใหญ่กว่าดีกว่านี้ให้เจ้าได้”
ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินคำพูดก็ส่ายหน้าโดยตรง “ข้าไม่ได้อยากจะซื้อบ้านในเมือง”
หากจะซื้อ นางก็จะไปซื้อในเขตตัวเมือง ถึงอย่างไรระดับความสามารถในการใช้จ่ายในเมืองก็สูงอยู่แล้ว ขณะเดียวกันโอกาสทางการค้าก็สูงด้วยเช่นกัน
อืม นางสามารถไปที่เหรินโซ่วถังรอบหนึ่งก่อน ไปดูว่าผลของการส่งเสริมการขายยาที่ส่งมาก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร ต้องเพิ่มการผลิตหรือไม่
ถ้าหากว่ามีเวลามากพอ นางก็สามารถไปดูที่ร้านของจิ่นเหนียงได้อีก
จิ่นเหนียงสองสามีภรรยากำลังเตรียมจะเปิดสาขาในตัวเมืองเร็วๆนี้ นางต้องอาศัยช่วงที่ไม่ยุ่งในตอนนี้เตรียมแบบใหม่ๆให้มันเยอะหน่อย เพื่อให้ร้านใหม่ได้รับความนิยมในทันที
ทางที่ดีที่สุดก็คือเสื้อผ้าที่นางออกแบบสามารถประสานกันเป็นลูกโซ่ทั้งประเทศ
ความคิดของลั่วเสี่ยวปิงไกลออกไปเรื่อยๆ ฉีเทียนเห้ามองดูท่าทางของลั่วเสี่ยวปิงก็รู้เลยว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้เข้าใจความหมายของเขา ก็เลยถามออกมาโดยตรง “ทำไมจะต้องซื้อบ้านหลังนี้ด้วย?”
การแสดงออกของฉีเทียนเห้าจริงจัง เสียงก็จริงจังขึ้นมาเล็กน้อย
ไม่เพียงแค่ลั่วเสี่ยวปิงเท่านั้นที่หยุดการกระจายความคิดได้สติกลับมา แม้แต่เด็กสองคนที่เดินไปถึงปากซอยก็หยุดฝีเท้าแล้วหันกลับมามอง
“อ๋า?” ถึงแม้ลั่วเสี่ยวปิงจะได้สติกลับมา แต่ก็ยังรู้สึกอยู่นอกสถานการณ์เล็กน้อย “ทำไมถึงซื้อไม่ได้?”
“ฮวงจุ้ยของบ้านหลังนี้ไม่ดี” ฉีเทียนเห้าเน้นย้ำ
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่าวันหนึ่งตนเองจะสนใจเรื่องฮวงจุ้ยขนาดนี้ได้
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองจะสนใจผู้หญิงคนหนึ่งมากมายขนาดนี้ได้
ลั่วเสี่ยวปิงมองดูใบหน้าที่จริงจังของฉีเทียนเห้า มองเห็นความเป็นห่วงในสายตาของเขา ถึงได้เข้าใจความหมายในคำพูดก่อนหน้านี้ที่ฉีเทียนเห้าต้องการจะสื่อออกมา จู่ๆก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
ไม่รู้ว่าทำไม นางถึงได้รู้สึกว่าท่าทางที่จริงจังในตอนนี้ของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ช่างดูน่ารักมาก
อย่างไรเสียนางก็นึกว่าคนอย่างฉีเทียนเห้าที่มีอิทธิพลทางอารมณ์ที่ส่งผลต่อผู้อื่นจะไม่เชื่อเรื่องฮวงจุ้ย แต่ว่าตอนนี้กล่าวขึ้นมาอย่างจริงจังว่าบ้านหลังนี้ฮวงจุ้ยไม่ดี ความรู้สึกแบบนี้แสดงถึงความน่ารักอย่างหนึ่ง ไปโดนจุดหัวเราะของนางอย่างอธิบายไม่ถูก
ฉีเทียนเห้ามองดูผู้หญิงที่หัวเราะราวกับกิ่งดอกไม้สั่นไหวสายตาเปล่งประกายแพรวพราว ฮวงจุ้ยอะไรพวกนั้นถูกเขาลืมไปในทันที ดวงตาทั้งคู่จับจ้องไปที่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า
โดยเฉพาะ เมื่อมองดูริมฝีปากชุ่มชื่นนั่น มีความรู้สึกถึงแรงกระตุ้นอยากจะจูบลงไป
บางทีอาจจะเป็นเพราะสายตาของฉีเทียนเห้าร้อนแรงเกินไป ลั่วเสี่ยวปิงหยุดหัวเราะ สายตาสบเข้ากับสายตาทั้งคู่ของฉีเทียนเห้า
ในเวลานี้ เสียงหัวใจเต้นโครมคราม
มองดูผู้ชายที่เข้าใกล้ตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ ลั่วเสี่ยวปิงรู้ดีว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ในตอนนี้ในใจของนางรู้สึกประหม่า แล้วก็คาดหวังอยู่เล็กน้อย ลืมไปเลยว่าที่นี่นอกจากพวกเขาแล้ว ยังมีลูกสองคนด้วย
เดิมทีอานอานกับเล่อเล่อเดินมาทางลั่วเสี่ยวปิงแล้ว แต่ว่าจู่ๆพวกเขาก็หยุดฝีเท้ากะทันหัน
เฉลียวฉลาดอย่างพวกเขา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้าใจมากนัก แต่ว่าตอนนี้เวลานี้ พวกเขาก็รู้สึกถึงบรรยากาศที่ผิดปกติระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่เช่นกัน
ดวงตาคู่เล็กของเล่อเล่อเป็นประกาย ในสายตามีความสงสัยแล้วก็คาดหวังอย่างอธิบายไม่ถูก
บนใบหน้าของอานอานกลับเต็มไปด้วยความซับซ้อน แต่ว่าหลังจากซับซ้อนผ่านไปแล้ว กลับมีความผ่อนคลายและประนีประนอมเล็กน้อย
ช่างเถอะ ท่านแม่ชอบท่านพ่อ เขาไม่เกลียดท่านพ่อแล้วก็ได้
แน่นอนว่า ต่อไปถ้าหากท่านพ่อรังแกท่านแม่ เขาจะไม่ให้อภัยเขาอีกแน่นอน
อานอานที่ฉลาดกว่าเล่อเล่อเล็กน้อย ขณะที่กำลังคิดไป ก็ปั้นหน้าเล็กที่ละเอียดอ่อนที่แฝงไปด้วยไขเด็กทารกไปด้วย ใช้มือปิดตาของน้องสาวเอาไว้……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...