“พี่ชาย ท่านพี่ปิดตาของข้าทำไม?”
ในตรอกที่เงียบสงบ จู่ๆก็มีเสียงทักท้วงไม่พอใจของเล่อเล่อดังขึ้นมา
เสียงนี้ ปลุกคนสองคนที่ลืมตัวได้สติกลับมาในชั่วพริบตา
ฉีเทียนเห้ากับลั่วเสี่ยวปิงถอยหลังออกไปหนึ่งก้าวในเวลาเดียวกัน สีหน้าท่าทางของทั้งคู่ดูเขินอาย แล้วก็หน้าแดงเล็กน้อย
โดยเฉพาะลั่วเสี่ยวปิง เวลานี้ในใจสามารถพูดได้เลยว่ารู้สึกหงุดหงิดสุดขีด
ตนเองลืมไปได้อย่างไรว่าลูกสองคนก็อยู่ด้วย ต่อหน้าลูกสองคนนางกับฉีเทียนเห้าเกือบจะ……
ส่วนที่เหลือ ลั่วเสี่ยวปิงไม่มีหน้าไปคิด
ขายหน้าขายมาถึงยุคโบราณจริงๆเลย
ถ้าหากทำอะไรลงไปจริงๆ ต่อไปนางจะเงยหน้าขึ้นต่อหน้าลูกสองคนได้อย่างไร?
อานอานมองดูความเขินอายบนใบหน้าของท่านพ่อกับท่านแม่ตัวเอง เหลือบมองเล่อเล่ออย่างหมดคำจะพูดมากครู่หนึ่ง จากนั้นก็วางมือของตัวเองลงอย่างสงบนิ่ง ไม่ได้ส่งเสียงใดๆ
ในทางกลับกันเล่อเล่อกลับดูไร้เดียงสาไม่รู้ท่าทางที่อึดอัดของผู้ใหญ่ มองดูท่านพ่อของตัวเอง แล้วก็มองดูท่านแม่ของตัวเอง เอ่ยปากขึ้นมาด้วยความสงสัย “ท่านแม่ ท่านพ่อ เมื่อครู่นี้พวกท่านกำลังทำอะไรกันอยู่?”
ลั่วเสี่ยวปิง: “……”
ฉีเทียนเห้า: “……”
ผู้เกี่ยวข้องสองคนยิ่งเขินอายเข้าไปใหญ่
เพียงแต่ว่า เห็นลั่วเสี่ยวปิงเขินอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี ฉีเทียนเห้าก็กระแอมไอออกมาเบาๆ จากนั้นก็มองดูเล่อเล่ออย่างจริงจัง “เมื่อครู่นี้แค่อยากจะพูดกระซิบกับท่านแม่เจ้า”
เล่อเล่อเอียงศีรษะ “ท่านพ่อกับท่านแม่พูดกระซิบอะไร ข้ากับพี่ชายฟังด้วยไม่ได้หรือ?”
ฉีเทียนเห้า: “……ในเมื่อเป็นการพูดกระซิบ พวกเจ้าย่อมฟังไม่ได้อยู่แล้ว”
เล่อเล่อพยักหน้าอย่างเข้าใจชัดเจนมาก จากนั้นก็จับมือของอานอาน “พี่ชาย เราหันหลังไปกันเถอะ ท่านพ่อจะพูดกระซิบกับท่านแม่ เราสองคนฟังไม่ได้นะ”
อานอาน: “……”
ฉีเทียนเห้า: “……”
ลั่วเสี่ยวปิง: “……” นางยิ่งอายเข้าไปใหญ่
“เร็ว! รีบไปเชิญหมอมาเร็ว เสี่ยวอิงตกเลือดอีกแล้ว”
ในขณะที่ลั่วเสี่ยวปิงกำลังเขินอายอยู่ เสียงที่ร้อนรนแฝงความสะอึกสะอื้นและหวาดกลัวดังมาจากด้านหลังกำแพงลานที่อยู่ไม่ไกลออกไป
จากนั้น ประตูบานหนึ่งที่อยู่ลึกเข้าไปในตรอกถูกคนเปิดออกอย่างแรง ผู้ชายคนหนึ่งโซซัดโซเซ วิ่งออกมาด้วยใบหน้าที่ซีดขาว
ในขณะที่ผู้ชายวิ่งผ่านพวกลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้มองพวกเขาเลยแม้แต่แวบเดียว เห็นได้ชัดว่ารีบร้อนมากจนเกินไป
ผู้ชายเพิ่งออกไปจากตรอก เสียงร้องไห้ก็ดังขึ้นจากด้านหลังประตูที่เปิดอยู่บานนั้น
“ท่านแม่ ข้ารักษาลูกคนนี้เอาไว้ไม่ได้อีกแล้วใช่ไหม? ฮือๆๆ ชีวิตข้าช่างอนาถเหลือเกิน——”
บางทีอาจจะเป็นเพราะบ้านหลังนั่นเสียงดังเกินไป ประตูที่ถัดจากบ้านหลังนั้นก็ถูกผลักออกเช่นกัน หญิงสาวที่ทำให้ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกคุ้นหน้าเล็กน้อยคนหนึ่งเดินออกมา
มองเห็นพวกลั่วเสี่ยวปิง ผู้หญิงคนนั้นก็เพียงแค่ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ก้าวเท้าเดินเข้าไปในบ้านที่เกิดเรื่องหลังนั้น
ลั่วเสี่ยวปิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็กล่าวกับฉีเทียนเห้าว่า “ท่านพาเด็กๆอยู่ที่นี่ก่อน ข้าไปดูหน่อย”
ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วตกเลือด ไม่ว่าจะเป็นฉีเทียนเห้าหรือว่าลูกทั้งสองคนก็ไม่เหมาะสมที่จะอยู่ด้วย มีเพียงแค่นางไปเองคนเดียว
ฉีเทียนเห้าพยักหน้า ไม่ได้ขัดขวาง
ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ชักช้าอีก เดินเข้าไปทางบ้านที่ประตูเปิดอยู่หลังนั้น
ในตอนที่ลั่วเสี่ยวปิงเดินไปถึงหน้าประตู ในลานก็ว่างเปล่าแล้ว และในบ้านก็มีเสียงพูดคุยดังออกมาเบาๆ
ลั่วเสี่ยวปิงกวาดตามองไปบนพื้น ข้างบนมีรอยเลือดแอ่งเล็กๆแอ่งหนึ่ง นี่ทำให้ลั่วเสี่ยวปิงต้องเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
อาจเป็นเพราะเป็นห่วงหญิงตั้งครรภ์มากเกินไป ดังนั้นจึงไม่มีใครปิดประตูห้อง ลั่วเสี่ยวปิงผลักประตูเดินเข้าไปโดยตรง
เวลานี้ในแสงของห้องมืดสลัวเล็กน้อย หญิงสาวที่ลั่วเสี่ยวปิงเห็นเมื่อครู่นึคนนี้ก็กำลังยืนอยู่ข้างเตียง กำลังเอ่ยคำพูดที่ปลอบโยนและห่วงใย
แต่หญิงตั้งครรภ์ที่อยู่บนเตียงกลับดูเหมือนจะไม่ได้ยิน กำลังสะอึกสะอื้นเสียงเบาอยู่
ลั่วเสี่ยวปิงสังเกตเห็นว่าผู้หญิงที่อยู่บนเตียงรูปร่างผอมบาง ในสีหน้าที่เหลืองเหมือนกับขี้ผึ้งมีความซีดเซียวอยู่ด้วย กระโปรงด้านล่างมีเลือดติดอยู่เล็กน้อย หน้าท้องกลับแบนราบ เห็นได้ชัดว่ายังอยู่ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์
ในห้องนอกจากสองคนนี้แล้ว ยังมีหญิงสูงวัยอายุประมาณห้าสิบกว่ายืนอยู่คนหนึ่ง เดิมทีหญิงสูงวัยก็กำลังร้องไห้อยู่ เห็นมีคนแปลกหน้าเข้ามาก็สะดุ้งตกใจ มองมาที่ลั่วเสี่ยวปิงด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “เจ้าเป็นใคร?”
“ข้าพอมีทักษะทางการแพทย์ ผ่านมาพอดีเลยแวะเข้ามาดูหน่อย” ขณะที่ลั่วเสี่ยวปิงพูดไป ก็เดินเข้าไปข้างเตียงด้วย
ทันทีที่หญิงสูงวัยคนนั้นได้ยินว่าลั่วเสี่ยวปิงมีทักษะทางการแพทย์ ไม่ทันได้คิดรอบคอบด้วยซ้ำ ก็ก้าวเท้าเปิดทางให้โดยสัญชาตญาณ ปากยังกล่าวไปด้วยว่า “ท่านหมอได้โปรดช่วยรักษาลูกในท้องของลูกสะใภ้ข้าเอาไว้ด้วย พวกเราไม่อาจจะสูญเสียเขาไปได้อีกแล้ว”
สีหน้าท่าทางของหญิงสูงวัยน่าเวทนา น้ำเสียงแฝงไปด้วยเสียงสะอึกสะอื้น
และหลังจากที่ผู้หญิงบนเตียงได้ยินคำพูดของหญิงสูงวัยแล้ว ก็รู้สึกเศร้าเสียใจออกมาจากส่วนลึกของจิตใจเช่นกัน เริ่มร้องไห้ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ลั่วเสี่ยวปิงขมวดคิ้ว “ถ้าอยากจะรักษาเด็กคนนี้เอาไว้ ก็อย่าร้องไห้” ร้องไห้ก็ไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาสักหน่อย
กล่าวไป มือของลั่วเสี่ยวปิงก็วางไปบนข้อมือของผู้หญิงที่อยู่บนเตียง ทันทีที่วางลงไป คิ้วก็ขมวดกันแน่น
และผู้หญิงคนนั้นก็หยุดร้องไห้เพราะคำพูดของลั่วเสี่ยวปิง ในดวงตาที่เศร้าสร้อยกลับแฝงไปด้วยความสิ้นหวังเล็กน้อย
ชั่วครู่เดียวลั่วเสี่ยวปิงก็เข้าใจชีพจรของฮูหยินที่อยู่บนเตียงคนนี้แล้ว
ตกเลือดในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ เป็นสัญญาณของการแท้งลูก และดูเหมือนว่า นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกด้วย
“ก่อนหน้านี้เจ้าก็เคยแท้งลูกใช่ไหม?” ลั่วเสี่ยวปิงถาม
ผู้หญิงเหมือนถูกทิ่มไปที่บาดแผลน่าเศร้าในใจ นัยน์ตาแดงก่ำ “นี่คือครั้งที่สี่แล้ว”
หลังจากพูดจบก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมาอีก แต่นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของลั่วเสี่ยวปิง อยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่กล้าร้อง
เมื่อลั่วเสี่ยวปิงได้ยินในใจก็รู้แล้ว เก็บมือกลับมา
ผู้หญิงคนนี้คือภาวะแท้งจนเป็นนิสัย
ภาวะแท้งจนเป็นนิสัยมีหลายประเภท นางตรวจหาสาเหตุไม่ได้ แต่ว่าเรื่องการรักษาเด็กในครรภ์เอาไว้สามารถลองดูได้
“เป็นอย่างไรบ้าง?” หญิงสูงวัยเห็นลั่วเสี่ยวปิงเก็บมือกลับไป รีบร้อนกล่าวถามขึ้นมา “รักษาหลานชายของข้าเอาไว้ได้ไหม?”
“ข้าสามารถลองดูได้” ลั่วเสี่ยวปิงกล่าว
หญิงสูงวัยได้ยินดังนั้น รู้สึกไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย แล้วก็มีความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เวลานี้ ลั่วเสี่ยวปิงหยิบขวดเครื่องเคลือบออกมาจากแขนเสื้อตัวเองหนึ่งขวดยื่นให้กับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์คนนั้น “เจ้าดื่มนี่ก่อน แล้วข้าค่อยไปเขียนใบสั่งยาบำรุงครรภ์ให้กับเจ้า”
สิ่งที่อยู่ในขวดเครื่องเคลือบขวดนั้นย่อมเป็นน้ำแร่วิญญาณอยู่แล้ว สถานการณ์ของผู้หญิงวิกฤตมาก ไม่สามารถรอการต้มยาอะไรพวกนั้นได้ มีเพียงน้ำแร่วิญญาณเท่านั้นถึงจะสามารถชะลอเวลาเอาไว้ได้
แต่แล้วเมื่อผู้หญิงคนนั้นได้ยินคำพูดของลั่วเสี่ยวปิง กลับไม่ได้ยื่นมือไปรับ ในสายตามีความลังเลและสงสัยอย่างเห็นได้ชัด
ลั่วเสี่ยวปิงที่เดิมทียังมีความกระตือรือร้นในใจได้เห็นภาพนี้แล้ว ถึงอย่างไรก็รู้สึกหมดอารมณ์ลงเล็กน้อย แต่ก็ยังอดทนเอาไว้ไม่ได้เก็บมือกลับมา “ขออภัยที่ข้าขอเตือนสติคำหนึ่ง สถานการณ์ของเจ้าในตอนนี้วิกฤตมาก และหากครั้งนี้รักษาลูกคนนี้เอาไว้ไม่ได้ ต่อไปก็มีความเป็นไปได้ว่าเจ้าจะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีก”
เกิดภาวะแท้งจนเป็นนิสัยหลายๆครั้ง มดลูดย่อมจะต่อต้านการตั้งครรภ์โดยสัญชาตญาณ
หญิงตั้งครรภ์กับหญิงสูงวัยสองคนได้ยินคำพูดนี้ของลั่วเสี่ยวปิง สีหน้าก็ซีดขาวไปในเวลาเดียวกัน
หญิงสูงวัยกำลังจะก้าวเข้าไปรับขวดเครื่องเคลือบในมือของลั่วเสี่ยวปิงมาป้อนให้กับลูกสะใภ้ของตนเอง จู่ๆหญิงตั้งครรภ์คนนั้นกลับชี้ไปที่ลั่วเสี่ยวปิงด้วยอารมณ์ “เจ้าไสหัวไปเลยนะ ไอ้หมอเถื่อน ข้าจะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อย่างไร ผู้หญิงที่ชั่วร้ายเช่นเจ้ากล้ามาสาปแช่งลูกข้า เจ้าจิตใจทำด้วยอะไร?”
หญิงตั้งครรภ์มีตื่นเต้นมาก คำพูดไม่น่าฟังมาก
ลั่วเสี่ยวปิงขมวดคิ้ว มันไม่ใช่เพราะหญิงตั้งครรภ์คนนี้พูดจาไม่รู้กาลเทศะ แต่เป็นเพราะหากหญิงตั้งครรภ์คนนี้ยังตื่นเต้นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าจะรักษาเด็กเอาไว้ไม่ได้จริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...