แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 181

“เปล่า” ฉีเทียนเห้าได้สติกลับมา ส่ายหน้าเล็กน้อย

ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้ถามหาต้นเหตุของเรื่องราว กำลังจะบอกว่าไปดูที่อื่นก่อน ก็เห็นนายหน้าเดินมาอย่างเร่งรีบ

“พวกท่านยังอยู่ก็ดีแล้ว คนมาถึงแล้ว”

คนมาถึงแล้ว แต่กลับไม่ได้มาพร้อมกับนายหน้า แต่เข้าไปในบ้านหลังนั้นทางประตูหน้า ดังนั้นหลังจากที่นายหน้าเปิดประตูหลังออก พวกเขาก็เข้าไปเลย

มาถึงข้างหน้า ลั่วเสี่ยวปิงเห็นเจ้าของบ้านหลังนั้นเป็นผู้ชายวัยกลางคนธรรมดาคนหนึ่ง ตอนที่เห็นพวกลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็กล่าวตรงประเด็นเลย “บ้านหลังนี้ไม่เหมาะกับการอยู่อาศัย”

“ข้ารู้” ลั่วเสี่ยวปิงพยักหน้า “ข้าซื้อมันก็ไม่ได้คิดจะใช้สำหรับอยู่อาศัย”

ชายวัยกลางคนได้ยินคำพูด ถึงได้มองไปทางลั่วเสี่ยวปิง เห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่เหมือนกำลังโกหกอยู่ ก็ไม่ได้พูดอะไรและตกลงขายบ้าน

เจ้าของบ้านไม่ได้ต่อรองราคา ขายในราคาห้าร้อยตำลึงที่ลั่วเสี่ยวปิงเสนอโดยตรง

ยื่นหมูยื่นแมวจ่ายเงิน แล้วก็ไปโอนกรรมสิทธิ์

หลังจากโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ตอนที่โฉนดบ้านกับร้านอยู่ในมือของลั่วเสี่ยวปิง ก็เป็นเวลายามเซินแล้ว

ตั้งแต่สมัยโบราณ ผู้ชายชอบรถ ผู้หญิงชอบบ้าน นี่เป็นกฎเกณฑ์ตายตัวที่ไม่เปลี่ยนแปลง

มองดูโฉนดที่ดินที่อยู่ในมือ ลั่วเสี่ยวปิงก็เริ่มวางแผนการใช้งานพวกมันในอนาคตขึ้นมาในใจแล้ว

ร้านค้าที่อยู่ข้างหน้า ก็ขายผักนอกฤดูกาล

บ้านที่อยู่ด้านหลัง นางเตรียมจะตกแต่งเป็นศูนย์อาหาร

เรือนแถวที่ขนาบกับเรือนใหญ่กับเรือนรับรอง นางเตรียมจะแบ่งเป็นแผงขายอาหารว่างต่างๆ และตึกเล็กสองชั้นนั่น นางเตรียมจะทำปิ้งย่างหม้อไฟของนางเอง ช่างสมบูรณ์แบบจริงๆ

ลั่วเสี่ยวปิงยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าสามารถทำได้ เวลานี้นัยน์ตาของนางกำลังเปล่งประกาย ราวกับว่าศูนย์อาหารได้เปิดแล้วจริงๆ

หมกมุ่นอยู่ในจินตนาการของตนเองลั่วเสี่ยวปิงไม่เห็นความลังเลในสายตาของฉีเทียนเห้า จนกระทั่งฉีเทียนเห้าเอ่ยปากขึ้นมา “ข้าต้องจากไปสักพัก”

ฉีเทียนเห้ากล่าวคำนี้ออกมา อานอานเล่อเล่อที่เหนื่อยล้าเล็กน้อยแล้วมองไปทางฉีเทียนเห้า ลั่วเสี่ยวปิงก็ดึงสติกลับมามองไปทางเขา

“มีบางอย่างให้ต้องจัดการ อย่างน้อยสิบวัน อย่างมากหนึ่งเดือน”

เมื่อครู่ตอนที่ลั่วเสี่ยวปิงไปตรวจรักษาคน เขาเห็นสัญญาณลับที่ลูกน้องทิ้งไว้

ทิ้งสัญญาณลับเช่นนั้นเอาไว้ มันต้องมีอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ก่อนหน้านี้ที่ไม่พูดออกมาเพราะไม่อยากให้ลั่วเสี่ยวปิงหมดสนุก ตอนนี้จบเรื่องแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ยังอารมณ์ดีอยู่ ก็ถึงเวลาที่เขาควรจะจากไปแล้ว

ทันทีที่ได้ยินว่าฉีเทียนเห้าจะจากไป อารมณ์ที่มีความสุขของลั่วเสี่ยวปิงก็มลายหายไปในทันที รู้สึกหดหู่ในใจ ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้ว่าควรจะมีปฏิกิริยาอย่างไรดี

“เช่นนั้นท่านยังจะแต่งงานกับท่านแม่ไหม?” อานอานขมวดคิ้ว มองไปที่ฉีเทียนเห้าแล้วถามคำถามที่แม้แต่ลั่วเสี่ยวปิงก็ยังรู้สึกประหลาดใจ

วันที่หกเดือนหน้า เป็นวันที่พวกเขาบอกกับชาวบ้านว่าจะจัดพิธีแต่งงาน นับจากวันนี้ไปอีกแค่ยี่สิบกว่าวันแล้ว

อานอานจ้องมองฉีเทียนเห้าเขม็ง ราวกับตอนนี้เวลานี้หากฉีเทียนเห้าพูดขึ้นมาว่า ‘ไม่’ เขาก็พร้อมที่จะแตกหันไปข้างทันที

ฉีเทียนเห้ามองดูอานอานครู่หนึ่ง จากนั้นก็มองไปทางลั่วเสี่ยวปิง สีหน้าเคร่งขรึม “รอข้า ข้าจะกลับมาแต่งงานกับเจ้า”

ตอนที่พูดคำนี้ออกมา เสียงของฉีเทียนเห้าแฝงไปด้วยความแหบแห้งของฮอร์โมนเพศชายเล็กน้อย ในแววตากลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ราวกับกำลังกล่าวคำสัญญาอะไรพวกนั้น

สุดท้าย ฉีเทียนเห้าก็จากไป ตอนที่ฉีเทียนเห้าจากไป ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้ให้คำตอบว่าจะรอเขาหรือไม่

ถึงแม้ฉีเทียนเห้าจะรู้สึกผิดหวัง แต่ก็ไม่ได้ชักช้า

หลังจากที่ฉีเทียนเห้าจากไป ก็ออกจากเมืองไปโดยตรง

เวลานี้ตรงปากทางเข้าเมือง คือหนานเฉินที่รออยู่ตรงนั้น

ข้างหน้าหนานเฉิน เป็นม้าสองตัว

“เกิดอะไรขึ้น?” ฉีเทียนเห้ากระโดดขึ้นหลังม้า กล่าวถามหนานเฉินโดยตรง

ถึงแม้จะรู้ว่าเกิดเรื่องฉุกเฉิน แต่รายละเอียดเฉพาะเจาะจงคืออะไร ฉีเทียนเห้าไม่รู้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง