แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 183

ลั่วเสี่ยวปิงเป็นห่วงจางซิ่งฮวา แต่ตอนนี้ฟ้าใกล้จะมืดแล้ว บวกกับลูกสองคนก็อยู่ข้างกาย เวลานี้นางจะรีบไปในเมืองมันก็ไม่สมกับความเป็นจริง

บวกกับ ลั่วเสี่ยวปิงนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

ปิ่นปักผมของซิ่งฮวาเป็นของโจร แล้วกำไลหยกในมือของตนเองอันนั้นล่ะ?

เพราะเรื่องพวกนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็ให้จางเอ้อหลางรีบเร่งรถม้ากลับไปที่หมู่บ้านก่อน

รถม้าเพิ่งจะหยุดอยู่ที่หน้าประตูบ้านใหม่ จางเอ้อหลางก็ขอตัวกลับบ้านก่อนโดยตรง ลั่วเสี่ยวปิงรู้ว่าจางเอ้อหลางจะกลับไปแจ้งต่อครอบครัว

ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้ชักช้า หลังจากกลับเข้าไปในบ้านแล้วก็ตรงดิ่งไปทางตู้เสื้อผ้าโดยตรง

เพียงแต่ว่า ตอนที่นางเปิดกล่องใบหนึ่งในตู้เสื้อผ้าออก กลับเห็นว่าข้างในว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย

กำไลหยกล่ะ?

จู่ๆลั่วเสี่ยวปิงก็นึกถึงงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่วันนั้น คนจากบ้านเก่าตระกูลลั่วเคยเข้าไปในห้องของนาง หรือว่ากำไลหยกจะถูกพวกเขาเอาไป?

ในตอนที่ลั่วเสี่ยวปิงกำลังคิดเช่นนี้อยู่ นอกประตูก็มีเสียงเคาะประตูดังเข้ามา

ลั่วเสี่ยวปิงเดาว่าน่าจะเป็นคนตระกูลจาง ก็เลยไปเปิดประตู

ทันทีที่เปิดประตูออก เป็นเช่นนั้นจริงๆ ที่ยืนอยู่หน้าประตูคือคนของตระกูลจางทั้งครอบครัว นอกจากเสี่ยวเหม่ยแล้วคนอื่นๆก็อยู่กันหมด รวมถึงจางต้าหลางที่ช่วงนี้ขาและเท้าเกือบจะหายดีแล้ว

“เสี่ยวปิง รถม้าของเจ้ายืมให้เราหน่อยได้ไหม?”

จางเฉินซื่อเห็นลั่วเสี่ยวปิง ก็มองดูนางด้วยสีหน้าอ้อนวอน มีความรู้สึกเหมือนกับสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย

ลั่วเสี่ยวปิงกำลังจะพูด กลับได้ยินเสียงกีบม้ากับรถม้าที่อยู่ไม่ไกลออกไปดังมา

เวลานี้ท้องฟ้ามืดสลัว แต่กลับไม่ได้มืดสนิทลงมา ดังนั้นในตอนที่ทุกคนมองไปทางเสียง สามารถเห็นอย่างชัดเจนว่านั่นคือยามมือปราบกลุ่มหนึ่ง

อีกทั้ง ยามมือปราบพวกนั้นมาในทิศทางของพวกเขา ไม่ได้จะเข้าไปในหมู่บ้าน

ลั่วเสี่ยวปิงนึกถึงกำไลหยกที่หายไป สีหน้าท่าทางเคร่งขรึม แต่กลับมองไปที่อานอานกับเล่อเล่อโดยสัญชาตญาณ

เวลานี้อานอานเล่อเล่อก็เห็นยามมือปราบแล้วเช่นกัน พวกเขาที่อายุยังน้อยตอนนี้เวลานี้ดูเหมือนจะรู้สึกถึงอะไรขึ้นมา ใบหน้าเล็กเต็มไปด้วยความกังวล

เห็นท่านแม่มองมาทางพวกเขา ทั้งสองเข้าไปใกล้ลั่วเสี่ยวปิงพร้อมกัน จับมือของลั่วเสี่ยวปิงเอาไว้ซ้ายคนหนึ่งขวาคนหนึ่ง จับเอาไว้แน่น แสดงถึงความรู้สึกของพวกเขาในตอนนี้

ลั่วเสี่ยวปิงอยากจะปลอบประโลมลูกสองคน แต่มันก็ไม่ทันแล้ว ยามมือปราบมาถึงหน้าแล้ว

มองดูกลุ่มคนที่ยืนอยู่หน้าประตู เจ้าหน้าที่กวาดตามองรอบหนึ่ง สุดท้ายสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่ลั่วเสี่ยวปิง

“เจ้าก็คือลั่วเสี่ยวปิงแม่นางลั่วจากหมู่บ้านต้าซิง?”

ทันทีที่คำถามนี้ของยามมือปราบออกมา กลุ่มคนตระกูลจางต่างก็มองไปทางลั่วเสี่ยวปิงอย่างกังวลใจ ลูกสองคนก็ยิ่งเปลี่ยนจากการจับมือของลั่วเสี่ยวปิงมากอดนางเอาไว้

ในใจของลั่วเสี่ยวปิงสั่นไหว แต่กลับมองไปทางยามมือปราบอย่างไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย “ข้าก็คือลั่วเสี่ยวปิง”

ยามมือปราบนั่นได้ยินคำพูด กลับกำหมัดคำนับไปทางลั่วเสี่ยวปิง “แม่นางลั่วมีความเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมคดีหนึ่ง ขอเชิญเข้าไปในเมืองกับพวกข้าน้อยรอบหนึ่ง”

ท่าทีของยามมือปราบแปลกมาก ไม่เหมือนมาจับกุมคนร้าย ปฏิบัติต่อลั่วเสี่ยวปิงด้วยความสุภาพมากอยู่เล็กน้อย

“ข้าน้อยไม่ค่อยเข้าใจ ขอให้พี่เจ้าหน้าที่ช่วยคลายความสงสัยด้วย” ขณะที่ลั่วเสี่ยวปิงพูดไป ก็ดึงมือของลูกสองคนที่กอดตนเองอยู่ออกเบาๆ หยิบเศษเงินออกมาจากแขนเสื้อแล้วยื่นออกไป

ยามมือปราบคนนั้นก็ไม่ได้ปฏิเสธ รับเอาไว้โดยตรง

“สองวันก่อนโรงรับจำนำมีกำไลปรากฏขึ้นมาอันหนึ่ง กำไลนั่นเป็นของผู้หญิงคนหนึ่งในหอจุ้ยหง ท่านนายอำเภอสืบมาถึงตัวจางฮั่วเหมยของหมู่บ้านพวกเจ้า จางฮั่วเหมยนั่นให้การว่ากำไลนั่นเอามาจากบ้านท่าน นายอำเภอของเราถึงได้ให้พวกข้าน้อยมาเรียกตัวแม่นางลั่วท่านไปสอบถาม”

ทันทีที่คำพูดของยามมือปราบออกมา ลั่วเสี่ยวปิงก็นึกถึงสีหน้าท่าทางที่ตื่นตระหนกนั่นของจางฮั่วเหมยในตอนที่อยู่บ้านนางวันนั้นขึ้นมาได้

ที่แท้ กำไลนั่นก็ถูกจางฮั่วเหมยขโมยไปนี่เอง

นางคิดแค่ว่าจางฮั่วเหมยเลื่อยขาเก้าอี้ต่อหน้านางเท่านั้น ก็ไม่ได้ไปคิดอย่างอื่น

สำหรับจางฮั่วเหมยแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงจากแต่เดิมที่ไม่ชอบเปลี่ยนเป็นรังเกียจไปอย่างสิ้นเชิง

“ขอบคุณพี่เจ้าหน้าที่ที่ช่วยคลายคลายสงสัย เพียงแต่ว่าที่บ้านยังมีลูกน้อยสองคน ไม่ทราบว่าพอจะอนุโลมเล็กน้อยเพื่อให้ข้าได้วางแผนจัดการให้ดีได้หรือไม่?” หลังจากที่รู้ความเป็นมาของเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็กล่าวออกมาทันที

ครั้งนี้ ถึงอย่างไรนางก็ต้องไป ไปตอนนี้บางทีอาจจะยังได้เห็นซิ่งฮวาอยู่

เพียงแต่ว่ามองดูใบหน้าเล็กที่ซีดขาวนั่นของอานอานกับเล่อเล่อ ในใจนางรู้สึกทรมานอย่างมาก

ยามมือปราบฟังคำพูดของลั่วเสี่ยวปิงแล้ว ย่อมไม่ไปขัดขวางอยู่แล้ว

ลั่วเสี่ยวปิงพาเด็กๆและครอบครัวตระกูลจางเข้าไปในบ้าน ฝากฝังลูกทั้งสองคนให้คนตระกูลจางช่วยดูแล

ในระหว่างกระบวนการทั้งหมด เด็กๆสองคนจับแขนเสื้อของลั่วเสี่ยวปิงเอาไว้แน่นไม่ได้พูดอะไร และคนตระกูลจางก็ล้วนมีสีหน้าที่กังวลกันหมด

“มันคือ……กำไลกับปิ่นปักผมที่เอากลับมาจากตระกูลเมี่ยวใช่ไหม?”

และในเวลานี้ จางต้าฉวนที่ไม่ได้พูดอะไรเลยมาโดยตลอดจู่ๆก็เอ่ยถามขึ้นมา

เห็นลั่วเสี่ยวปิงพยักหน้า สีหน้าท่าทางของจางต้าฉวนกลายเป็นเคร่งขรึม

ลั่วเสี่ยวปิงเห็นดังนั้นก็กล่าวปลอบใจว่า “ท่านอาท่านวางใจได้ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าและซิ่งฮวา เราไม่เป็นไรหรอก”

สองคนพูดคุยกันเช่นนี้ จางเอ้อหลางก็ฟังเข้าใจในที่สุด สีหน้าท่าทางตื่นเต้นขึ้นมากะทันหัน “คือเมี่ยวเหล่าซาน ข้าจะไปหาเขา”

พูดไป จางเอ้อหลางก็พุ่งออกไปข้างนอกอย่างหุนหันพลันแล่น

จางต้าหลางออกมาขวาง ไม่เพียงขวางเอาไม่ได้ ยังถูกชนจนเซ

“เจ้าหยุดเลยนะ” จางต้าฉวนเสียงขรึม

จางเอ้อหลางหยุดลง แต่กลับไม่ได้หันกลับมา “ท่านพ่อ ใครเป็นคนก่อเรื่อง ใครรับผิดชอบ ถือสิทธิอะไรมาทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย?”

“ถ้าหากเป็นเขา แล้วเจ้าจะไปทำอะไร? ไปรนหาที่ตาย?” จางต้าฉวนสีหน้าเข้มงวดเฉียบขาด มีความน่าเกรงขามของหัวหน้าครอบครัวเล็กน้อย

ลั่วเสี่ยวปิงเห็นดังนั้นก็เอ่ยปากเช่นกัน “เรื่องพวกนี้นายอำเภอย่อมตัดสินเองได้ หากเจ้าไป เกรงว่าจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น”

คำพูดของจางต้าฉวนกับลั่วเสี่ยวปิง ทำให้จางเอ้อหลางสงบสติอารมณ์ลงมาได้ แต่กลับทำให้เขาต่อยไปที่กำแพงด้านข้างหนึ่งหมัดด้วยความโกรธเคือง

ในลานเข้าสู่ความเงียบงัน ลั่วเสี่ยวปิงพาลูกสองคนเข้าไปในบ้านอย่างเงียบๆ

“แง——”

เพิ่งจะเข้าไปในบ้าน จู่ๆเล่อเล่อที่อดทนนิ่งเงียบมาตลอดก็ปล่อยโฮออกมา

ลั่วเสี่ยวปิงก้มหน้า เห็นอานอานก็ตาแดงเช่นกัน

ชั่วขณะหนึ่ง ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกปวดใจมาก

เด็กสองคนนี้ คงจะตกใจแทบแย่แน่แล้ว

ลั่วเสี่ยวปิงนั่งยองๆลงไป โอบลูกสองคนเอาไว้ในอ้อมแขน

“พวกเจ้าเชื่อแม่ไหม?”

ถึงแม้เด็กสองคนจะลังเล แต่กลับพยักหน้าด้วยความมั่นใจ

“เช่นนั้นหากแม่บอกว่า แม่แค่ไปช่วยน้าซิ่งฮวากลับมา พวกเจ้าเชื่อหรือไม่?” ลั่วเสี่ยวปิงถามต่อไป

“ฮือๆ ข้าไม่ให้ท่านแม่ไป เล่อเล่อจะไม่แยกกับท่านแม่” เล่อเล่อกอดลั่วเสี่ยวปิงเอาไว้แน่น ร้องไห้เสียใจ

อานอานเบะปากขึ้นมา “ท่านแม่โกหก” สายตาน้อยใจและกล่าวโทษ

หากไม่ใช่ว่าสถานการณ์มันไม่ถูกต้อง ลูกสองคนที่เป็นเช่นนี้ก็สามารถทำให้หัวใจของลั่วเสี่ยวปิงละลายตามไปด้วยแล้ว

“แม่ก็ไม่อยากจะแยกจากอานอานกับเล่อเล่อเหมือนกัน แต่ว่าแม่เป็นผู้ใหญ่ มีเรื่องของตัวเองให้ต้องจัดการ” ลั่วเสี่ยวปิงใช้ความอดทนของนางเต็มสิบ “แล้วแม่ก็ไม่ได้โกหกด้วย เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับแม่ แม่แค่ต้องไปอธิบายสถานการณ์กับนายอำเภอให้ชัดเจนเท่านั้นก็พอ หลังจากที่อธิบายชัดเจน แม่ก็กลับมาแล้ว”

คำพูดพวกนี้ของลั่วเสี่ยวปิงทำให้เล่อเล่อหยุดร้องไห้ แต่ก็ยังคงสะอึกสะอื้นอยู่เช่นเดิม

และอานอาน มือเล็กที่กำหมัดไว้แน่นก็คลายออก มองดูท่านแม่ของตนเองด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าจะดูแลน้องเป็นอย่างดี”

ลั่วเสี่ยวปิงมองดูอานอานที่เป็นเช่นนี้ จู่ๆก็เบนสายตาออกกะทันหัน

นัยน์ตาล้าขึ้นมา อยากจะร้องไห้ แต่กลับไม่อยากให้ลูกสองคนเห็นนางทุลักทุเลแบบนี้

“ท่านแม่ สามวัน!”

ในเวลานี้ เสียงของอานอานดังขึ้นมาอีกครั้ง ในความอ่อนเยาว์แฝงไปด้วยความเด็ดเดี่ยว

ลั่วเสี่ยวปิงหันกลับมาด้วยความสงสัย กลับเห็นอานอานมองดูตนเองอย่างจริงจังราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อย ลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยจะดีจู่โจมขึ้นมาในใจ

“ท่านแม่ หลังจากสามวันแล้ว หากท่านยังไม่กลับมาอีก ข้าก็จะพาน้องสาวไปหาท่านในเมือง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง