แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 197

ลั่วเสี่ยวปิงตกใจกับความคิดที่เกิดขึ้นในใจอย่างกะทันหัน จากนั้นก็ส่ายหัวและทิ้งความคิดแปลกประหลาดนี้ทิ้ง

แต่การกระทําของลั่วเสี่ยวปิง อยู่ในสายตาของบัณฑิตกลับเป็นอีกความหมายหนึ่ง "เสี่ยวปิง ข้ารู้อยู่แล้วว่าอย่างไรเจ้าก็ต้องมีข้าอยู่ในใจแน่"

ว่าแล้วบัณฑิตก็ตื่นเต้นจนอยากก้าวไปจับมือของลั่วเสี่ยวปิง

ในขณะนี้เขารู้สึกว่า ลั่วเสี่ยวปิงส่ายหัวคือการหักล้างคำพูดของอานอาน

ไม่ได้ไม่ต้อนรับ งั้นก็ต้องแปลว่าต้อนรับสินะ

ในเมื่อต้อนรับ เช่นนั้นก็ต้องมีเขาอยู่ในใจสิ

ก็จริง ตัวเองหล่อเหลาเช่นนี้ และคนที่นางต้องแต่งงานด้วยนั้นได้ยินมาว่าเป็นคนเสียโฉมคนหนึ่ง แน่นอนว่าต้องเทียบกับเขาไม่ได้อยู่แล้ว

เห็นแก่ที่ตอนนี้ลั่วเสี่ยวปิงร่ำรวย แถมยังมีบ้านหลังใหญ่เช่นนี้ เขาจะไม่ไปคิดถือสาเรื่องที่นางท้องก่อนแต่งละกัน เป็นคนมีความรู้ เขาก็ใจกว้างมากนัก

ลั่วเสี่ยวปิงไม่รู้ว่าตอนนี้บัณฑิตได้คิดอะไรไปมากขนาดนี้ นางเพิ่งกลับคืนสติจากความคิดไม่อาจอธิบายได้ ก็ได้ยินบัณฑิตตรงหน้านี้พูดประโยคนี้ขึ้นอีก ยังไม่ทันได้ทำการตอบสนอง ก็เห็นเขากำลังจะมาจับมือตัวเอง ดวงตาก็เย็นลงทันที

แต่ไม่รอให้ลั่วเสี่ยวปิงได้ทำการตอบสนองใดๆ ไม้กวาดขนาดใหญ่ที่ทำมาจากไม้ไผ่ก็กวาดเข้าหามือของบัณฑิต และในชั่วพริบตา ก็มีรอยแดงหลายรอยปรากฏขึ้นบนมืออันขาวของบัณฑิต

"หลีกไป หลีกไป ขวางทางข้ากำจัดขยะแล้ว"

หนานซิงกล่าวแล้ว ก็โบกไม้กวาดในมือขึ้นอีกครั้ง และไม่ว่าบัณฑิตจะหลบอย่างไร ก็สามารถฟัดโดนมือของบัณฑิตได้อย่างแม่นยำ

ดังนั้นเพียงแต่ผ่านไปครู่หนึ่ง ในมือของบัณฑิตนั้นก็มีรอยเลือดเพิ่มขึ้นมากมาย ดูแล้วช่างน่าเวทนาเกินกว่าที่จะทนดูได้

บัณฑิตโกรธจนย่ำเท้า และวิ่งไปทางด้านข้างไม่กี่ก้าวอย่างน่าอาบอาย แล้วจึงค่อยๆถอนหายใจและมองดูหนานซิงอย่างโกรธแค้นและหวาดกลัว "เจ้า……เจ้าเป็นใคร?เหตุใดถึงได้ไร้มารยาททำร้ายคนไปมั่วเช่นนี้? "

ขณะที่ถามบัณฑิตก็มีข้อสงสัยเล็กน้อย

ไหนบอกว่าผู้ชายที่เสี่ยวปิงจะแต่งงานด้วยนั้นเสียโฉมไปไม่ใช่เหรอ? เหตุใดผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้ถึงได้……แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่ดูเหมือนว่าจะดูดีกว่าเขาเล็กน้อย

ทันทีที่ความคิดนี้ออกมา ในดวงตาของบัณฑิตนั้นก็เต็มไปด้วยความหึงหวง

"ออ ข้าเป็นผู้ดูแลบ้านหลังนี้ ไม่มีไรทำก็แค่กวาดๆขยะเท่านั้น" หลังจากที่หนานซิงพูดประโยคที่มีการสื่อความหมายออกมาเช่นนี้ ก็วางไม้กวาดในมือลงอย่างเท่ และทำให้ฝุ่นบนพื้นนั้นลอยขึ้นมา

บังเอิญยิ่งนัก ฝุ่นละอองก็ลอยไปทางบัณฑิตกันหมด

เชอะ! ไม่รู้จักส่องกระจกดูตัวเองหน่อยหรือไง ผอมแห้งและทั้งอ่อนแอ ยังกล้ามาแย่งนายหญิงกับนายท่านอีก อยากตายยิ่งนักใช่ไหม

ในใจของหนานซิงหยิ่งยโสและดูถูก

เมื่อได้ยินว่าหนานซิงเป็นเพียงผู้ดูแลบ้าน บัณฑิตก็โล่งใจทันที แต่หลังจากที่รู้ความหมายในคำพูดของหนานซิงแล้ว ในดวงตานั้นเต็มไปด้วยความโกรธ "เจ้า……"

เห็นหนานซิงยกไม้กวาดในมือขึ้น บัณฑิตก็กลัวจนถอยหลังไปอีกหลายก้าว จากนั้นก็หันมองลั่วเสี่ยวปิงด้วยสายตาที่กล่าวหา "เสี่ยวปิง ผู้ดูแลบ้านของเจ้าช่างหยิ่งเกินไปแล้ว เจ้ารีบไล่มันออกไปเดี๋ยวนี้เลย"

มันเป็นน้ำเสียงที่เหมือนสั่งคำสั่งชัดๆเลย ทำให้หนานซิงโกรธจนอยากโยนไม้กวาดในมือของเขาไปกวาดปากเขาเลย

ไม่ดูว่าฐานะตัวเองคืออะไร กล้าพูดกับนายหญิงเช่นนี้ หาที่ตายชัดๆเลย

สายตาของหนานซิงทําให้บัณฑิตรู้สึกขนพองสยองเกล้า อดที่จะถอยหลังไปอีกสองสามก้าวไม่ได้

"หนานซิง" ลั่วเสี่ยวปิงออกเสียงห้ามหนานซิงที่กำลังจะลอง "ขยะที่นี่ก็กวาดเสร็จแล้ว เจ้าเข้าไปตวรจดูในลานสิ"

นายหญิงออกคำสั่ง หนานซิงก็ต้องทำตาม

แต่ขณะที่หันหลังไป หนานซิงก็จิกตาใส่บัณฑิตแรง

หลังจากที่บัณฑิตจากไป ลั่วเสี่ยวปิงก็หันมองคนที่อยู่ประตูอีกครั้ง

“เสี่ยวปิง เจ้า……” บัณฑิตเห็นว่าหนานซิงเข้าไปแล้ว ก็รู้สึกโล่งใจ และรีบวิ่งไปข้างหน้าเพื่อพูด

"เจ้ามีเรื่องเหรอ?" ลั่วเสี่ยวปิงขัดจังหวะด้วยเสียงที่เย็นชา และไม่มีอารมณ์ใดๆในน้ำเสียง

ณ เวลานี้ นางก็เดาตัวตนของผู้ที่มาได้แล้ว

เหยียนขวน!

ผู้ชายที่เจ้าของร่างเดิมคิดถึงมาโดยตลอด และเป็นคนที่ฆ่าเจ้าของร่างเดิมในทางอ้อมด้วย

เพราะตั้งแต่แรกนางก็ไม่ได้มีความประทับใจที่ดีต่อบุคคลนี้ บวกกับบุคคลนี้ก็ไม่เคยปรากฏตัวสักที ดังนั้นนางจึงลืมคนคนนี้ไปโดยไม่รู้ตัว จึงดูไม่ออกในเวลาแรก

ตอนนี้ดูเหมือนว่าสายตาของเจ้าของร่างเดิมไม่ดีมากนัก

ผู้ชายแบบนี้ ทำไมถึงสมควรทำให้นางต้องเสียอกเสียใจถึงเยี่ยงนั้น?ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องหาคนที่หน้าตาที่หน่อยสิ?

เหยียนขวนรู้สึกถึงความเหินห่างของลั่วเสี่ยวปิง ในใจมีความไม่พอใจเล็กน้อย แต่เมื่อนึกถึงจุดประสงค์ของตัวเองที่มาตรงนี้ ก็ได้ระงับความไม่พอใจนั้นเอาไว้ เผยรอยยิ้มที่ขมขื่นปนไปด้วยความอ่อนโยน ห่วงใยและความเศร้าเล็กน้อย

"เสี่ยวปิง ข้าได้ยินมาว่าเจ้าจะแต่งงานในวันที่หกของเดือหน้า?ดังนั้นดังนั้นดูว่าเจ้าอยู่ดีไหม" เหยียนขวนกล่าว ดวงตาที่มองดูลั่วเสี่ยวปิงนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง

เหยียนขวนที่เป็นเช่นนี้ ทําให้ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกขยะแขยงมากนัก ดังนั้นจึงกล่าวอย่างเย็นชาว่า "ในเมื่อรู้ว่าวันที่หกของเดือหน้าข้าถึงจะแต่งงาน งั้นเจ้าก็มาดื่มเหล้ายินดีเร็วเกินไปไหม ส่วนข้าอยู่ดีหรือไม่ ก็คงไม่เกี่ยวไรกับเจ้าด้วยแหละ?"

ว่าแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็จะหันหลัง

เมื่อเหยียนขวนเห็นเช่นนี้ ก็กังวลทันที "เสี่ยวปิง เจ้ารอก่อน"

ลั่วเสี่ยวปิงหยุดเดิน หันมองเหยียนขวน อยากดูว่าตกลงเหยียนขวนยังต้องการจะทำอะไรกันแน่

"เสี่ยวปิง ข้ารู้ว่าในใจของเจ้ายังโกรธข้าอยู่ แต่ตอนนั้นข้าก็ถูกบังคับเช่นกัน" เหยียนขวนทำหน้าขมขื่น แต่ดวงตากลับยังคงเต็มไปด้วยความรักใคร่ "เสี่ยวปิง ข้าคิดออกแล้ว ข้า ข้าเต็มใจแต่งงานกับเจ้า……"

"เพียะ—"

ไม้กวาดขนาดใหญ่ บินตรงออกมาจากลานบ้าน และทุบใส่บนใบหน้าของเหยียนขวนที่ไร้ยางอายอย่างแม่นยําสูง

เหยียนขวนถูกตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และบอกกับตอนไม้กวาดทุบมานั้นมีกําลังภายในด้วย ดังนั้นคนทั้งคนของเหยียนขวนก็ล้มลงกับพื้นและหมดสติโดยตรงเลย

ท่าทางของเหยียนขวนดูน่าเวทนาเล็กน้อย ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยแผล แถมยังมีรอยแดงและบวม และในจมูกนั้นยังมีเลือดไหลออกมาจากอย่างช้าๆ

ส่วนการแสดงออกของลั่วเสี่ยวปิงนั้นดูแปลกยิ่งนัก ผ่านไปตั้งนานก็พูดอะไรไม่ออกสักคำ

ตอนหนานซิงเดินออกมานั้นเห็นลั่วเสี่ยวปิงยืนอยู่ตรงนั้นไม่พูดอะไรเป็นเวลานั้น ก็รู้สึกร้อยตัวเล็กน้อยในทันใดนั้น

“นาย……นายหญิง มือข้าน้อยลื่น……”

เขารู้นะว่าไอ้หนุ่มหน้าขาวอัปลักษณ์คือใคร มันเป็นเพื่อนเล่นตั้งแต่เด็กของนายหญิง หากนายหญิงยังมีความรู้สึกที่ดีต่อเขาแล้วมาโทษตัวเอง……

ไม่ ต่อให้นายหญิงจะโทษเขา เขาก็ไม่เสียใจที่โยนไม้กวาดออกไป

ใครให้ไอ้หนุ่มหน้าขาวอัปลักษณ์นั่นอยากแย่งหน้าหญิงของนายท่านตัวเองต่อหน้าเขา?เขาทนไม่ไหวแล้วจริงๆ

เมื่อคิดเช่นนี้ หนานซิงก็แสดงท่าทางเหมือนชายฉกรรจ์พร้อมตายเตรียมรอการลงโทษจากลั่วเสี่ยวปิง

แต่ในเวลานี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็กลับถอนหายใจ "……ลื่นได้ดี"

หนานซิง:“……”เอ๊ะ? เขาได้ยินผิดหรือเปล่า?

จู่ๆก็มีความตื่นตะลึงเพราะได้รับความเมตตาอย่างคาดคิดไม่ถึงนี้ มันคือไรกัน

“หนานซิง!”ลั่วเสี่ยวปิงหันมองหนานซิงด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย

หนานซิงรีบยืนในท่าทางตรงทันที ด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้น

“โยนให้ไกลหน่อย……”ลั่วเสี่ยวปิงพูดแล้ว หยุดชะงักก่อนแล้วตึงพูดเสริมว่า "ข้ากลัวว่าข้าเห็นแล้วจะอ้วก!"

พูดจบ ลั่วเสี่ยวปิงก็หันหลังเดินเข้าไปด้วยใบหน้าที่นิ่ง

ว่าแล้ว นางไม่ควรหยุด ไม่ควรอยากฟังว่าเหยียนขวนต้องการจะพูดอะไร

ขยะแขยง ขยะแขยงมากจริงๆเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง