แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 201

คนตระกูลจางไม่กี่คนเห็นสีหน้าท่าทางของจางเอ้อหลางผิดปกติ จางต้าฉวนสามีภรรยาคิดอะไรได้ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นก็หันกลับไปมองด้วยความระมัดระวัง

เป็นดังคาด เห็นจางซิ่งฮวาและลั่วเสี่ยวปิงที่เวลานานี้กำลังยืนตรงนั้นพอดี ตรงหน้าประตูด้านหลังพวกเขา ตอนนี้สีหน้าของจางซิ่งฮวายิ่งซีดขาวมากยิ่งขึ้น

“ซิ่งฮวา......เจ้าได้ยินหมดแล้วหรือ.......” จางเฉินซื่อกังวลเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยความร้อนใจ

ลั่วเสี่ยวปิงเพิ่งจะเกลี้ยกล่อมให้ดีได้ ตระกูลจงมาเพื่อเรื่องที่จะถอนหมั้นเรื่องนี้ นี่จะทำอย่างไรดี?

“ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านพี่ ข้าไม่เป็นไร......” จางซิ่งฮวาสบสายตาเข้ากลับแววตาความเป็นห่วงเป็นใยของคนในครอบครัว ส่ายศีรษะด้วยความอ่อนแรงเล็กน้อย

สาเหตุที่อ่อนแอ ก็เพราะ สองสามวันนี้จางซิ่งฮวายังป่วยอยู่ และไม่ได้กินอะไรจริงๆ

และตอนนี้ในที่สุดจางซิ่งฮวาก็ได้สังเกตเห็นว่า เวลาสั้นๆแค่ไม่กี่วันพ่อแม่ของตัวเองดูซูบลงไปมาก และแม้แต่พี่รองที่โดยปกติค่อนข้างไม่ใส่ใจอะไรเวลานี้ก็มองดูตัวเองด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความห่วงใย ทันใดนั้น จิตใจของจางซิ่งฮวาก็เต็มไปด้วยการโทษตัวเอง

พี่เสี่ยวปิงพูดถูก หากว่าทั้งใจของตัวเองตกอยู่ในลมปากของคนอื่นจนมองไม่เห็นความห่วยใยของคนในครอบครัวที่มีต่อตัวเอง นั่นถึงจะเป็นการทำผิดต่อพวกเขาจริงๆ

ไตร่ตรองถึงจุดนี้ จางซิ่งฮวาก็ฉีกยิ้มขึ้นมา ตั้งใจจะปลอบโยนคนในครอบครัว

“ซิ่งฮวา ไม่เป็นไร เจ้าทึ่มจงจิ่งหลินนั่นมีตาหามีแววไม่ หลังจากนี้พี่จะหาที่ดีกว่านี้ให้เจ้า” ดูท่าทางน้องสาวที่ฝืนยิ้มอย่างร่างเริง ในใจของจางเอ้อหลางมีเพียงความรู้สึกอัดอั้น แต่ก็ไม่รู้ว่าจะปลอบใจจางซิ่งฮวาอย่างไร จึงทำได้เพียงพูดรับประกันไปเช่นนี้ ในใจก็แอบสาบานว่าจะต้องเช็ดตาให้สว่างหาคนที่ดีให้น้องสาวให้ได้

เมื่อจางซิ่งฮวาเห็นพี่รองของตัวเองพูดเช่นนี้ ก็ยิ้มแล้ว “ค่ะ ฟังพี่รองทั้งหมด”

เมื่อคำพูดสิ้นสุด ดวงตาของจางซิ่งฮวาก็หลบลงเล็กน้อย ปิดซ่อนความขื่นขมในดวงตา

บอกว่าไม่สนใจไม่เสียใจคือเรื่องโกหกเป็นแน่

ก็ไม่กี่วันก่อน ยังเป็นเพราะว่านางต้องการจะพบจงจิ่งหลิน จึงได้ตั้งใจปักปิ่นปักผมที่ท่านพ่อมอบให้ตัวเองด้วยความดีอกดีใจ เพียงเพื่อแสดงให้เขาเห็นด้านที่งดงามที่สุดของตัวเองต่อหน้าเขา

เพียงแต่ ยังไม่ทันถึงเวลาที่นางจะได้พบหน้ากับจงจิ่งหลิน ก็ถูกเจ้าหน้าที่พาตัวไปแล้ว อุบัติเหตุความโชคร้ายที่มาอย่างฉับพลันนี้ทำให้นางตกไปอยู่ในจุดที่ต้องถูกตระกูลจงถอนหมั้น

ทว่า พ่อแม่และคนในครอบครัวคิดวิตกกังวลเพราะนางมานานมากแล้ว นางไม่สามารถทำให้พวกเขากังวลใจได้อีก

อีกทั้ง......

จางซิ่งฮวามองดูลั่วเสี่ยวปิงที่ยืนอยู่ข้างๆตัวเอง นัยน์ตาแฝงด้วยความมุ่งมั่น: “นางไม่สามารถ ทำให้พี่เสี่ยวปิงผิดหวังในตัวนางได้อีก

ลั่วเสี่ยวปิงยืนอยู่ใกล้กับจางซิ่งฮวาที่สุด พอที่จะรับรู้อารมณ์ความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปของนางได้มากที่สุด จึงเอื้อมมือไปตบไหล่ของจางซิ่งฮวาเพื่อเป็นการปลอบโยน

และในพริบตานี้ ทำให้จางซิ่งฮวารู้สึกว่าตัวเองเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง แววตาที่มองดูลั่วเสี่ยวปิงก็เปล่งประกายระยิบระยับยิ่งขึ้น

ส่งสายตาให้กำลังใจจางซิ่งฮวาทีหนึ่งแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงจึงได้กล่าวต่อจางต้าฉวนสามีภรรยาว่า “ท่านอา อาสะใภ้ ซิ่งฮวาเป็นผู้หญิงที่ดี อนาคตจะต้องหาคนดีได้แน่นอน”

“หากว่าหาไม่ได้ ข้าจะดูแลน้องสาวเอง” จางเอ้อหลางคิดก็ไม่ได้คิด ก็กล่าวรับรองต่อจากคำพูดของลั่วเสี่ยวปิงทันที

ลั่วเสี่ยวปิง: “......” คนปากเสียมาจากที่ไหน?

“ถุยถุยถุย--” จางเฉินซื่อถ่มน้ำลายลงกับพื้นไปสองสามครั้งแล้วจ้องมองจางเอ้อหลางด้วยโมโห “พูดไม่เป็นก็หุบปากซะ”

จางเอ้อหลาง: “.......” เขาพูดอะไรผิดหรือ?

ส่งสายตาขอความช่วยไปทางท่านพ่อของตัวเอง แต่กลับโดนท่านพ่อของตัวเองกลอกตาขาวใส่อีก

จางเอ้อหลาง: “.......” งั้นเขาปิดปากคงจะดีกว่าสินะ

เมื่อเห็นจางเอ้อหลางหุบปาก จางเฉินซื่อจึงได้รีบกล่าวต่อจางซิ่งฮวาว่า “ซิ่งฮวา แม่เพียงต้องการให้เจ้าอยู่ดีๆ อย่าคิดไม่ตกอีกเลย อย่างอื่นล้วนไม่สำคัญ”

ขณะที่พูด จางเฉินซื่อสะอึกสะอื้นแล้ว

จางซิ่งฮวาเห็นดังนั้น รีบเข้าไปกอดจางเฉินซื่อไว้ สองแม่ลูกกอดกันแล้วร้องไห้ขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด

จางต้าฉวนและจางเอ้อหลางชายชาตรีสองคนเบ้าตาแดง เบือนหน้ามองไปทางอื่น

ลั่วเสี่ยวปิงเห็นสถานการณ์เช่นนี้ นัยน์ตากลับแฝงด้วยความอิจฉาเล็กน้อย

ทั้งสองชีวิต นางล้วนไม่เคยได้สัมผัสถึงความอบอุ่นของแม่มาก่อน อาสะใภ้เป็นแม่ที่ดีจริงๆ

หลังจากรอให้สองแม่ลูกร้องไห้จนพอแล้ว คนไม่กี่คนก็นั่งลงเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาเรื่องงานแต่งของจางซิ่งฮวา

แรกเริ่มเดิมทีคือจะไม่ให้จางซิ่งฮวาอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่จางซิ่งฮวาดึงดันคนอื่นจึงไม่ได้ยืนกรานอะไร

เกี่ยวกับเรื่องงานแต่ง นั่นคือจะต้องถอนหมั้นอย่างแน่นอน

เพียงแต่ต้องการจะถอนหมั้นอย่างไรนั้นกลับทำให้คนตระกูลจางลำบากใจเล็กน้อยแล้ว

เพราะหากไม่มีเหตุผลในการถอนหมั้นใดๆ แม้ว่าจะเป็นฝ่ายหญิงริเริ่มถอนหมั้นกับฝ่ายชายเอง แต่นั่นก็ไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายหญิง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่จางซิ่งฮวาได้รับบาดเจ็บจากคำนินทาเช่นนี้ กลัวว่าไปถอนหมั้นในตอนนี้ก็จะถูกคิดว่าเป็นเพราะละอายใจ

ทว่า หากถูกตระกูลจงเป็นฝ่ายถอนหมั้น เช่นนั้นชื่อเสียงของจางซิ่งฮวาก็จะถูกทำให้เปรอะเปื้อนเสื่อมเสียอีกครั้ง

แม้ว่าบรรยากาศครอบครัวของคนในตระกูลจางจะไม่เลว เพื่อลูกชายลูกสาวแล้วก็ไม่ได้ไปใส่ใจอะไรมากมาย แต่อย่างไรเสียคนก็ต้องดำเนินชีวิต และไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสายตาไม่พอใจของคนอื่นได้ตลอดไป

ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงนิ่งเงียบลงในทันที บนใบหน้าของคนตระกูลจางทุกคนล้วนเต็มไปด้วยความลำบากใจ

“จงจิ่งหลินนั่นเป็นคนอย่างไร?” ลั่วเสี่ยวปิงมองดูสีหน้าท่าทางที่ลำบากใจของแต่ละคนในตระกูลจาง จึงเปล่งเสียงถาม

“คนนับว่าไม่เลว ถ่อมตัวมีมารยาท เรียนหนังสือก็ไม่เลว มีความหวังว่าจะสอบเป็นขุนนางได้” จางต้าฉวนให้ความเห็นอย่างตรงประเด็น

เพียงแต่มองดูแววตานั่นของจางต้าฉวน เห็นได้ชัดว่ารู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่จะต้องเสียจงจิ่งหลินลูกเขยผู้นี้ไป

แต่ทว่าลั่วเสี่ยวปิงที่ได้ยินดังนั้นกลับไม่เห็นด้วยเล็กน้อย จงฮั่นคนนั้นดูแล้วก็จอมปลอมมาก ยังชอบสอพลอคนสูงศักดิ์เหยียบย่ำคนต้อยต่ำอีก ล้วนพูดกันว่า ‘พ่อแม่เป็นอย่างไรก็จะให้กำเนิดลูกแบบนั้น’ มีจงฮั่นอยู่เบื้องหน้า อันที่จริงนางก็ไม่ค่อยจะเชื่อในลักษณะบุคลิกของจงจิ่งหลินมากนัก

โดยเฉพาะจงฮั่นมาเยือนถึงบ้าน เป็นไปไม่ได้ที่จงจิ่งหลินจะไม่รู้ หากว่ามีใจ ก็คงไม่ถึงขั้นไม่ทำอะไรเลย

นอกซะจาก สำหรับเรื่องการถอนหมั้นเรื่องนี้แล้ว จงจิ่งหลินก็ยินยอมพร้อมใจเช่นกัน

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ลั่วเสี่ยวปิงจึงเอ่ยปากขึ้นว่า “ข้ารู้สึกว่า......”

เพิ่งจะพูดออกมาได้สามคำ ดวงตาทั้งสี่ดวงก็มองมาทางตัวเองพร้อมกัน ทำให้ลั่วเสี่ยวปิงอดไม่ได้ที่จะชะงักเล็กน้อย เพราะสูดอากาศเข้าไป แทบจะสะอึกออกมา

หลังจากที่สูดหายใจเข้าลึกๆและผ่อนลมออกมาแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงจึงกล่าวว่า “คิดจะลดการได้รับบาดเจ็บลงให้น้อยที่สุด ก็จำเป็นต้องหาจุดผิดของจงจิ่งหลินให้เจอถึงจะได้ ไม่มีคนที่สมบูรณ์แบบ เพียงแค่จับตามองดูเขา จะต้องหาช่องโหว่ออกมาได้แน่”

แม้ว่าจะหาไม่เจอ ก็สามารถสร้างออกมาได้ ลั่วเสี่ยวปิงแอบเสริมในใจ

อย่างไรซะเพื่อปกป้องพวกของตัวเอง ลงมือออกอุบายนิดหน่อยต่อกรกับฝ่ายตรงข้ามก็ทำได้

ทันทีที่คำพูดของลั่วเสี่ยวปิงออกมา ตระกูลจางก็ตกอยู่ในความนิ่งเงียบระยะหนึ่ง

เวลาผ่านไปนานจางเอ้อหลางได้ตบมือขึ้น “ข้าคิดว่าเป็นไปได้ หน้าที่จับตาดูคนมอบให้ข้า”

พูดพลาง จางเอ้อหลางก็ยืนขึ้น เตรียมวิ่งออกไป

“หยุด!” จางต้าฉวนเรียกจางเอ้อหลางไว้ “เสี่ยวปิงไม่ได้กลับไปสองวันแล้ว เจ้าไม่ต้องส่งคนกลับไปก่อนหรือ?”

ความหมายของจางต้าฉวน คือไม่ได้คัดค้านข้อเสนอของเสี่ยวปิง

ความจริง คนตระกูลจางล้วนไม่ได้คัดค้านข้อเสนอของลั่วเสี่ยวปิง ในความเป็นจริงนอกจากนี้แล้ว พวกเขาก็คิดวิธีอื่นไม่ออกแล้ว

หลังจากที่ปฏิเสธจางเอ้อหลางในการส่งตัวเองกลับไปอย่างอ้อมค้อมแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็เดินออกจากบ้านเช่าในเมืองของบ้านตระกูลจางไปเองเพียงลำพัง

เพียงแต่เพิ่งจะมาถึงปากซอยถงหลิง เห็นคนที่รออยู่ตรงนั้น ลั่วเสี่ยวปิงก็ตกตะลึงเล็กน้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง