แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 202

“เจ้าอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” ลั่วเสี่ยวปิงตกใจ

ในเวลานี้ที่สวมชุดสีแดงเฉิ่มทั้งตัวอยู่ที่ปากซอยถงหลิง พิงอยู่ตรงนั้นอย่างเกียจคร้านแล้วมองดูผู้คนในซอย ก็คือโอหยางฉี่หยู่

เห็นลั่วเสี่ยวปิงออกมา โอหยางฉี่หยู่รีบทิ้งความเกียจคร้านรอบตัวไปทันที ยืนตัวตรง ให้ความรู้สึกเหมือนคนรูปงามที่มีท่าทีอิสรเสรีทันที

“กำลังคิดว่าวันนี้เจ้าก็น่าจะกลับไปแล้ว บังเอิญข้าเตรียมตัวไปดูผักเหล่านั้นของเจ้าพอดี ก็คิดว่าจะไปพร้อมกัน” โอหยางฉี่หยู่กล่าว

ได้ยินดังนั้น ลั่วเสี่ยวปิงคิดแล้วคิดอีก มีผักบางอย่างที่ผ่านไปอีกไม่กี่วันก็สามารถเก็บได้แล้วจริงๆ จึงพยักหน้า ตามโอหยางฉี่หยู่ขึ้นรถม้าที่อยู่ไม่ไกลไปพร้อมกัน

ภายนอกรถม้ามองดูแล้วเรียบๆไม่มีความพิเศษ แต่หลังจากที่ขึ้นรถม้า ไม่รู้ว่าโอหยางฉี่หยู่สัมผัสกลไกตรงไหน ชั่วพริบตาก็มีโต๊ะเล็กๆขึ้นมาจากด้านล่างของรถม้า

ต่อจากนั้นโอหยางฉี่หยู่ก็หยิบขนมจานเล็กๆและน้ำชากาหนึ่งที่มีไอร้อนระอุผุดอยู่ออกมาเหมือนเล่นมายากลเช่นนั้น ทำให้ลั่วเสี่ยวปิงมีความรู้สึกว่าความจริงแล้วโอหยางฉี่หยู่คิดจะไปท่องเที่ยวที่ชานเมืองเช่นนั้น

“คิดว่าคนตระกูลจางงานยุ่ง เจ้าคงไม่ได้กินของอะไรให้ดีๆ จึงให้คนจัดเตรียมมาด้วยเสียเลย” โอหยางฉี่หยู่ถูกลั่วเสี่ยวปิงมองจนละอายใจเล็กน้อยลูบจมูกแล้วชี้แจง

ได้ยินดังนั้นลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้คิดมาก เพียงแค่พยักหน้า

ก็จริง เวลานี้ตระกูลจางมีบรรยากาศชนิดนั้น นางก็ไม่มีปัญญาจะกินอะไรด้วยจิตใจที่สงบสุขได้ ตอนนี้ก็หิวแล้วจริงๆ

และไม่ได้เกรงใจโอหยางฉี่หยู่ ลั่วเสี่ยวปิงหยิบขนมขึ้นมากินโดยตรง

ลั่วเสี่ยวปิงที่ตั้งใจกินขนมอยู่ก็ไม่ได้เห็นสีหน้าท่าทางผ่อนคลายที่แฉลบผ่านไปของโอหยางฉี่หยู่ รวมทั้งความอ่อนโยนในดวงตาในพริบตานั้น

รอจนขณะที่ลั่วเสี่ยวปิงกินขนมหมดไปสองชิ้นดื่มชาไปคำหนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นมองดูโอหยางฉี่หยู่ ก็เห็นท่าทางอยากจะพูดแต่ก็หยุดไว้ของโอหยางฉี่หยู่

“ทำไมหรือ?” ลั่วเสี่ยวปิงสีหน้างงงัน “ร้านอาหารเกิดปัญหาหรือ?”

นอกจากร้านอาหารแล้ว นางก็นึกไม่ออกว่าโอหยางฉี่หยู่ยังจะมีปัญหาอะไรให้ลำบากใจได้อีก

โอหยางฉี่หยู่ได้ยินดังนั้นก็ส่ายหน้า “เจ้าเป็นห่วงเด็กสาวนั่นของตระกูลจางมาก?”

ลั่วเสี่ยวปิงพยักหน้า “สำหรับข้าแล้ว พวกเขาก็เหมือนคนในครอบครัว”

“เช่นนั้นหากข้าบอกเจ้าว่า ข่าวลือครั้งนี้มีคนจงใจทำ เพื่อต่อกรกับตระกูลจาง เจ้าจะทำอย่างไร?” โอหยางฉี่หยู่ถามหยั่งเชิง

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินดังนั้น สีหน้าท่าทางเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาอย่างฉับพลัน มองไปทางโอหยางฉี่หยู่ “เจ้ารู้อะไรบางอย่างใช่หรือไม่?”

ไม่เห็นความตกใจบนใบหน้าของลั่วเสี่ยวปิง มีเพียงความจริงจังเท่านั้น

เพราะนางก็เคยคิดว่าจะมีคนจงใจทำหรือไม่ ไม่ว่าอย่างไรซิ่งฮวาก็เป็นเพียงหญิงสาวบ้านนอกผู้หนึ่ง เกิดเรื่องขึ้นแม้ว่าจะถูกแพร่ออกไป ก็ไม่ถึงขั้นแพร่กระจายไปถึงจุดที่ร้ายแรงอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้

เมืองซีเหอจะบอกว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเล็กแน่นอน

แต่หากไปถามว่าผู้คนว่ารู้เรื่องของจางซิ่งฮวาหรือไม่ นั่นจะต้องมีแปดในสิบคนที่จะพยักหน้าเป็นแน่

จากจุดนี้ก็สามารถมองออกได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ

โอหยางฉี่หยู่พยักหน้า “ข่าวลือมีความข้องเกี่ยวข้องกับคนผู้นั้นที่หมู่บ้านเมี่ยวเจีย ก็คือสะใภ้ที่โดนปลดไปก่อนหน้าคนนั้นของตระกูลจาง”

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินดังนั้น คิ้วกลับขมวดแน่นขึ้นเรื่อยๆ

เมี่ยวชุ่ยหลาน!

มีความข้องเกี่ยวกับนางก็ไม่ได้แปลกมาก อย่างไรเสียเมี่ยวชุ่ยหลานผู้นี้ก็เป็นคนใจแคบเป็นที่สุด มีจิตใจจองเวรอย่างแรงกล้า ก่อนหน้านี้ตัวเองก็แทบไม่ได้ไปล่วงเกินอะไรนาง แต่นางกลับขุ่นข้องหมองใจกับนางครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วนับประสาอะไรกับตระกูลจางที่ปลดนางล่ะ?

แต่ อาศัยเพียงเมี่ยวชุ่ยหลานคนเดียวคิดจะทำเรื่องให้วุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ก็เหมือนกับว่าจะเป็นไปไม่ค่อยได้

โอหยางฉี่หยู่ได้เฝ้าดูสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนไปของลั่วเสี่ยวปิงอยู่ตลอด ขณะที่เห็นดวงตาของลั่วเสี่ยวปิงมีความสงสัย มุมปากก็ยกเป็นรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อย

เป็นดังคาด นางไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง ฉลาดมากเป็นที่สุด

“เจ้าคิดไม่ผิด เรื่องนี้มีคนคอยช่วยกระพือข่าวจากเบื้องหลังจริงๆ” โอหยางฉี่หยู่เอ่ยปาก

ลั่วเสี่ยวปิงมองดูโอหยางฉี่หยู่ “เป็นใคร?”

“คนตระกูลฮัว” โอหยางฉี่หยู่ค่อยๆพ่นสามคำนี้ออกมา

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินดังนั้นขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้นแล้ว

ครั้งนี้ นางคิดไม่ถึงว่าคำตอบจะเป็นเช่นนี้

คนตระกูลฮัว? จะเป็นคนตระกูลฮัวได้อย่างไร?

“พูดแล้วเรื่องนี้ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้า.......” บนใบหน้าของโอหยางฉี่หยู่มีความรู้สึกผิดเล็กน้อย เพียงแต่พูดถึงตรงนี้ โอหยางฉี่หยู่ก็ไม่ได้พูดต่ออีก “หากว่าเดาไม่ผิด ไม่กี่วันนี้คนตระกูลฮัวจะต้องไปหาเจ้าแน่ ถึงเวลาเจ้าก็ต้องระวังให้มากหน่อย”

ทันทีที่ได้ยินว่าตระกูลฮัวจะมาหาตัวเอง ลั่วเสี่ยวปิงก็ตกอยู่ในการไตร่ตรอง

มีคนของบ้านเก่าเผยความลับเรื่องเห็ด หอว่านเซียงก็น่าจะรู้จักนางนานแล้ว

ช่วงนี้ที่นางนี้เงียบมาก หอว่านเซียงก็ไม่ได้มาหานาง

แต่ หากว่าคนเบื้องหลังของหอว่านเซียงกำลังรอโอกาสที่จะจู่โจมล่ะ?

หากว่าที่โอหยางฉี่หยู่พูดเป็นความจริง ช่วงนี้หอว่านเซียงจะมาหาตัวเอง อีกทั้งยังคอยกระพือข่าวเรื่องของจางซิ่งฮวาอีก เช่นนั้นก็อธิบายได้ว่าหอว่านเซียงคิดจะใช้เรื่องของซิ่งฮวามาขู่ตัวเอง

และเรื่องทั้งหมดที่ทำ.......ลั่วเสี่ยวปิงคิดถึงโรงเรือนกระจกของตัวเอง

ทว่าสิ่งเหล่านี้ยังคงเป็นการคาดเดา ดูความหมายของโอหยางฉี่หยู่ คาดว่าก็จะไม่พูดอะไรอีก ลั่วเสี่ยวปิงก็ฉลาดที่จะไม่ไปถามมากมายเช่นกัน

ส่วนที่ตระกูลฮัวจะมาหาตัวเอง ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้วิตกกังวลมากนัก ไม่ว่าอย่างไรก็ดูรับมือไปตามสถานการณ์ วิตกกังวลก็ไม่ได้ช่วยลดปัญหา มีแต่จะเพิ่งความกลัดกลุ้มใจให้ตัวเองเท่านั้น

ตลอดทางที่รถม้าดำเนิน ไม่ช้าก็จะถึงหมู่บ้านต้าซิงแล้ว

แต่ยังไม่ถึงหน้าหมู่บ้าน ลั่วเสี่ยวปิงก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งล้อมกันอยู่ตรงนั้นจากไกลๆ

เห็นสถานการณ์นี้ ในใจของลั่วเสี่ยวปิงอดเป็นกังวลขึ้นมาไม่ได้

เกิดเรื่องขึ้นแล้วงั้นหรือ?

โอหยางฉี่หยู่เห็นสีหน้าของลั่วเสี่ยวปิงผิดปกตินิดหน่อย ก็เหลือบมองออกไปนอกหน้าต่างรถ เห็นสถานการณ์นี้ จึงให้คนขับรถม้ารีบขับเร็วขึ้นหน่อยทันที

ชาวบ้านเห็นรถม้าที่มาเป็นรถม้าที่ไม่คุ้นตาคันหนึ่ง ทั้งหมดจึงได้มองมาด้วยความสนใจ

เห็นว่าคนที่ลงมาคือลั่วเสี่ยวปิงและคุณชายผู้สูงศักดิ์คนก่อนหน้านี้ ก็มีชาวบ้านที่โล่งใจ

เวลานี้ ท่านป้าคนหนึ่งเห็นลั่วเสี่ยวปิง เหมือนได้เห็นฟางช่วยชีวิตเช่นนั้น “เสี่ยวปิง ในที่สุดเจ้ากลับมาสักที เกิดเรื่องแล้ว!”

ท่านป้าคนนี้ก็คือพี่น้องสะใภ้ของจางเฉินซื่อ ท่านแม่ของจางซานหลาง สวี่ซื่อ

เมื่อได้ยินสวี่ซื่อบอกว่าเกิดเรื่องแล้ว อย่างแรกที่ลั่วเสี่ยวปิงคิดถึงก็คืออานอานกับเล่อเล่อ จิตใจกระวนกระวายทันที

แต่นึกได้ว่ามีหนานซิงดูแลเด็กทั้งสองอยู่ ลั่วเสี่ยวปิงก็สบายใจขึ้นเล็กน้อย ถามสวี่ซื่อว่า “อาสะใภ้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?”

“เสี่ยวเหม่ย......เสี่ยวเหม่ยนางหายไปแล้ว”

จางเสี่ยวเหม่ย?

ไม่ใช่ว่าจางต้าหลางกลับบ้านมาดูแลนางแล้วหรือ?

ระหว่างที่ลั่วเสี่ยวปิงสงสัย สวี่ซื่อก็ไขข้อข้องใจของลั่วเสี่ยวปิง “เป็นเมี่ยวชุ่ยหลาน มีคนเห็นนาง ต้าหลางไปตามหาคนที่หมู่บ้านเมี่ยวเจียแล้ว”

เมื่อได้ยินว่าเมี่ยวชุ่ยหลานพาจางเสี่ยวเหม่ยไป ลั่วเสี่ยวปิงมีลางสังหรณ์ว่าคงไม่ใช่เรื่องดีอะไร

ไม่เพียงแค่ลั่วเสี่ยวปิง แม้แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านก็รู้สึกเช่นเดียวกัน อย่างไรเสียงตอนนี้ตระกูลเมี่ยวก็เพิ่งจะเกิดเรื่องไม่ใช่หรือไง?

ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้หยุดอยู่ที่หน้าหมู่บ้าน แต่กลับไปที่บ้านของตัวเองอย่างรวดเร็วมาก

เห็นอานอานและเล่อเล่ออยู่กันอย่างดี ลั่วเสี่ยวปิงจึงได้โล่งใจโดยสมบูรณ์

สุดท้ายลั่วเสี่ยวปิงให้โอหยางฉี่หยู่ช่วยดูแลเด็กๆก่อน ตัวเองกลับพาหนานซิงรีบไปที่หมู่บ้านเมี่ยวเจียแล้ว

ผลสุดท้าย ลั่วเสี่ยวปิงยังไม่ถึงหมู่บ้านเมี่ยวเจีย ก็พบกับจางต้าหลางมีรอยข่วนเต็มหน้าทั้งตัวสะบักสะบอม

เห็นลั่วเสี่ยวปิง จางต้าหลางชายชาตรีที่สูงหลายศอกนี้ กลับคุกเข่ามาทางลั่วเสี่ยวปิงโดยตรงแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง