แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 209

แม้ว่าส่วนใหญ่ลั่วเสี่ยวปิงจะพูดเรื่องไร้สาระด้วยท่าทางจริงจัง แต่บนใบหน้ากลับมองไม่เห็นถึงความประหม่าใดๆ

เพราะเป็นเช่นนี้ ในใจของฮัวเว่ยจึงเกิดความกลัวขึ้นเรื่อยๆ ชั่วขณะนั้นก็ไม่รู้เลยว่าควรจะทำอย่างไรกับลั่วเสี่ยวปิงจึงจะดี

และในที่ลับ อั้นปาที่ติดตามอยู่ข้างกายลั่วเสี่ยวปิงอยู่อย่างระมัดระวังโดยตลอดนั้นหลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้ของลั่วเสี่ยวปิง ก็ทั้งตะลึงและทั้งอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า

นายหญิงพูดถูก หากนายท่านสามฮัวนี่บังอาจกล้ากักขังนายหญิงไว้ เช่นนั้นจากนิสัยของนายท่าน เป็นไปได้ว่าพรุ่งนี้หอว่านเซียงอาจจะไม่อยู่แล้วจริงๆ

เพียงแต่นายหญิงรู้สิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร? หรือว่านายหญิงรู้ตัวตนของนายท่านแล้วงั้นหรือ?

ในห้องส่วนตัว บรรยากาศรวมตัวแน่นขึ้นทันที ลั่วเสี่ยวปิงหมุนตัวแล้วก็ต้องการจะจากไป

“ลั่วเสี่ยวปิง เทียบกับตระกูลฮัว เจ้ายอมเลือกไอ้เด็กสารเลวนั่นหรือ?” ฮัวเว่ยไม่ยอมเล็กน้อย กัดฟันด้วยความโกรธ

เมื่อได้ยินคำว่าไอ้เด็กสารเลวสองคำนี้อีกครั้ง ลั่วเสี่ยวปิงอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ นึกถึงโอหยางฉี่หยู่ที่ปกติแล้วจะมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอขึ้นมา

แต่ว่าสุดท้ายลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้ถามอะไร ไม่ได้พูดอะไร สาวเท้าก้าวใหญ่ออกไป

เห็นลั่วเสี่ยวปิงหายตัวไปจากสายตาของตัวเอง ฮัวเว่ยเขวี้ยงแก้วชาในมือด้วยความโมโห

ไม่นานนัก บัณฑิตผู้หนึ่งก็ล้มลุกคลุกคลานเข้ามาจากด้านข้าง มองดูฮัวเว่ยด้วยสีหน้าซีดเผือดดวงตาแฝงไปด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย

“นายท่านสาม ข้า......”

“ปัง——” นายท่านสามฮัวเขวี้ยงแก้วชาที่ลั่วเสี่ยวปิงดื่มแล้วไปที่เท้าของบัณฑิตทันที “ทำไมเจ้าไม่บอกข้าว่า เบื้องหลังของลั่วเสี่ยวปิงมีคนสนับสนุนที่แข็งแกร่งอยู่?”

บัณฑิตก็คือลั่วเหอซิ่งที่ทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “นายท่านสาม ข้าไม่......”

ขณะที่เห็นดวงตาอันดุร้ายนั่นของนายท่านสามฮัว ลั่วเหอซิ่งรู้สึกได้เพียงแค่สันหลังชา รีบเปลี่ยนคำพูดทันที “นายท่านสาม จากที่ข้าน้อยรู้จักลั่วเสี่ยวปิง เป็นไปไม่ได้ที่เบื้องหลังของนางจะมีผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งอะไรเด็ดขาดขอรับ”

ผู้หญิงสารเลวที่ไม่มีแม้แต่ที่ความบริสุทธิ์ จะมีคนใหญ่คนโตอะไรมาเป็นที่พึ่งของนางได้อย่างไร

ตอนที่อยู่ข้างๆลั่วเหอซิ่งก็ได้ฟังคำพูดทั้งหมดของทางนี้เข้าหูไปแล้ว ตอนนั้นเขาก็รู้สึกตกใจ แต่ตอนนี้เมื่อคิดดูแล้วเขารู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด

หากว่าเบื้องหลังของนางมีบุคคลที่มีตำแหน่งสูงจริง นางยังจะอยู่ที่หมู่บ้านต้าซิงเล็กๆอีกได้อย่างไร

ถ้าเป็นเขา จะต้องติดตามบุคคลที่มีตำแหน่งสูงนั่นไปที่เมืองหลวงแล้ว

ยิ่งคิดเช่นนี้ ลั่วเหอซิ่งก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองคิดไม่ผิดเด็ดขาด ทั้งคนก็มีความมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว

“เมื่อไม่มีคนคอยสนับสนุน เจ้าก็พูดมาซิว่านางจะปลูกผักเหล่านั้นในฤดูหนาวออกมาได้อย่างไร?” จุดนี่ทำให้นายท่านสามฮัวรู้สึกหวาดกลัวที่สุด

เหมือนดั่งที่ลั่วเสี่ยวปิงกล่าว หญิงชาวบ้านธรรมดาๆผู้หนึ่งจะทำสิ่งเหล่านี้เป็นได้อย่างไร?

หากบอกว่าไม่มีคนอยู่เบื้องหลังชี้แนะ พูดอะไรเขาก็ไม่เชื่อ

“นายท่านสามอาจจะไม่รู้ สามีป่าเถื่อนของลั่วเสี่ยวปิงก่อนหน้านี้เกิดในครอบครัวที่ใหญ่โตร่ำรวย......”

ลั่วเหอซิ่งเอาเรื่องราวในชีวิตของฉีเทียนเห้าที่ลั่วเสี่ยวปิงได้บอกต่อทุกคนมาเรียบเรียงเล็กน้อย และบรรยายให้นายท่านสามฮัวฟัง

โดยสรุป ในเรื่องราว ทุกอย่างที่ลั่วเสี่ยวปิงทำเป็น ล้วนเป็นตอนที่สามีป่าเถื่อนของลั่วเสี่ยวปิงเชิญคนมาสอนตอนที่ยังมีเกียรติยศสดใสอยู่

ลั่วเหอซิ่งไม่ได้พูดสั่นๆโดยสรุป อีกทั้งยังเกลาให้ดูดีขึ้นเล็กน้อย นายท่านสามฮัวก็ไม่ได้ขัดลั่วเหอซิ่ง แต่คิ้วทั้งคู่กลับขมวดแน่นขึ้นเรื่อยๆ

ทำไมมักจะได้รู้สึกคุ้นเคยกับเรื่องราวในชีวิตของชายป่าเถื่อนผู้นั้นที่ลั่วเหอซิ่งบรรยายอยู่เสมอนะ?

ลั่วเหอซิ่งบรรยายจบ นายท่านสามฮัวยังคงอยู่ในการครุ่นคิดอย่างหนัก ทำให้ลั่วเหอซิ่งตกใจจนเหงื่อเย็นไหลออกมาจากหลังของเขาอยู่ตลอด

“เป็นเขา!”

แล้วในขณะที่ลั่วเหอซิ่งอกสั่นขวัญแขวนอยู่นั้น นายท่านสามฮัวก็ตะโกนขึ้นเสียงหนึ่งอย่างฉับพลัน เพียงแต่สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่น่าดูยิ่งขึ้น

มิน่าล่ะเขาถึงได้รู้สึกว่าเรื่องราวของชายป่าเถื่อนนั่นคุ้นเคยขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าคล้ายกับไอ้เด็กสารเลวนั่นพอดีหรือ?

ไอ้เด็กสารเลวนั่นก็คือคนที่ถูกไล่ออกไปจากตระกูลฮัว!

มิน่าลั่วเสี่ยวปิงถึงได้ยอมร่วมมือกับไอ้เด็กสารเลวนั่นแต่ไม่ร่วมมือกับตระกูลฮัวของเขา ที่แท้ทั้งสองคนก็มีความสัมพันธ์เช่นนี้นี่เอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง