ขณะที่โอหยางฉี่หยู่ได้ยินเสียงเคาะประตู คิดว่าลูกน้องของตัวเองส่งอาหารมาแล้ว สองสามวันนี้เขาช่วยดูแลอานอานและเล่อเล่อ หนึ่งวันสามมื้อล้วนส่งมาจากหอฝูหม่านทั้งหมด
ตั้งแต่ครั้งแรกหลังจากที่ถูกลูกน้องที่มาส่งอาหารเห็นการ ‘แต่งตัว’ ของตัวเอง โอหยางฉี่หยู่จึงไม่ได้หลบซ่อนแล้ว โดยคร่าวๆลูกน้องก็ไม่กล้าพูดออกไป
แต่โอหยางฉี่หยู่ยังไงก็คิดไม่ถึงว่า คนที่เคาะประตูครั้งนี้จะไม่ใช่ลูกน้องของตัวเอง แต่เป็นลั่วเสี่ยวปิงที่ไม่ได้พบหน้ากันมาสองสามวันแล้ว
ชั่วขณะหนึ่ง โอหยางฉี่หยู่รู้สึกเพียงแค่ในใจมีของอะไรบางอย่างแตกหัก สีหน้าเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีด ทั้งคนแข็งทื่อไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
และลั่วเสี่ยวปิงที่ยืนอยู่หน้าประตูก็ตกตะลึงเช่นกัน โชคดีตอนอยู่ที่ยุคปัจจุบันก็เคยเห็นการแต่งตัว ‘แบบฉบับหรูฮวา’ มาก่อน ดังนั้นสุดท้ายก็อดกลั้นไว้ได้แล้ว
เพียงแต่การแต่งตัวของโอหยางฉี่หยู่ที่อยู่ตรงหน้านี้ เทียบกับหรูฮวาแล้วยังน่าสังเวชจนทนมองไม่ได้อย่างแท้จริง: ตาข้างหนึ่งทาสีแดง ข้างหนึ่งทาสีดำ คิ้วข้างหนึ่งเหมือนหนอน อีกข้างหนึ่งเหมือนไส้เดือน ปากนั่นเหมือนปากเลือดขนาดใหญ่โดยแท้ แม้แต่บนใบหน้าก็ถูกทาที่ปัดแก้มสีแดงเลอะเทอะไปหมด
กล่าวโดยสรุป ใบหน้าดีๆใบหน้าหนึ่งถูกทำลายจนไม่เป็นชิ้นดี หากว่าไม่ใช่เพราะชุดสีแดงที่เป็นสัญลักษณ์นั่น นางก็จนปัญญาที่จะเชื่อมโยงคนตรงหน้าผู้นี้กับโอหยางฉี่หยู่ขึ้นมาได้
พูดตรงๆ ความรู้สึกเหมือนเห็นผีตอนกลางวันแสกๆประเภทนั้น
“ท่านแม่ ท่านกลับมาแล้ว”
เห็นว่าที่ประตูไม่มีการเคลื่อนไหวอยู่เป็นเวลานาน อานอานและเล่อเล่อก็เดินออกมาจากในบ้าน เมื่อเห็นว่าเป็นแม่ของตัวเอง เด็กทั้งสองก็วิ่งเข้าไปด้วยความดีใจ
ลั่วเสี่ยวปิงมองดูเด็กสองคนแวบหนึ่ง สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะเคลื่อนสายตาไปไว้บนใบหน้าของโอหยางฉี่หยู่อีกครั้ง
เล่อเล่อเห็นดังนั้น ทั้งใบหน้าพูดชื่นชมด้วยความภาคภูมิใจ “ท่านแม่ ท่านอาโอหยางแต่งหน้าสวยใช่ไหมล่ะ? เล่อเล่อเป็นคนแต่งหน้าให้ท่านอาโอหยางเองเลยน้า!”
ลั่วเสี่ยวปิง: “......สวยมาก.......” ในที่สุดนางก็พอจะรับรู้ได้ถึงสภาพจิตใจของคุณปู่ที่เคยถูกนางแต่งหน้าให้ตอนเด็กๆแล้ว
ทีแรกลั่วเสี่ยวปิงก็อดกลั้นไว้ด้วยความลำบาก พอได้ยินเสียงหัวเราะของหนานซิง ใบหน้าของลั่วเสี่ยวปิงก็อดกลั้นจนแทบจะเป็นตะคริวแล้ว
จริงๆ ลำบากเกินไปแล้ว
แต่อย่างน้อยลั่วเสี่ยวปิงก็ยังนึกถึงสภาพจิตใจของโอหยางฉี่หยู่ ไม่ได้หัวเราะออกมา
ในการหัวเราะอย่างเกินจริงโดยไม่มีการสงวนท่าทีของหนานซิง ในที่สุดโอหยางฉี่หยู่ก็ดึงสติจากสภาพที่กลายเป็นหินกลับมาได้ หลังจากที่มองค้อนหนานซิงแวบหนึ่งแล้ว โอหยางฉี่หยู่ก็มองไปทางลั่วเสี่ยวปิงด้วยความตื่นเต้นเป็นกังวล
แต่เมื่อเห็นท่าทางอดกลั้นของลั่วเสี่ยวปิง จิตใจโอหยางฉี่หยู่ก็เหมือนจะมีอะไรพังทลายลง
“ข้า.......”
พูดเพียงแค่คำเดียว โอหยางฉี่หยู่ก็หมุนตัวพุ่งเข้าไปในบ้าน ไม่ช้าก็หายวับไปจากสายตาของลั่วเสี่ยวปิง
หลังจากที่โอหยางฉี่หยู่จากไป ลั่วเสี่ยวปิงสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับการอยากหัวเราะอย่างวู่วาม มองไปทางเล่อเล่อด้วยสีหน้าจริงจัง “ทำไมต้องแกล้งท่านอาโอหยาง?”
แม้ว่าตอนเป็นเด็กเล็กเด็กผู้หญิงเกือบทุกคนจะชอบเกมแต่งตัวกันหมด แต่ก็ไม่ใช่ว่านางจะไม่เห็นความเจ้าเล่ห์ที่แวบผ่านไปในดวงตาของเล่อเล่อ
เมื่อเล่อเล่อเห็นว่าท่านแม่เหมือนจะโกรธเล็กน้อย จึงหลบอยู่หลังอานอานด้วยความรู้สึกผิดและแสร้งทำเหมือนว่าตัวเองไม่มีตัวตน
นี่เป็นสัญญาของนางกับท่านพ่อ
ท่านพ่อบอกว่า ต้องช่วยตัวเองดูท่านแม่ไว้ อย่าให้ท่านแม่ไปมาหาสู่กับท่านอาที่หน้าตาดี
อื้ม ท่านอาที่มีหน้าตาดีก็ต้องป้องกันไว้
โอหยางฉี่หยู่น่าจะเป็นคนหน้าตาดีประเภทนั้นที่ท่านพ่อเอ่ยถึง ดังนั้นนางจึงได้แต่งตัวน่าเกลียดๆให้ท่านอาโอหยาง แบบนี้ในใจของท่านแม่ ท่านอาโอหยางก็ไม่ได้ดูดีแล้ว
แต่ท่านพ่อบอกว่า นี่เป็นความลับของตัวเองกับเขา บอกกับท่านแม่ไม่ได้
“เล่อเล่อ!” เสียงของลั่วเสี่ยวปิงจริงจังขึ้นอีกเล็กน้อย
เล่อเล่อเบะปากเดินออกมาจากด้านหลังของอานอาน มองดูลั่วเสี่ยวปิงด้วยสีหน้าน้อยใจ “ท่านแม่......”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...