แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 27

ลั่วเสี่ยวปิงเช็ดหางตาที่ไม่ได้มีน้ำตาอยู่ สีหน้าโศกเศร้า

“ข้าแม่หม้ายลูกก็ไม่มีพ่อนี้ พบเจอเรื่องนี้ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ทำได้เพียงแค่ไปดูที่บ้านเก่าทางนั้น อย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นผู้อาวุโสของข้า ข้าหวังเพียงพวกเขาจะสามารถช่วยออกความคิดเห็นให้ข้าได้ ไม่อย่างงั้นข้าคงมีชีวิตต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆล่ะ”

แม้จะสงสัยว่าจ้าวซื่อเป็นคนทำเรื่อง แต่อย่างไรเสียนางก็ไม่มีหลักฐาน เป็นธรรมดาที่จะไม่ไปทวงเอาของถึงบ้านตรงๆ

แม้ว่านางจะถูกตระกูลลั่วไล่ออกมาแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรในนามของบ้านเก่าทางนั้นก็เป็นผู้อาวุโสของนาง นางเข้าไปให้พวกเขาช่วยตัดสินใจเสนอแนะก็สมเหตุสมผล

นางเชื่อ เพียงแค่ไปที่บ้านเก่า เรื่องราวจะเกี่ยวข้องกับบ้านเก่าหรือไม่ความจริงก็จะเปิดเผยออกมาแล้ว

เมื่อหวางต้าอิงได้ยินว่าลั่วเสี่ยวปิงต้องการไปที่บ้านเก่า จึงกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่า “สมควรแล้ว อย่างไรเสียพวกเขาก็ล้วนเป็นผู้อาวุโสของเจ้า ให้พวกเขาช่วยเจ้าเสนอความคิดเห็นก็เหมาะสมแล้ว”

แม้คำพูดจะพูดเช่นนี้ แต่ใครจะไม่รู้ว่าหลายปีมานี้บ้านลั่วไม่มีสักคนเดียวที่เป็นห่วงเป็นใยความเป็นความตายของลั่วเสี่ยวปิงสามแม่ลูกโดยสิ้นเชิง?

บ้านเก่าตระกูลลั่วจะช่วยเหลือ? ไม่ได้คอยซ้ำเติมก็นับว่าไม่เลวแล้ว

ทุกล้วนรู้ชัดแจ้งต่อท่าทีของบ้านเก่าตระกูลลั่วทั้งหมด แต่เวลาว่างหลังจากอาหารเย็นแล้วก็ยากที่จะปล่อยให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ มีความสนุกให้ดู ใครจะไม่อยากดู?

แม้จะบอกว่าเมื่อครู่คนเหล่านี้ยังจะเห็นใจลั่วเสี่ยวปิงอยู่บ้าง แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ไม่ได้อยู่บนตัวของตัวเอง เห็นอกเห็นใจสักเล็กน้อยก็พอแล้ว จะถ่วงรั้งการดูละครของพวกนางเพราะความเห็นอกเห็นใจเล็กน้อยนี้ได้ที่ไหนกัน?

ด้วยเหตุนี้ รอจนขณะที่ลั่วเสี่ยวปิงไปถึงบ้านเก่าตระกูลลั่ว ด้านหลังก็ติดตามด้วยกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ตั้งชื่อให้น่าฟังว่าช่วยในการเจรจาเหตุผล ความเป็นจริงจุดประสงค์หลักคนที่ต้องการดูละคร

ลั่วเสี่ยวปิงรู้ว่าความจริงแล้วคนเหล่านี้ต้องการจะดูละครเป็นธรรมดา แต่นี่ก็ตรงกับความต้องการของนางพอดี

ไม่มีคนดู แล้วจะทำให้เรื่องราวใหญ่โตได้อย่างไร?

ภายใต้การจับจ้องของทุกคน ลั่วเสี่ยวปิงเดินเข้าไปเคาะประตูบ้านเก่าตระกูลลั่ว

บรรพบุรุษตระกูลลั่วเป็นขุนนาง เพราะไปล่วงเกินผู้สูงศักดิ์ถึงได้จำเป็นต้องย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านภูเขาเล็กๆนี้

แม้ว่าจะผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว ตระกูลลั่วก็กลายเป็นคนบ้าอำนาจไร้เหตุผลในหมู่บ้านอย่างสมบูรณ์ แต่บ้านเก่าที่บรรพบุรุษทิ้งไว้นี้ก็สามารถดูออกได้ว่าตอนนั้นตระกูลลั่วรุ่งโรจน์เพียงใด

ก็พูดถึงบ้านอิฐบล็อกและกระเบื้องนี้ ในทั้งหมู่บ้านต้าซิง นอกจากบ้านผู้ใหญ่บ้านและบ้านของจางต้าฉวน ก็เป็นของตระกูลลั่วถึงจะมี

และประตูใหญ่ลานบ้านของตระกูลลั่วนี้ เป็นประตูใหญ่ที่หนักอึ้งสองบาน ในหมู่บ้านนี้ก็มีแค่เพียงหนึ่งเดียว

“ใครกัน?”

ในไม่ช้า ในลานบ้านของตระกูลลั่วก็มีเสียงตอบรับที่เคาะประตูดังออกมาอย่างขอไปที

จากนั้น ประตูใหญ่ก็ถูกดึงให้เปิดจากด้านใน

คนเปิดประตูคือจ้าวซื่อ

จ้าวซื่อรูปร่างค่อนไปทางอ้วน ผิวพรรณเหลืองเล็กน้อย ท่าทางเหมือนหญิงที่แต่งงานธรรมดาๆ เพียงโหนกแก้มที่สูงเล็กน้อยนั่น พร้อมกับแววตาที่นับได้ว่าทำให้คนรู้ว่านางไม่ได้เข้าหาได้ง่ายเล็กน้อย

ขณะที่เปิดประตูออก จ้าวซื่อกำลังแทะเมล็ดแตงโม ท่าทางสบาย ๆ

เมื่อเห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงเคาะประตู ท่าทางการแทะเมล็ดแตงโมของจ้าวซื่อก็ชะงักทันที ในตามีความละอายใจแฉลบผ่าน

แน่นอน ความละอายใจนั่นก็เป็นเพียงแค่เวลาสั้นๆ

ไม่ช้าท่าทางการแสดงออกของจ้าวซื่อก็เปลี่ยนเป็นไม่เป็นมิตร เอ่ยถามด้วยเสียงเฉียบคม “เจ้ามาทำอะไรที่นี่? ก็ไม่กลัวว่าจะทำให้ฮวงจุ้ยของบ้านเก่าสกปรก”

จ้าวซื่อพูดจาโหดร้ายมาก ไม่เห็นค่าของลั่วเสี่ยวปิงโดยสิ้นเชิง

เมื่อพูดจบ ก็ไม่ตั้งใจให้โอกาสลั่วเสี่ยวปิงได้พูด จ้าวซื่อยื่นมือออกมาแล้วเตรียมจะปิดประตู

"ไอหยา จ้าวชุนฮวา หลานสาวของบ้านเจ้าน่าสงสารจริงๆนะ ในบ้านของนางถูกขโมยขึ้นแล้ว เจ้าเป็นผู้อาวุโสจะไม่สนใจไม่ได้นะ”

ไม่ต้องรอให้ลั่วเสี่ยวปิงเปิดปาก หวางต้าอิงที่รอดูละครอยู่เห็นว่าสถานการณ์ไม่ถูกต้อง จึงรีบเอ่ยปาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง