แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 28

จ้าวซื่อพูดยังไม่จบ ลั่วเสี่ยวปิงก็โยนฝาหม้อที่เป็นไม้หนาและหนักในมือไปทางนางโดยตรง จ้าวซื่อตกใจจนร้องเสียงแหลมติดต่อกัน

คนที่มาดูละครก็คิดไม่ถึงว่าลั่วเสี่ยวปิงจะมาไม้นี้ แต่ละคนล้วนตะลึงงันแล้ว

นี่เสี่ยวปิงไม่ได้มาให้ผู้อาวุโสตระกูลลั่วออกความคิดเห็นหรือ? ทำไมดูแล้วไม่เหมือนล่ะ?

เห็นสถานการณ์ไม่ถูก มีคนที่มีความคิดปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์เข้าใจความอ้อมค้อมในนั้นอย่างฉับพลัน จึงเอ่ยเตือนคนด้านข้างเบาๆ

“เมื่อครู่เสี่ยวปิงบอกว่า ในบ้านนี่ถูกขโมยอะไรไป พวกเจ้ายังจำได้หรือไม่?”

เมื่อคนผู้นี้เตือน คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ก็เข้าใจแล้ว

ยังมีเรื่องดีถือโอกาสหมุดเข้าไปในห้องครัวตอนที่จ้าวซื่อไม่ระวังตัว วิ่งไปด้านหน้าหม้อใบใหญ่นั่น

มองดูของในหม้อนั่น คนผู้นั้นก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้

เนื้อเอย เกี๊ยวเอย พวกเขาล้วนไม่ได้กินมาเป็นเวลานานแล้ว

“เจ้าทำอะไร?” หลังจากที่จ้าวซื่อตกตะลึงแล้ว เห็นสวีต้าหนีที่ตะกละเป็นที่สุดผู้นั้นคิดต้องการจะหยิบจวักขึ้นมาขโมยอาหาร โมโหยกใหญ่ขึ้นมาทันที

ในบ้านนี้คนมากมาย แบ่งเข้าปากเดิมทีก็ไม่ได้มากเท่าไหร่ นี่หากถูกคนขโมยไปคำหนึ่งเช่นนั้นนางก็น้อยไปคำหนึ่งแล้วไม่ใช่หรือ?

เมื่อสวีต้าหนีเห็นว่าตัวเองถูกจับได้ ใบหน้าเหยเก “ข้า ข้าแค่นับเกี๊ยว”

พูดพลาง สวีต้าหนีก็เหลือบมองในหม้ออย่างรวดเร็ว และไม่ได้นับอย่างละเอียดว่ามีเท่าไหร่ ก็กล่าวเสียงดัง “มีเกี๊ยวยี่สิบตัวจริงๆ ยังมีเนื้ออีก”

สิ้นคำพูด สวีต้าหนีก็หมุดออกไปจากห้องครัวด้วยความรวดเร็วภายใต้สายตาที่เหมือนดั่งมีดอาบยาพิษเช่นนั้นของจ้าวซื่อ

คนอื่นๆที่มาดูความคึกคักหลังจากที่ได้ยินคำพูดของสวีต้าหนี แววตาก็เปลี่ยนไปทั้งหมดทันที

ทั้งเมล็ดแตงโม ทั้งไขมันทอด จำนวนเกี๊ยวยังมีเนื้อล้วนสอดคล้องกันหมด นี่จะต้องไม่ใช่ความบังเอิญแน่นอน

ว่าตามนี้เรื่องที่บ้านของลั่วเสี่ยวปิงถูกขโมยเข้าจะต้องเป็นบ้านเก่าตระกูลลั่วทำเป็นแน่แล้ว

“เมื่อครู่ตอนที่ข้ากินอาหารเย็นก็เห็นจ้าวชุนฮวาแบกตะกร้าสะพายหลังกลับมาจากปากทางหมู่บ้าน ข้ากลับยังแปลกใจอยู่เลยว่าค่ำขนาดนี้แล้วจ้าวชุนฮวายังจะออกจากหมู่บ้านทำไม แต่ที่แท้ก็กลับไปเป็นขโมยนี่เอง”

ฉับพลันนั้น หยินเสี่ยวหงภรรยาของจางต้าหลินที่อยู่ปากทางของหมู่บ้านที่สุดก็เปิดปากขึ้นอย่างฉับพลันในเวลานี้

หยินเสี่ยวหงและจ้าวชุนฮวาขัดหูขัดตามาโดยตลอด เวลาปกติก็มักจะแทรกขึ้นมากสองประโยคเสมอ นี่มาดูความคึกคัก แน่นอนว่าก็อยากเข้าร่วมด้วยเท้าหนึ่ง

เมื่อคำพูดนี้ของหยินเสี่ยวหงโพล่งออกมา สายตาของคนทั้งหมดก็ตกไปอยู่บนร่างของจ้าวซื่อ

จ้าวซื่อถูกสายตาเหล่านี้มองดูจนใบหน้าเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีด ใบหน้าใบหนึ่งแทบจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่แล้ว

คิดว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะหยินเสี่ยวหง จ้าวซื่อจึงโกรธมากจากหลายๆอย่าง พุ่งไปทางหยินเสี่ยวหง

“หยินเสี่ยวหงนังตัวดี วิ่งมาบ้านข้าใส่ร้ายป้ายสีข้ามั่วซั่ว ทำลายความบริสุทธิ์ของข้า ดูว่าข้าจะไม่ฉีกลิ้นของเจ้า ทำให้เจ้าไม่กล้าพูดจาเลอะเทอะอีก”

หยินเสี่ยวหงคิดไม่ถึงว่าจ้าวซื่อจะกล้าลงมือกับตัวเองต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้จริงๆ เวลาสั้นๆไม่สามารถดึงสติได้ ใบหน้าถูกจ้าวซื่อข่วนเป็นรอย เส้นผมก็ถูกจ้าวซื่อดึงจนยุ่งแล้ว

หวางต้าอิงและหยินเสี่ยวหงมีความสัมพันธ์เป็นพี่น้องสะใภ้กัน ไม่ว่าในวันธรรมดาความสัมพันธ์ของพี่น้องสะใภ้จะเป็นยังไง แต่ก็จะไม่มองดูพี่น้องสะใภ้ของตัวเองถูกคนรังแก ดังนั้นหวางต้าอิงจึงก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยหยินเสี่ยวหง

ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วในหมู่บ้านนี้ล้วนคุ้นเคยกับงานเกษตร มีแรงกำลังนี้แล้ว ทะเลาะวิวาทถลกหนังก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ได้อยู่ในบทสนทนา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง