แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 282

ทุกคนมองไปยังซ่งหลิงหลิง ซ่งหลิงหลิงวิ่งไปนั่งตรงหน้าอู้เจินที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ตรงลานบ้าน

“อู้เจิน ลายมือของท่านคงจะสวย ถ้ายังไงกลอนคู่นี่ท่านเขียนแล้วกันได้ไหม” ซ่งหลิงหลิงมองด้วยสีหน้าคาดหวัง

ถึงนางไม่เคยเห็นงานเขียนของอู้เจิน แต่ในเมื่ออู้เจินเป็นไต้ซือ เช่นนั้นตัวอักษรย่อมไม่น่าเกลียด

อู้เจินลืมตา เหลือบมองใบหน้าที่สดใสและเต็มไปด้วยความคาดหวังของซ่งหลิงหลิง

สองคนคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิ คนหนึ่งนั่งยอง ต่างประสานสายตา

อาจเพราะทั้งคู่เคยชินกับสิ่งนี้ ดังนั้นจึงไม่ได้เกิดประกายไฟอะไร แต่ในสายตาของผู้ชมรวมถึงลั่วเสี่ยวปิง มักจะมีความรู้สึกแปลกๆ

เหมือนกับว่า...พ่อมองลูกสาว?

ไม่ผิด เหมือนกับพ่อมองลูกสาว เพราะการแสดงออกของอู้เจินนั้นดูเมตตามาก ใบหน้าเจือรอยยิ้มบางที่ใจดีอยู่เสมอ และสายตาที่มองโลกมนุษย์ได้ทะลุปรุโปร่งดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความอดทน

ไม่นาน อู้เจินลุกขึ้นเดินไปยังโต๊ะข้างลานบ้าน

หยิบพู่กันจุ่มหมึกอย่างใจเย็น และหยิบกระดาษแดงที่ตัดออกเป็นสองแผ่น แล้วเขียนสองประโยคด้วยความสงบนิ่ง

 “ฟ้าดินนำความมั่งคั่งสู่ครอบครัว สงบสุขดั่งพรที่ปรารถนา”

 จากนั้นในแนวนอนเขียนว่า “สี่ฤดูสงบสุข”

หลังจากเขียนเสร็จ อู้เจินวางพู่กันในมือลงนิ่งๆ กลับไปนั่งบนฟูกและทำสมาธิต่อไป

ทุกคนมองหน้ากัน รู้สึกว่ากลอนคู่นี้เรียบง่ายและความหมายดี แต่อู้เจินท่าทีสันโดษจนทุกคนอดไม่ได้ที่จะทำตัวเงียบเชียบ

แต่ซ่งหลิงหลิงไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เลย เมื่อเห็นกลอนคู่นี้ก็พูดอย่างภาคภูมิใจมาก “ข้ารู้อยู่แล้วว่าตัวอักษรของอู้เจินสวย”

พูดราวกับนางเป็นคนเขียนกลอนคู่นี้เอง

กลอนคู่ที่อู้เจินเขียนย่อมไม่มีข้อวิจารณ์ ลั่วเสี่ยวปิงจึงให้ฮันหลินเอาไปติดไว้ที่ประตู

ชั่วพริบตาเดียวก็ถึงยี่สิบเก้าค่ำเดือนสิบสอง เนื่องจากเป็นวันก่อนวันส่งท้ายปีเก่า จึงถูกเรียกว่าวันส่งท้ายปีเก่า

ในเวลานี้โรงงานอยู่ในช่วงวันหยุดยาว และหมู่บ้านต้าซิงมีประเพณีที่จะจัดงานเลี้ยงครอบครัวในวันส่งท้ายปีเก่า ลั่วเสี่ยวปิงทำตามประเพณีชนบท จัดหาอาหารอร่อยๆ ด้วยตัวเอง และแบ่งปันทั้งหมดให้คนรับใช้ทุกคนในครอบครัว

ดังนั้นไม่ว่าจะอายุเท่าไร ทุกคนต่างมีส่วนร่วม

แน่นอนว่ายกเว้นอู้เจิน

หลังจากอู้เจินมา ทุกวันเมื่อไม่มีเรื่องอะไรก็จะนั่งสมาธิ ถึงมีเรื่องอะไรก็ยังนั่งสมาธิ ไม่มีความอยากอาหาร ดูเหมือนคนไม่มีความรู้สึกไม่มีความปรารถนาใดๆ

แต่ซ่งหลิงหลิงหลังจากที่คอยช่วยงานอย่างมีชีวิตชีวาเสร็จแล้วก็ไม่อยู่ในครัว แล้วไปอยู่กับอู้เจิน

วิธีการของซ่งหลิงหลิงนั้นธรรมดามาก นั่นคือการพูดเจื้อยแจ้วข้างหูอู้เจินไม่หยุด คนที่กำลังพูดก็พูดอย่างร่าเริง แต่อู้เจินให้ความรู้สึกที่ว่าไม่รู้ว่าเขากำลังฟังอยู่หรือเปล่า

เวลานี้ ลั่วเสี่ยวปิงมอบหน้าที่การเตรียมวัตถุดิบส่วนผสมให้หญิงชราซูและหญิงชราเจียง และกำลังให้เด็กทั้งสองคนห่อเกี๊ยวสำหรับวันส่งท้ายปีเก่าพรุ่งนี้

ขณะที่เล่อเล่อพยายามทำเกี๊ยวในมือ ก็มองออกไปนอกหน้าต่างที่ซ่งหลิงหลิงและอู้เจินซึ่งไม่กลัวความหนาวเย็นอย่างสงสัย แล้วเงยหน้าขึ้นมองลั่วเสี่ยวปิง “ท่านแม่ ทำไมพี่หลิงหลิงพูดเก่งจัง ทั้งทั้งที่ท่านอาอู้เจินไม่สนใจนางเลย”

เล่อเล่อสงสัยมานานแล้วว่าซ่งหลิงหลิงพูดเฮฮาอะไรได้ขนาดนั้นคนเดียว

สำหรับปัญหาการเรียก ตอนแรกเล่อเล่อเรียกว่าท่านน้าหลิงหลิง และเรียกท่านอาอู้เจิน เพียงแต่เพราะลั่วเสี่ยวปิงรู้ว่าซ่งหลิงหลิงเป็นหลานสาวของฉีเทียนเห้า นางจึงให้เล่อเล่อเรียกว่าท่านพี่หลิงหลิง

ด้วยเหตุนี้ อู้เจินกับซ่งหลิงหลิงจึงถูกเรียกกันไปคนละรุ่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง