สีหน้าของอานอานอยู่ในสายตาลั่วเสี่ยวปิง ใจรู้ว่าถ้าตัวเองตอบคำถามนี้ได้ไม่ดี จะต้องทำให้เด็กรู้สึกแย่กับฉีเทียนเห้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของเด็ก
เพราะนางรู้ว่าอานอานแคร์ฉีเทียนเห้าผู้เป็นพ่อมาก หากอานอานเกิดความคิดในแง่ร้ายกับฉีเทียนเห้าขึ้นมาจริงๆ มันจะเป็นการทำร้ายอานอาน
เมื่อพิจารณาตามนี้ ลั่วเสี่ยวปิงจึงลงนั่งยองๆ ตรงหน้าอานอานกับเล่อเล่ออย่างระมัดระวัง มองเข้าไปในดวงตาของอานอานพลางพูดว่า “ตลอดมาไม่เคยบอกพวกเจ้า ท่านพ่อของพวกเจ้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของต้าชิ่งเรา เขาเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่ปกป้องผู้คน…”
พูดมาถึงตอนนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็มองอานอานกับเล่อเล่อ เห็นหน้าตาของเด็กทั้งสองคนตกตะลึงก่อนเป็นอันดับแรก ตามมาด้วยดวงตาเป็นประกายที่เปี่ยมไปด้วยความชื่นชม
“แคว้นซีหรงก่อความไม่สงบมาโดยตลอด และตอนนี้ก็กำลังจะเคลื่อนไหวโจมตี ท่านพ่อของพวกเจ้าไปที่ชายแดนเพื่อเรื่องนี้”
พูดอย่างนั้นแล้วก็เพิ่มอีก “ชายแดนหนาวเหน็บกว่าที่นี่มากนะ”
ทันทีที่ได้ยินว่าชายแดนหนาวเหน็บกว่าที่นี่ ดวงตาของเล่อเล่อพลันแดงทันใด “ท่านแม่ ท่านพ่อไม่ไปชายแดนไม่ได้เหรอ”
ลั่วเสี่ยวปิงส่ายหน้า “ถ้าเขาไม่ไป ผู้คนมากมายจะสูญเสียบ้านเพราะสงคราม ถึงตอนนั้นจะมีคนได้รับความหนาวเหน็บมากยิ่งขึ้น”
พูดอย่างนั้นแล้วลั่วเสี่ยวปิงก็ปาดน้ำตาที่กำลังจะไหลจากขอบตาของเล่อเล่อและเอ่ยปลอบโยน “พวกเจ้าวางใจ ท่านพ่อของพวกเจ้าเก่งกาจมาก จะดูแลตัวเองอย่างดี”
เล่อเล่อพยักหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “อื้ม ท่านพ่อเก่งที่สุดแล้ว”
ลั่วเสี่ยวปิงรู้ว่าเล่อเล่อสบายใจแล้วและกำลังจะโล่งใจ แต่ได้ยินเล่อเล่อพูดว่า “เมื่อข้าโตขึ้น จะเป็นเหมือนท่านพ่อ เป็นแม่ทัพใหญ่ที่ปกบ้านป้องเมือง”
ลั่วเสี่ยวปิง “……..”
เล่อเล่อ? แม่ทัพใหญ่?
ตกตะลึงไปสักพักก่อนที่ลั่วเสี่ยวปิงนึกขึ้นได้ว่าโดยปกติแล้วเล่อเล่อไม่สนใจเรียนหนังสือ แต่ชอบรำกระบี่เล่นปืนมากกว่า
หลังจากฉีเทียนเห้าไป เล่อเล่อมักจะไปวอแวพวกอั้นหวู่ให้สอนวิทยายุทธให้นาง หลังจากท่านเว่ยมา เล่อเล่อก็ไปอยู่กับท่านเว่ยบ่อยครั้ง ที่แสดงให้เห็นคือมีความสนใจในการฝึกวิทยายุทธเป็นที่สุด
นางไม่ใช่คนในยุคนี้ โดยธรรมชาติแล้วไม่มีความคิดที่ยึดติดแบบแผนคร่ำครึ นางไม่คิดว่าเด็กผู้หญิงที่มีความฝันอยากเป็นแม่ทัพจะมีอะไรผิดปกติ ดังนั้นจึงประหลาดใจเพียงครู่เดียว ก่อนลั่วเสี่ยวปิงจะโล่งใจและให้กำลังใจเล่อเล่อ “ถ้าเล่อเล่ออยากเป็นแม่ทัพหญิง งั้นก็ต้องมุ่งมั่นพยายามไปทางนี้ แต่เป็นแม่ทัพก็ต้องอ่านหนังสือ แบบนี้ถึงจะเข้าใจตำราการทหารและการจัดการกองทัพ”
เพราะเล่อเล่อมักจะชอบฝึกวิทยายุทธ และไม่ยอมเรียนหนังสือ
นางไม่คาดหวังให้เล่อเล่อกลายเป็นผู้หญิงที่รู้หนังสือและมารยาท เพียงแต่คิดว่าเด็กผู้หญิงต้องรู้หนังสือและอ่านหนังสือให้มาก การอ่านทำให้ฉลาดขึ้น ในภายภาคหน้าจะได้ไม่ถูกรังแกหรือถูกหลอก
เล่อเล่อฟังคำพูดนี้แล้วครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าอย่างจริงจัง “ตกลง ข้าจะอ่านตำราตามพี่ชาย ในภายภาคหน้าข้าจะเป็นแม่ทัพใหญ่อย่างแน่นอน”
หลายปีต่อมา เมื่อเล่อเล่อสวมชุดเกราะแล้วระลึกถึงภาพที่เกิดขึ้นในวันนี้ มักจะรู้สึกขอบคุณที่ตัวเองมีท่านแม่ที่มีเหตุมีผลมาก
ไม่เพียงไม่ทำลายความฝันของตน แต่ยังให้กำลังใจนางอย่างสูงสุด และแม้กระทั่งนำทางนางให้เรียนหนัก เพื่อที่นางจะได้ไม่ตกหลุมพรางของศัตรูในสนามรบ
เมื่อเห็นความแน่วแน่ในดวงตาของเล่อเล่อ ลั่วเสี่ยวปิงยิ้มและลูบศีรษะเล่อเล่อ “เล่อเล่อของเรายอดเยี่ยมที่สุด”
และจากนั้น ลั่วเสี่ยวปิงมองไปยังอานอาน
อานอานเห็นแม่มองมายังตัวเอง จึงเม้มริมฝีปากก่อนจะพูดว่า “ข้ารู้แล้วท่านแม่ ถ้าท่านพ่อไม่กลับมา ข้าจะไม่ตำหนิเขา”
แม้ใจเขายังคงรู้สึกว่าท่านพ่อควรใช้เวลาช่วงปีใหม่กับท่านแม่ก็ตาม
แต่เห็นได้ชัดว่าท่านแม่ไม่อยากให้เขาตำหนิท่านพ่อ งั้นเขาไม่ตำหนิก็ได้ อย่างน้อยที่ท่านพ่อไม่กลับมาก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผลอันสมควร
เมื่อลั่วเสี่ยวปิงได้ยินอานอานพูดอย่างนี้ ก็รู้สึกสบายใจเป็นที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...