แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 297

คนที่เรียกลั่วเสี่ยวปิงคือจ้าวซื่อ

สายตาของจ้าวซื่อที่มองลั่วเสี่ยวปิงเองก็แฝงแววเกลียดแค้น ประหนึ่งว่าที่ลูกสาวนางถูกพาไปเป็นเมียน้อยของไอ้แก่คนหนึ่งเป็นเพราะฝีมือของลั่วเสี่ยวปิงล้วน ๆ

ทว่าเพียงครู่หนึ่ง จ้าวซื่อก็เก็บซ่อนแววเกลียดแค้น ก่อนจะมองลั่วเสี่ยวปิงอย่างกระอักกระอ่วน กล่าวโทษว่า “เสี่ยวปิง แม้พวกข้าจะตัดขาดความสัมพันธ์กับเจ้าแล้ว แต่ไม่ว่ายังไงเสี่ยวอวี่ก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้า เจ้าเห็นเสี่ยวอวี่ลำบากทำไมถึงไม่ช่วยนาง? นางยังเพิ่งอายุสิบสี่เองนะ ทำไมจิตใจเจ้าถึงอำมหิตได้ขนาดนี้?”

พูดเสร็จ จ้าวซื่อก็เริ้มเช็ดน้ำตา “แม้พวกข้าจะเคยทำผิดต่อเจ้า แต่เสี่ยวอวี่นางยังเด็ก มีตรงไหนที่นางผิดต่อเจ้าบ้าง? สุดท้ายนางก็แค่หวังอยากให้พี่สาวอย่างเจ้าช่วยนาง ทั้งที่เจ้ามีความสามารถ ทำไมถึงไม่ช่วยนาง? จากนี้ไปหากคนในหมู่บ้านมีเรื่องอะไร งั้นเจ้าก็จะไม่ยิ่งนิ่งดูดายงั้นหรือ?”

ได้ยินจ้าวซื่อเอ่ยดังนั้น ลั่วเสี่ยวปิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

ไม่ได้เจอกันนาน ฝีปากของจ้าวซื่อนี่ดูท่าจะพัฒนาขึ้นไม่น้อย ถึงขั้นรู้จักพูดปลุกปั่นแล้วงั้นเหรอ?

เป็นไปอย่างที่คิด เมื่อลั่วเสี่ยวปิงมองไปที่เหล่าชาวบ้านที่ล้อมวงดูเรื่องสนุก ก็เห็นพวกเขาหลบสายตาหนี ไม่ยอมสบตานางสักคน

แม้พวกเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่ลั่วเสี่ยวปิงรู้ ว่าในใจคนพวกนี้ก็ยังคงต่อต้านนางเล็กน้อยเพราะคำพูดของจ้าวซื่อ

เป็นไปอย่างที่ลั่วเสี่ยวปิงคิด พวกชาวบ้านฟังคำพูดของจ้าวซื่อเข้าไปแล้วจริงๆ อีกทั้งยังรู้สึกว่าลั่วเสี่ยวปิงนั้นไม่มีความเห็นใจ

ลั่วเสี่ยวอวี่ยังเพิ่งจะอายุสิบสี่ อายุห่างจากลั่วเสี่ยวปิงถึงหกปี ปกติแล้วไม่มีทางที่จะมีความแค้นอะไรกันจริงๆแน่

ทั้งที่ครั้งนี้ลั่วเสี่ยวปิงสามารถช่วยได้ แต่กลับไม่ช่วย เห็นได้ชัดว่าไร้หัวจิตหัวใจ

นี่ถ้าวันหลังในหมู่บ้านเกิดเรื่องอะไรขึ้น งั้นลั่วเสี่ยวปิงก็จะเพิกเฉยหรือเปล่า?

พวกเขาคิดกับลั่วเสี่ยวปิงแบบนี้ ทว่ากลับไม่กล้าเผยออกมา เพราะพวกเขาต่างมีคนในครอบครัวที่ทำงานในโรงงานของลั่วเสี่ยวปิง พวกเขากลัวว่าคนในบ้านจะเสียงานที่เลี้ยงชีพพวกเขาไป

ส่วนพวกเขาในตอนนี้เอง ก็ไม่มีทางคิดเรื่องที่ลั่วเสี่ยวอวี่แย่งสามีลั่วเสี่ยวปิงต่อหน้านางโดยสิ้นเชิง ถึงแม้จะนึกขึ้นได้ ก็คิดแค่ว่าที่ลั่วเสี่ยวอวี่ทำแบบนี้ก็เพราะหมดหนทาง

สรุปคือ ผู้คนมักจะลำเอียงเข้าข้างผู้อ่อนแอโดยเสมอ

ชั่วขณะหนึ่งที่เหตุการณ์ตกอยู่ในความเงียบสงัด

จนกระทั่ง เสียงหลุดหัวเราะ ‘หึหึ’ ดังขึ้น

ผู้คนเงยหน้าขึ้น พลันเห็นว่าคนที่หัวเราะก็คือลั่วเสี่ยวปิง

พวกเขาขมวดคิ้ว

ลั่วเสี่ยวปิงนี่ยังยิ้มออกมาได้อย่างไรกัน?

แต่จ้าวซื่อเห็นรอยยิ้มของลั่วเสี่ยวปิงแล้ว กลับรู้สึกเพียงสังหรณ์ไม่ค่อยดี

เป็นไปอย่างที่คิด เห็นเพียงลั่วเสี่ยวปิงมองมาที่นาง มุมปากแต้มยิ้ม ทว่าแววตากลับแฝงความเยือกเย็น

“เมื่อกี้เจ้ายังบอกลั่วเสี่ยวอวี่อยู่เลยไม่ใช่เหรอ ว่าไปตระกูลจูก็เพื่อจะได้ใช้ชีวิตสุขสบาย มีคนมากมายที่อิจฉาแต่กลับไม่ได้ ทำไมตอนนี้ถึงมาเป็นห่วงว่านางจะลำบากกันล่ะ?” ลั่วเสี่ยวปิงเอ่ยเสียงประชดประชัน

“หรือว่าเจ้าเสียดายเงินที่ขายลูกสาว เลยอยากให้คนอื่นเสียแทน? ทำไมตอนกินข้าวถึงไม่เรียกคนอื่นมาช่วยเจ้ากินด้วยล่ะ?”

จ้าวซื่อถูกเปิดโปง พลันเผยสีหน้าเขียวระคนซีดเซียว

ทันใดนั้น ฟ่านลี่ฮัวก็เดินออกมาจากในบ้าน เอ่ยว่า “เสี่ยวปิง เจ้าพูดแบบนี้ได้ยังไงกัน? ตระกูลจูนี่มีศักดิ์มีอำนาจ มีหรือที่ป้ารองเจ้าไม่เอาเงินแล้วเขาจะยอมปล่อยเสี่ยวอวี่ไป? หากทำแบบนี้ได้ งั้นป้ารองเจ้าจะส่งลูกสาวตัวเองไปลงหลุมไฟทำไม?”

ลั่วเสี่ยวอวี่ยิ้มเย็น ตระกูลลั่วนี่ไม่ใช่ว่าแยกครอบครัวแล้วงั้นเหรอ? ทำไมตอนนี้ถึงสามัคคีกันขนาดนี้?

ฟ่านลี่ฮัวนี่ก็ฉลาดดังเดิม รู้จักกลบเกลื่อนคำพูด

ทว่า แล้วยังไงล่ะ?

ขายตัวลูกสาวเพื่อหวังเงินก็คือขายตัวลูกสาวเพื่อหวังเงิน นี่เป็นสิ่งที่ไม่มีทางหาเหตุผลมาแก้ตัวได้

“ป้ารองจ้าวขายลูกสาวตัวเองไปลงหลุมไฟหรือเปล่าข้าไม่รู้ เพียงแต่ป้าใหญ่ฟ่านเจ้าก็พูดแล้ว ว่าตระกูลจูนี่มีศักดิ์มีอำนาจ ข้าก็เป็นเพียงแค่สาวชาวบ้านธรรมดา แม้จะบอกว่าหาเงินได้นิดหน่อย แต่ก็มีแค่เงินเท่านั้น ป้าใหญ่ฟ่านบอกว่าเงินไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ งั้นทำไมเงินข้าถึงแก้ปัญหานี้ได้ล่ะ? หรือป้าใหญ่ฟ่านคิดว่าข้าจะสามารถต่อกรกับคนมีศักดิ์มีอำนาจงั้นเหรอ? ท่านยกยอข้าเกินไปแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง