แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 298

ฉีเทียนเห้าไม่ตอบคำถามของลั่วเสี่ยวปิงในทันที เอ่ยเพียงแค่ว่า “กลับไปก่อน”

ลั่วเสี่ยวปิงครุ่นคิด จะปรึกษาหารือกันที่หมู่บ้านก็ดูจะไม่เหมาะ นางจึงพยักหน้า

รอถึงบ้านแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ลากฉีเทียนเห้าไปที่ห้องนอนทันที ซ้ำยังรีบปิดประตู ไม่สังเกตเห็นสายตาคลุมเครือของผู้คนในลานที่มองมายังเรือนหลักเลยสักนิด

ย่าเจียงยังถึงกับเอ่ยชื่นชมว่า “หนุ่มสาวนี่ดีจริงๆเลยนะ กระปรี้กระเปร่าแบบนี้เสมอเลย”

คำชื่นชมนี้ทำให้สีหน้าของแม่นางจ้าวเต็มไปด้วยความเขินอายจนใบหูแดงก่ำ

แต่หลี่อิงที่เก็บผักอยู่ข้างๆกลับก้มหน้าลง แววตาเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ

ภายในบ้าน ฉีเทียนเห้าที่ประสาทหูดีได้ยินคำชื่นชมของย่าเจียง ก็ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย พลันหันไปมองลั่วเสี่ยวปิง “ข้าไม่รู้เลยจริงๆ ว่าเจ้าไม่จะอดใจรอไม่ไหวถึงเพียงนี้แล้ว”

“ข้าก็ต้องอดใจรอไม่ไหวอยู่แล้วสิ” ลั่วเสี่ยวปิงตอบทันทีโดยไม่แม้แต่จะคิด

ลั่วเสี่ยวอวี่เป็นเพียงสาวชาวบ้านธธรมดาคนหนึ่ง ทำยังไงจู่ ๆนายท่านจูชอบนางได้ในเวลาสั้นๆไม่กี่วัน

นี่มันไม่สมเหตุสมผล

ทว่าเห็นได้ชัดว่าฉีเทียนเห้ารู้ว่าเรื่องราวเป็นยังไง ดังนั้นนางจึงรีบร้อนอยากรู้

เพียงแต่ลั่วเสี่ยวปิงเพิ่งพูดจบ ก็พลันรู้สึกว่าบรรยากาศมันทะแม่ง ๆ

นางเงยหน้ามองฉีเทียนเห้า กลับเห็นฉีเทียนเห้ากำลังมองตนเองยิ้มๆ “ดูเหมือนว่าเมื่อคืนข้าจะยังพยายามไม่พอสินะ ถึงทำให้เจ้ารีบร้อนขนาดนี้”

พูดเสร็จ ฉีเทียนเห้าก็จะยื่นมือออกมา......

รอเดี๋ยว!

ลั่วเสี่ยวปิงถอยหลังกรูด พลางมองฉีเทียนเห้าอย่างระแวดระวัง “เจ้าคิดอะไรน่ะ? เพิ่งจะกลางวันแสกๆอยู่เลย”

นางก็แค่ลากฉีเทียนเห้ากลับเข้ามาในห้องเพื่อไขข้อสงสัยให้นาง ทำไมเขากลับอยากแปลงร่างเป็นหมาป่าซะงั้น?

กลางวันแสกๆแบบนี้ นางยังไม่หน้าด้านพอหรอกนะ

ฉีเทียนเห้าเผยสีหน้าบริสุทธิ์ “เจ้าลากข้าเข้ามาอย่างเร่งรีบขนาดนี้ ซ้ำยังปิดประตูห้องอย่างไม่อาจรีรอได้อีก เกรงว่าทุกคนคงจะคิดว่าเจ้าและข้าจะทำอะไรบางอย่าง”

ลั่วเสี่ยวปิงกระพริบตา

แล้วกระพริบตาอีก!

จนกระทั่งนางเพิ่งเข้าใจว่าคำพูดของฉีเทียนเห้าหมายความว่าอย่างไร ก็อดเอามือกุมขมับไม่ได้ พลางปริเสียง “อา” อย่างหงุดหงิด

ทันใดนั้น ก็มีเสียงของย่าเจียงดังลอดมาจากลาน “กลางวันแสกๆก็เร่าร้อนขนาดนี้ ต้องต้มน้ำให้นายหญิงอาบน้ำหรือเปล่า?”

เพราะหลังจากที่ลั่วเสี่ยวปิงปริเสียงร้องทีหนึ่ง ภายในบ้านก็เงียบสงัดลงครู่หนึ่ง ดังนั้นลั่วเสี่ยวปิงจึงได้ยินเสียงของย่าเจียงพอดี

ไม่รู้ว่าเพราะเขินอายหรือโกรธ ลั่วเสี่ยวปิงหน้าแดงก่ำ

นี่มันเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว!

อีกอย่าง ทำไมนางถึงไม่เคยรู้มาก่อนว่าย่าเจียงแม้จะมีอายุมาก แต่กลับพูดจา......ตรงไปตรงมาขนาดนี้?

สิบแปดบวกมาขนาดนี้ นางจะยอมรับก็ไม่ใช่ ปฏิเสธก็ไม่ดี......หงุดหงิดชะมัด!

ลั่วเสี่ยวปิงถลึงตาใส่ฉีเทียนเห้าที่เป็นตัวต้นเหตุ เป็นความผิดเขาทั้งนั้น!

นางจินตนาการออกเลยว่า หากตนเองออกไปตอนนี้ ไม่เพียงแค่จะแก้ความเข้าใจผิดไม่ได้ กลับกันยังจะสร้างความเข้าใจผิดใหม่ว่าฉีเทียนเห้าสั้นเล็กอีก

ช่างเถอะๆ ไม่สนแล้ว

“ว่ามาเถอะ ตกลงเจ้ารู้อะไรกันแน่?”

ลั่วเสี่ยวปิงสูดหายใจเข้าลึกให้ตัวเองใจเย็นลง ก่อนจะเอ่ยถามฉีเทียนเห้า

“เรื่องในวันนี้ เกิดขึ้นเพราะลั่วเสี่ยวจู๋” ฉีเทียนเห้าเองก็ไม่เย้าแหย่ลั่วเสี่ยวปิงต่ออีก พลันเริ่มพูดเรื่องจริงจัง

ที่แท้เพราะช่วงนี้ ความเป็นอยู่ของบ้านสี่เริ่มค่อยๆดีขึ้น บ้านสี่ตั้งแต่ที่ลั่วเสี่ยวปิงแต่งงานในวันนั้น พวกลั่วต้าโซ่วก็ไม่ได้ทำงานให้ลั่วเสี่ยวปิงอีก

แต่เดิมบ้านสี่ตัดฟืนขายให้ลั่วเสี่ยวปิงพอถูไถเลี้ยงชีพตัวเอง

ทว่าแม้จะเป็นแบบนี้ ความเป็นอยู่ของบ้านสี่กลับไม่เคยยากลำบาก ทั้งหมดนี้ก็ไม่รู้ว่าเพราะลั่วเสี่ยวจู๋ทำอาชีพอะไรถึงหาเงินได้

ก่อนวันขึ้นปีใหม่ตอนที่ซื้อของตรุษจีน ลั่วเสี่ยวจู๋บอกคนที่บ้านว่าจะไปซื้อของที่เมืองอำเภอ ลั่วเสี่ยวอวี่บังเอิญได้ยินพอดี

ลั่วเสี่ยวอวี่จึงตี๊อลั่วต้าโซ่ว จะให้ลั่วเสี่ยวจู๋พาเธอไปเมืองอำเภอให้ได้

ลั่วต้าโซ่วเดิมก็เป็นคนซื่อตรงอยู่แล้ว แม้จะเคยไม่พอใจที่ลั่วเสี่ยวอวี่แย่งคู่หมั้นของลั่วเสี่ยวจู๋ แต่ไม่ว่ายังไงลั่วเสี่ยวอวี่ก็คืออนุชน สุดท้ายหลังจากที่ร้องขอความเห็นของลั่วเสี่ยวจู๋แล้ว ก็ให้ลั่วเสี่ยวจู๋พาลั่วเสี่ยวอวี่ไปที่เมืองอำเภอ

สมัยนี้ ผู้หญิงบางคนทั้งชีวิตนี้แทบจะไม่เคยเข้าเมืองเลยด้วยซ้ำ นับประสากับเมืองอำเภอ?

ทันทีที่ลั่วเสี่ยวอวี่มาถึงเมืองอำเภอก็ลุ่มหลงตาลาย รู้สึกแปลกใหม่กับทุกสิ่งทุกอย่าง จากนั้นก็พลัดหลงกับลั่วเสี่ยวจู๋

รอจนกระทั่งตอนที่ลั่วเสี่ยวจู๋หาลั่วเสี่ยวอวี่จนเจอ ไม่รู้ว่าลั่วเสี่ยวอวี่ไปเจอกับตระกูลจูนายท่านใหญ่ได้อย่างไร ตระกูลจูนายท่านใหญ่ต้องใจลั่วเสี่ยวอวี่ตั้งแต่แรกเห็น จึงจะพากลับไปเป็นเมียน้อย

ยังดีที่ลั่วเสี่ยวจู๋ช่วยไกล่เกลี่ย ลั่วเสี่ยวอวี่จึงจะรอดตัวและโล่งอก ท้ายที่สุดก็ถูกลั่วเสี่ยวจู๋พากลับมาในหมู่บ้านภายใต้ความตระหนก

เมื่อฟังจบ ลั่วเสี่ยวปิงก็สงสัย “ทำไมถึงบังเอิญขนาดนี้? อีกอย่าง ตระกูลจูนายท่านใหญ่ทำไมถึงให้เกียรติลั่วเสี่ยวจู๋ยอมปล่อยลั่วเสี่ยวอวี่ไป?”

นางหยุดครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่อว่า “ที่สำคัญคือ เมื่อเทียบกับลั่วเสี่ยวอวี่ หน้าตาลั่วเสี่ยวจู๋เองก็ไม่ได้ถือว่าแย่

หากพูดถึงแต่ก่อน ลั่วเสี่ยวอวี่กินดี รูปลักษณ์มีน้ำมีนวลย่อมดูดีกว่าลั่วเสี่ยวจู๋

ทว่า ตอนนี้ลั่วเสี่ยวจู๋ก็ไม่ได้ผมแห้งติดกระดูกเหมือนแต่ก่อนแล้ว หน้าตาก็เริ่มดูดีขึ้น ไม่ได้แย่ไปกว่าลั่วเสี่ยวอวี่เลยสักนิด

หากนายท่านจูเห็นสองพี่น้อง ไม่พูดถึงว่าแย่งไปทั้งสองคน แม้จะแย่งเพียงคนเดียว ก็ควรจะเป็นลั่วเสี่ยวจู๋ถึงจะถูก

ฉีเทียนเห้าพยักหน้า “เจ้ารู้ไหมว่าเงินของลั่วเสี่ยวจู๋มาจากไหน?”

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินดังนั้น จู่ ๆในสมองก็พลันผุดความคิดบางอย่าง “เจ้าจะบอกว่า......เกี่ยวกับนายท่านจูนั่นงั้นเหรอ?”

ฉีเทียนเห้าพยักหน้า

“จากที่คนของข้าสืบมา ก่อนหน้าลั่วเสี่ยวจู๋เคยเข้าเมือง เพราะบังเอิญช่วยฮูหยินน้อยของตระกูลจูไว้ จึงมีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลจู ภายหลังก็ช่วยตระกูลจูใช้กลอุบายทำมาค้าขายได้สำเร็จ ดังนั้นตอนนี้ลั่วเสี่ยวจู๋จึงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับตระกูลจู”

ลั่วเสี่ยวปิง “เจ้าหมายความว่าที่ครั้งนี้ลั่วเสี่ยวอวี่ต้องตานายท่านจู แท้จริงแล้วเป็นแผนการของลั่วเสี่ยวจู๋งั้นหรือ?”

หากเป็นเช่นนี้จริงๆ งั้นลั่วเสี่ยวจู๋ต้องเป็นคนลับลมคมในขนาดไหน?

คนอื่นแย่งคู่หมั้นของนาง นางก็ให้คนคนนั้นไปเป็นเมียน้อยของตาแก่คนหนึ่ง วิธีการแก้แค้นนี้ช่างร้ายกาจยิ่งนัก

“ไม่เพียงแค่นี้” ฉีเทียนเห้าเอ่ย “คู่หมั้นของลั่วเสี่ยวจู๋ เจ้ารู้จักไหม?”

ลั่วเสี่ยวปิงพยักหน้า ซิ่วฉายคนนั้นของหมู่บ้านหูเจีย เพราะต้องใจลั่วเสี่ยวอวี่ จึงถอนหมั้นกับลั่วเสี่ยวจู๋แล้ว

“เมื่อปีก่อน เขาคบกับหญิงสาวคนหนึ่ง ครอบครัวของหญิงสาวคนนั้นตามรังควานมาถึงหมู่บ้านหูเจีย จะให้ซิ่วฉายนั่นรับผิดชอบ” ฉีเทียนเห้าเอ่ย

ตอนที่เห็นแววตาตกตะลึงของลั่วเสี่ยวปิง ฉีเทียนเห้าก็พูดเสริมว่า “ครอบครัวของหญิงสาวคนนั้นมีฐานะเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เคยมีอะไรกับคนใช้แล้วท้อง ทำแท้งแล้วร่างกายเสียหายจนไม่อาจอุ้มท้องได้อีก เรื่องนี้ตระกูลหูไม่รู้”

ลั่วเสี่ยวปิงฟังมาถึงตรงนี้ ก็พลันเอ่ยถามว่า “เรื่องนี้คงไม่ใช่ฝีมือของลั่วเสี่ยวจู๋ด้วยหรอกนะ?”

เห็นฉีเทียนเห้าพยักหน้า ลั่วเสี่ยวปิงก็เงียบลงเล็กน้อย

ลั่วเสี่ยวจู๋นี่อำมหิตจริงๆ คนอื่นนอกใจนาง นางก็ทำให้คนคนนั้นขาดลูกสิ้นหลานไม่สามารถสืบสกุลต่อได้อีก

นึกถึงการกระทำก่อนหน้าของลั่วเสี่ยวจู๋ที่อยากจะยื่นตัวเข้ามาใกล้ ลั่วเสี่ยวปิงก็พลันสัมผัสได้ถึงเพียงความเย็นเฉียบ

การกระทำนั้นของลั่วเสี่ยวจู๋ อาจจะแฝงด้วยเจตนาบางอย่างหรือเปล่า?

ขณะที่กำลังครุ่นคิด ฉีเทียนเห้าก็เล่าความจริงอีกเรื่องหนึ่ง ทำให้มุมมองของลั่วเสี่ยวปิงที่มีต่อลั่วเสี่ยวจู๋ต้องเปลี่ยนใหม่อีกครั้ง......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง