"เพียงแค่แม่นางพานสามารถแต่งงานกับต้าหลางของเรา พวกเราก็จะสามารถซื้อบ้านใหม่ข้างบ้านตระกูลพานเพื่อเป็นเรือนหอให้คู่บ่าวสาวได้ ในภายภาคหน้าเพียงแค่ต้าหลางปฏิบัติไม่ดีกับแม่นางพาน พวกเราก็จะสามารถไปสั่งสอนต้าหลางได้ถึงบ้าน และกล่าวถามสองสามีภรรยาได้"
"นอกจากนี้ หลานสาวมีนิสัยชอบเก็บตัว ข้ายังพอมีกำลังที่จะดูแลหลานสาว คงจะไม่ขอรบกวนแม่นางพานหรอก สินเดิมของหลานสาวข้าและตาเฒ่าจะเป็นคนรวบรวมเอง จะไม่ทำให้คู่บ่าวสาวต้องเป็นทุกข์มากเกินไปอย่างแน่นอน"
เพียงแค่พูดคำเหล่านี้ออกมา ไม่เพียงแต่คนอื่นๆ จะตกตะลึง จากต้าหลางก็มีสีหน้าที่ตกใจเหมือนกัน
"แม่ ท่าน......"
จางเฉินซื่อชำเลืองมองจางต้าหลาง "เจ้าอย่าเพิ่งพูดอะไรเลย"
"แต่ว่า....."
จางเฉินซื่อคาดหวังว่าจะได้ดิบได้ดี "แต่ว่าอะไรกัน? บัดนี้ไม่ใช่ว่าลูกสะใภ้สำคัญที่สุดหรือ? ข้ากับพ่อของเจ้าไม่ได้หลงๆ ลืมๆ นะ อีกทั้งยังมีเอ้อหลางอยู่อีกด้วย เจ้ายังมาเล่นอะไรอยู่อีกเล่า?"
จางต้าหลางไม่ได้พูดจา แต่ภายในใจของจางต้าหลางกลับสะเทือนใจและเป็นทุกข์
แต่ไหนแต่ไรพ่อแม่ก็ไม่เคยพูดเรื่องที่จะมาซื้อบ้านอยู่ข้างๆ บ้าน และก็ไม่เคยพูดว่านับตั้งแต่นี้เสี่ยวเหม่ยจะเข้ามายุ่งเรื่องของพวกเขา
ต้องการจะซื้อบ้านข้างๆ บ้านตระกูลพาน ต่อให้เป็นบ้านหลังเล็กๆ นั่นก็หลายร้อยตำลึง และจะต้องควักเงินในบ้านออกไปอย่างต่อเนื่องหรือไม่?
อีกทั้งเสี่ยวเหม่ย ชัดเจนว่าเป็นลูกสาวของเขา แต่ความหมายของแม่ก็คือ เขาแต่งงานกับเจ้าสาว ก็อาจจะไม่สนใจแม้กระทั่งลูกสาวได้
ถ้าเป็นเช่นนี้จริงๆ เช่นนั้นเขา......
จางต้าหลางเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง
และคนตระกูลพาน ก็รู้สึกสั่นสะเทือนเล็กน้อย
คำพูดนี้ของตระกูลจางล้วนพูดถึงสิ่งนี้ ซึ่งไม่อาจพูดได้ว่าไม่บริสุทธิ์ใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังรับปากว่าจะซื้อบ้านอยู่ข้างๆ เช่นนี้ หยิงหยิงจะได้ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้สายตาของตนเอง และไม่ถูกรังแกเหมือนเมื่อก่อนอีกใช่หรือไม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน?
ส่วนเด็กคนนั้น ไม่ต้องพูดถึงก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง และเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง มีปู่ย่าช่วยส่งเสีย ซึ่งไม่ได้เป็นไรมากจริงๆ
ตรงกันข้ามกับฉวี่จี้ ที่ก่อนหน้านี้ครอบครัวคิดว่าฉวี่จี้สามารถแต่งงานได้
แต่ตระกูลฉวี่ที่อยู่อำเภอใกล้เคียง ไม่ว่าอย่างไรฉวี่จี้ก็ไม่สามารถย้ายไปที่เมืองซีเหอได้
ระยะห่างที่ไกลเช่นนั้น ลูกสาวจะมีชีวิตอย่างไรใครจะไปรู้ได้?
พานหยิงหยิงอยู่นอกฉากกั้นห้อง อันที่จริงนับตั้งแต่เริ่มชอบจางต้าหลาง ภายในใจก็กระวนกระวายเป็นอย่างมาก กลัวว่าครอบครัวของจางต้าหลางจะดูถูกดูแคลนนาง รังเกียจที่นางเคยแต่งงานมาแล้วอีกทั้งไม่สามารถมีลูกได้
แต่พอจางเฉินซื่อพูดคำนี้ออกมา ความกังวลของพานหยิงหยิงก็ถูกขจัดไปโดยสิ้นเชิง เวลานี้ภายในใจของพานหยิงหยิงก็ทั้งตื้นตันใจทั้งดีใจ
ตรงกันข้ามกับการสั่นสะเทือนของตระกูลพาน สีหน้าของฉวี่จี้ไม่สู้ดีนัก
เขารู้ว่าความได้เปรียบของตัวเองอยู่ที่ไหน แต่เพราะสาเหตุที่ไม่สามารถอธิบายของสาวชนบทคนนั้นที่อยู่ตรงหน้า ความได้เปรียบของตัวเองก็ไม่ใช่ความได้เปรียบโดยสิ้นเชิง
สุดท้ายคนตระกูลพานก็กล่าวอำลาก่อน บอกว่าต้องการจะไปปรึกษาหารือกันสักหน่อย ในห้องโถงจึงเหลือเพียงคนสู่ขอของทั้งสองฝ่าย
หลังจากนายท่านพานและพานฮูหยินออกจากห้องโถงไป ก็เป็นธรรมดาที่จะไปถามความคิดเห็นของพานหยิงหยิง
ไม่ต้องเป็นห่วงแม้แต่น้อย พานหยิงหยิงก็จะต้องเลือกตระกูลจางอยู่แล้ว
ถ้าเป็นเมื่อก่อน บางทีคนตระกูลพานก็อาจจะเกลี้ยกล่อมอีกสักครั้ง แต่ครั้งนี้ คนตระกูลพานไม่มีใครเอ่ยปากโน้มน้าวเลยสักคน
เพราะว่าครั้งนี้ ที่พานหยิงหยิงเลือก คนตระกูลพานเองก็เห็นด้วย
ฉวี่จี้ไม่ได้ถูกเลือก เป็นธรรมดาที่จะต้องพาพ่อสื่อแม่สื่อและของหมั้นจากไป ตระกูลพาน ซานหลางพานเจ๋อหยวนเป็นเพื่อนสนิทของฉวี่จี้ จึงต้องการจะไปส่งเขา
ในห้องโถงก็เหลือเพียงสองตระกูลลั่วจางและลั่วเสี่ยวปิง นายท่านพานจึงเอ่ยถึงเงื่อนไข "ในเมื่อพวกท่านบอกว่าจะซื้อบ้านอยู่ข้างๆ บ้าน เช่นนั้นก็ไม่อาจพูดลอยๆ ขึ้นได้ อยากจะแต่งงาน ก็ต้องซื้อบ้านเสียก่อน"
ไม่ใช่ว่าตระกูลพานพูดจาไม่ดี แต่พวกเขากลัวว่าตระกูลจางจะพูดปากเปล่า ถึงเวลาก็จะต้องเสียใจ
จางเฉินซื่อ : "นี่เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว วันพรุ่งนี้.....ไม่สิ วันนี้พวกเราออกไปก็จะไปดูบ้านกันเลย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...