"ร่วมมือกับชาวบ้าน"ลั่วเสี่ยวปิงพูด
การเกษตร ป่าไม้ การประมงและการเลี้ยงสัตว์ต้องพัฒนาไปด้วยกัน พึ่งแค่แรงงานของตัวเองมันไม่ไหวหรอก มีแต่ร่วมมือกับหลายๆครอบครัว ถึงสามารถได้ผลประโยชน์ร่วมกันกับเกษตรกร
จริงๆแล้วก่อนหน้านี้ลั่วเสี่ยวปิงก็ได้ปรึกษาเรื่องนี้กับโอหยางฉี่หยู่ แต่ในระหว่างการดำเนินการ โอหยางฉี่หยู่ได้พบปัญหามากมาย เลยซื้อคฤหาสน์มาแห่งหนึ่งดำเนินการเอง
ลั่วเสี่ยวปิงถามแล้วก็รู้ว่าสิ่งที่ยุ่งยากที่สุดคือต้นทุนของเหล่าชาวบ้านมีไม่เพียงพอ ไม่มีเงินลงทุน และทั้งสองฝ่ายก็ไม่เชื่อถือกันด้วย ส่งผลให้เรื่องนี้ถูกปล่อยวางไป
หลังจากสองคนปรึกษากันแล้ว ในที่สุดลั่วเสี่ยวปิงก็เสนอแผนให้ : ไม่ว่าชาวบ้านจะเลี้ยงสัตว์หรือเพราะปลูก การลงทุนในระยะแรกฝั่งโอหยางฉี่หยู่เป็นคนรับผิดชอบ ส่วนผลที่ได้โอหยางฉี่หยู่จะเป็นคนรับซื้อ
สมมุติถ้าชาวบ้านเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ งั้นโอหยางฉี่หยู่จะเป็นผู้ให้ลูกไก่และลูกเป็ด
แต่การให้ก็ไม่ใช่ให้ฟรีๆ ต้องเซ็นสัญญาก่อนว่ารับไปกี่ตัว อัตราการอยู่รอดอยู่ที่เท่าไหร่ จะใช้ราคาเท่าไหร่ในการรับซื้อ และการรับซื้อจะเป็นไปตามเรทราคาที่กำหนดไว้
แบบนี้สามารถรับประกันผลประโยชน์ของชาวบ้านและฝั่งโอหยางฉี่หยู่ด้วย
เนื่องจากเงินมันเกี่ยวโยงกับอัตราการอยู่รอด เหล่าชาวบ้านก็จะตั้งใจปฏิบัติอย่างเต็มที่ ส่วนการกำหนดเรทราคามีประโยชน์อย่างหนึ่งคือ ถึงแม้เหล่าชาวบ้านขายต้นกล้าหรือลูกไก่ลูกเป็ดที่เกินไปให้คนอื่นเพื่อได้กำไรมาสองบาท ฝั่งของโอหยางฉี่หยู่ก็ไม่ถึงขั้นขาดทุนหรอก
แน่นอนแล้ว ในสัญญาก็ต้องระบุว่าผลผลิตที่ได้จะต้องขายให้แต่โอหยางฉี่หยู่ แต่ก็ต้องป้องกันว่ามีคนจะฉวยโอกาสในการแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว เพราะเป็นไปไม่ได้ที่สั่งให้คนไปเฝ้าชาวบ้านเหล่านั้นอยู่ตลอดใช่ไหม?
ส่วนการดำเนินการ ลั่วเสี่ยวปิงจะยังไม่เข้าร่วม นางแค่เสนอแผนก่อน
จัดการปัญหาด้านการเกษตร ป่าไม้ การประมงและการเลี้ยงสัตว์ต่างๆแล้ว โอหยางฉี่หยู่ก็เริ่มพูดเรื่องร้านอาหารกับลั่วเสี่ยวปิง
ร้านอาหารก็เตรียมเสร็จแล้ว แต่การฝึกอบรมพ่อครัวเป็นเรื่องที่ยากมาก
เพราะร้านอาหารสามสิบกว่าแห่ง แต่ละแห่งมีพ่อครัวหลายคน ก็ต้องใช้พ่อครัวหลักร้อยคนขึ้นไป ถึงแม้พ่อครัวหลักร้อยคนมันหาไม่ยาก แต่อยากหาพ่อครัวที่ฝีมือดีมันไม่ง่ายหรอก
"เรื่องนี้ง่ายมาก"ได้ยินว่าเป็นเรื่องนี้ สีหน้าของลั่วเสี่ยวปิงดูสบายมาก"เจ้าร่วมมือกับข้าราชการในพื้นที่นั้น จัดการแข่งขันประกวดพ่อครัว"
จัดการแข่งขันในแต่ละเมือง ยังกลัวจะไม่มีพ่อครัวอีกหรือ?
"ถึงเวลานั้นพ่อครัวก็มี คนก็มี แล้วจะรวบรวมเงินของคนเหล่านั้นยังไง ก็อยู่ที่เจ้าแล้ว"ในเวลานี้ ลั่วเสี่ยวปิงยอมเป็นที่ปรึกษามากกว่า
แน่นอนว่า โอหยางฉี่หยู่ก็ขาดแค่ที่ปรึกษามาให้คำปรึกษาเท่านั้น ความสามารถในการดำเนินการของเขาแข็งแกร่งมาก
โอหยางฉี่หยู่คุยกับลั่วเสี่ยวปิงมาหลายชั่วโมง ลั่วเสี่ยวปิงได้เสนอวิธี'เลี้ยงไก่ในป่าไผ่' 'เลี้ยงปลาในทุ่งนา' 'เลี้ยงเป็ดในแอ่งน้ำ' 'ปลูกผลไม้ในภูเขา'และวิธีอื่นๆ
หลังจากคุยกันเสร็จ โอหยางฉี่หยู่ก็รีบไปดำเนินการ
เวลาผ่านไปอีกสิบวันอย่างรวดเร็ว
สิบวันนี้ ชั่วเสี่ยวปิงยุ่งมาก
พริกในหมู่บ้านและยาในหมู่บ้านเฉินเจียเกือบจะปลูกกันแล้ว ส่วนจางเสี่ยวจวนหลังจากที่เผาขวดบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเสร็จ ก็เผาเซรามิคชุดแรกออกมาได้
ตอนนี้ร้านผักนอกฤดูกาลของลั่วเสี่ยวปิงก็ปิดทิ้งไปแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงเลยเปลี่ยนเป็นร้านขายเซรามิค และหาผู้เชี่ยวชาญมาดูแล
แน่นอนว่า ตลาดขายเซรามิคที่สำคัญที่สุดของลั่วเสี่ยวปิงไม่ใช่เพียงเมืองหลินอานหรือเหลียงโจวเท่านั้น
เซรามิคของจางเสี่ยวจวนมีเกรดสีที่ดี ลายน้ำแข็งแตกก็ดูแปลกใหม่และสวยงาม และลั่วเสี่ยวปิงก็ได้ใส่สิ่งอื่นลงไปด้วย ถึงแม้ขายในเมืองหลินอานอย่างเดียว ก็จะขายดีมาก
และในเวลานี้คนที่จางเอ้อหลางหามาให้นางจากทางใต้ก็มาพอดี คนเหล่านี้ก่อนหน้านี้มีอาชีพเป็นผู้คุ้มกัน แต่หน่วยคุ้มกันนั้นบริหารลงไปไม่ได้ พวกเขาไม่มีทางออก จางเอ้อหลางเลยเลี้ยงดูพวกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...