แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 361

ย่าเถียนมองผู้หญิงที่นั่งอยู่ในบ้านอย่างไม่มั่นใจเล็กน้อย พลางไม่กล้าปริปากอยู่ชั่วขณะหนึ่ง

แต่เห็นบุตรชายสองคนข้างๆและสีหน้าของหลี่เหล่าโถว หลี่เหล่าไท่ก็มั่นใจเล็กน้อย ดังนั้นจึงเผยสีหน้าเคร่งขรึม เอ่ยว่า “เจ้าคือน้องสาม?”

น้องสาม คือชื่อของหลี่ชุยหวนก่อนที่นางจะถูกขาย

ย่าเถียนรู้สึกเพียงแค่ผู้หญิงสง่าผ่าเผยที่นั่งอยู่ข้างบนที่สวมชุดผ้าไหม ใบหน้าอวบอิ่ม ผิวขาวนวลเนียนราวกับฮูหยินใหญ่ ช่างเหมือนกับน้องสามนัก

“ท่านแม่—“ หลี่ชุยหวนเอ่ยเสียง

เพียงแต่ไม่ได้เจอกันนานหลายปี ใบหน้าของหลี่ชุยหวนไม่เผยแววดีใจหรือตื่นเต้นเลยสักนิด แม้แต่น้ำเสียงที่พูดก็ฟังดูราบเรียบ

ทว่าย่าเถียนกลับโมโห พลันปริปากตำหนิว่า “นางตัวถ่วง ตัวเองมั่งคั่งแล้วก็ไม่ดูเลยว่าพ่อแม่กับน้องชายเจ้ายังอยู่บ้านกินเปลือกข้าวกลืนผักป่า ผ่านไปนานหลายปีถึงจะกลับมาที อย่างเจ้านี่เรียกอกตัญญูรู้หรือเปล่า?”

ย่าเถียนไม่สนหรอกนะว่าเมื่อกี้ตัวเองเพิ่งกินเนื้อไปหรือเปล่า เศษเนื้อยังติดร่องฟันอยู่เลย

นางรู้เพียงแค่ว่า ลูกสาวตรงหน้าน่าจะมั่งคั่งแล้ว นางต้องรีดเงินบนตัวนางถึงจะถูก

หลี่ชุยหวนเพิ่งคลอดลูกได้ไม่นาน สีหน้าดูซีดเซียวเล็กน้อย

เห็นแม่ตัวเองด่านางแบบนี้ แววตานางพลันเผยแววเกลียดแค้นแวบหนึ่ง กลับไม่อยากก่อปัญหาเพิ่ม จึงเอาแท่งเงินออกมาจากอกเสื้อแล้ววางไว้บนโต๊ะทีเดียว

แท่งเงินนั่น ดูแล้วน่าจะมีราคาห้าบาทสองสลึง

“ข้าเพิ่งคลอดเสร็จ ต้องการพักฟื้นอยู่ที่นี่ไม่กี่วัน ท่านช่วยข้าเตรียมซุปบำรุงร่างกาย เงินที่เหลือก็เป็นของท่าน”

ขณะที่พูด แววตาของหลี่ชุยหวนก็ถึงขั้นฉายแววรำคาญ

ย่าเถียนพอเห็นเงินก็ตาลุกวาว พลันเปลี่ยนเป็นสีหน้ายิ้มแย้มทันที

ต้องรู้ไว้ว่า ตอนที่นางขายลูกสาวไปเป็นเมียเลี้ยง ยังขายได้ไม่ถึงสองเหรียญเงินเลยด้วยซ้ำ

ย่าเถียนเห็นแก่เงิน จึงตัดสินใจห่วงใยลูกสาว ทว่าเห็นลูกสาวไม่แยแส จึงมองไปยังทารกข้างๆที่กำลังร้องไห้

“เจ้าเด็กนี่ทำไมถึงร้องไห้ล่ะ ย่าปวดใจไปหมดแล้ว”

ปากพูดไปพลาง ย่าเถียนก็เดินไปไกล้ทารกน้อย พลันดูเพศของเด็กอย่างตาเร็วมือไว เมื่อเห็นว่าเป็นเด็กผู้หญิง ดวงตาก็เผยแววรังเกียจแวบหนึ่ง

หลี่ชุยหวนมองเด็กคนนั้นครู่หนึ่ง สีหน้าชะงักเล็กน้อย เอ่ยว่า “หลังจากต้มซุปบำรุงร่างกายให้ข้าเสร็จ ท่านก็คิดวิธีหานมมาให้เขาหน่อย”

ย่าเถียนได้ยินดังนั้น ก็เอ่ยถามทันทีว่า “เจ้าเพิ่งคลอดเองไม่ใช่หรือไง? ทำไมไม่ให้นมเอง? ไปหานมยังต้องเปลืองแรงอีก สู้......”

“เงินนี่ข้าให้ท่าน” หลี่ชุยหวนพูดขัดย่าเถียน “เร็วๆนี้สามีข้าจะมารับข้าแล้ว ท่านทำตามที่ข้าพูดก็พอ อย่างอื่นที่ไม่ควรถามก็อย่าถาม ที่ไม่ควรพูดก็อย่าพูดจะดีที่สุด”

พูดจบ หลี่ชุยหวนก็วางเงินอีกก้อนหนึ่ง ไม่อยู่ที่ถางวูอีก ตัวเองเลือกห้องนอนห้องหนึ่งก็เข้าไปอยู่ทันที

ด้วยความที่เห็นแก่เงิน คนตระกูลหลี่ก็ไม่มีใครว่าหลี่ชุยหวน

ส่วนเด็กคนนั้นก็ยิ่งอยู่ยิ่งร้องไห้หนัก ย่าเถียนไม่อยากเสียดายเงินไปหานมมาให้เด็ก จึงใช้ซุปข้าวมาทดแทน

ห้าวันผ่านไป ลั่วต้าฝูก็มารับหลี่ชุยหวน

ลั่วต้าฝูมา ไม่ทักทายคนตระกูลหลี่ และก็ไม่ได้ไปดูเด็ก แต่กลับเข้าไปในห้องของหลี่ชุยหวนทีเดียว......

“ข้ายังจำได้แม่น ตอนนั้นเพราะสงสัยใคร่รู้ ก็เลยไปแอบฟัง” ย่าเถียนนึกย้อนถึงเรื่องราวเมื่อหลายปีก่อน พลางปริปากเล่า

“กลับคิดไม่ถึง ว่าจะได้ยินความลับใหญ่เรื่องหนึ่ง”

ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้พูดขัดย่าเถียนที่กำลังนึกย้อนความทรงจำ และไม่ได้เร่งให้นางรีบเข้าประเด็น เพราะยังไงนางก็ไม่ได้รีบอะไร

“ข้าได้ยินพวกเขาบอกว่า ไม่เห็นใครมาหาเด็ก กลับบ้านได้แล้ว ข้าก็รู้สึกประหลาดใจ จึงแอบฟังต่อ ได้ยินพวกเขาบอกว่าสับเปลี่ยนลูกแล้วอะไรสักอย่าง ให้ลูกไปตระกูลร่ำรวยเสวยสุข ครุ่นคิดว่าจะฆ่าเด็กในผ้าห่อตัวทารกให้ตายยังไง......”

“ยายแก่อย่างข้า มีหรือที่จะกล้าฟังต่อ ข้าก็เลยหนีไป แต่พวกเขาไปแล้ว เด็กกลับไม่ได้ไปด้วย ข้าคิดว่าก็ไม่ใช่เด็กบ้านตัวเอง ก็เลย......”

พูดมาถึงตรงนี้ ย่าเถียนก็มองลั่วเสี่ยวปิงแวบหนึ่งโดยอัตโนมัติ แววตาดูหวั่นเกรงเล็กน้อย ไม่กล้าพูดต่ออีก

ลั่วเสี่ยวปิงยกยิ้มเย็น “อยากฆ่าให้ตายหรือเอาไปขายล่ะ?”

ย่าเถียนสะดุ้งตกใจ พลันรีบโบกมือรัวๆ “ไม่กล้าหรอกๆ......”

ลั่วเสี่ยวปิงไม่พูดอะไร เพียงมองท่าทางร้อนตัวของย่าเถียนอย่างเย็นชา

“สรุปก็คือ หลังจากที่พวกเขาจากไปเป็นครึ่งวัน ตอนที่ข้ากำลังเครียดว่าจะเอายังไงกับเด็ก พวกเขาก็หวนกลับมารับเด็กไปแล้ว ข้ากลัวว่าจะมีปัญหา นางเองก็ไม่ได้จะมาอยู่อาศัยกับข้า ก็เลยไม่เคยติดต่อหากันอีก”

พูดจบ ย่าเถียนก็มองลั่วเสี่ยวปิง “ข้ารู้แค่นี้จริงๆ เจ้าอย่าแจ้งความเลยนะ”

สิ่งที่ย่าเถียนไม่กล้าพูดคือ ตอนนั้นนางได้ยินหลี่ชุยหวนเอ่ยว่า “ตระกูลสูงศักดิ์” ไม่ใช่ตระกูลร่ำรวย ไม่แน่อาจจะเป็นตระกูลที่มีอำนาจตัดหัวคนขาดเลยก็เป็นได้

หากไม่ใช่เช่นนี้ มีหรือที่หลายปีมานี้นางจะไม่รีดไถเงินจากลูกสาวตัวเอง? มีหรือที่ตอนนี้นางจะกลัวเจอทางการ? ทั้งหมดนี่ก็เพราะกลัวถูกตัดหัวขาดไม่ใช่หรือไง?

ทว่านางเองก็ไม่ได้โง่ ไม่มีทางยอมรับผิดทุกอย่างหรอก

ลั่วเสี่ยวปิงฟังมาถึงตรงนี้ ในใจก็เริ่มเข้าใจบ้างแล้ว

นางน่าจะถูกอุ้มตัวไปจากพ่อแม่แท้ๆของตัวเอง ส่วนลูกของลั่วต้าฝูก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะอยู่ข้างกายพ่อแม่แท้ๆของนาง อีกทั้งพ่อแม่นางถ้าไม่รวยก็ต้องมีตำแหน่งสูงศักดิ์

เพียงแต่ แม้จะเป็นเช่นนี้ นางเองก็ไม่มีความคิดที่จะกลับไปหาพ่อแม่ของตัวเอง

อย่าเพิ่งพูดถึงว่าตัวเองไม่ใช่เจ้าของร่างคนเดิม ไม่มีความสนใจที่จะไปหาพ่อแม่ของเจ้าของร่างคนเดิมมากนัก แค่พูดถึงเรื่องบุญคุณกำเนิดและเลี้ยงดู แม้จะกลับไปหาพ่อแม่แท้ๆของเจ้าของร่างคนเดิมแล้วยังไง?

มีลูกสาวที่เลี้ยงดูอยู่ข้างกายมาตั้งแต่เด็ก หากนางไปหาอีก ไม่แน่ก็อาจจะกลายเป็นลูกที่จะว่าในก็ไม่ใช่นอกก็ไม่เชิง บางครั้งความสัมพันธ์ทางสายเลือดก็เทียบกับความสัมพันธ์ที่อยู่ด้วยกันมาทั้งเช้าเย็นไม่ได้ นางไม่อยากกลับไปหาแล้วเพิ่มปัญหาให้ตัวเองหรอกนะ

ในขณะพที่ลั่วเสี่ยวปิงกำลังใช้ความคิด ย่าเถียนเห็นลั่วเสี่ยวปิงไม่พูดอะไรมาเนิ่นนาน พลันอดร้อนรนใจขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้

“เจ้า......ข้าพูดในสิ่งที่ควรพูดไปหมดแล้ว เจ้าจะไม่ไปแจ้งความแล้วใช่หรือเปล่า?”

ลั่วเสี่ยวปิงหยุดครุ่นคิด ก่อนจะมองไปยังย่าเถียน “จะให้ข้าไม่แจ้งความก็ย่อมได้......”

ย่าเถียนตาเป็นประกาย

ลั่วเสี่ยวปิง “แต่พวกเจ้าอย่ามาปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีก ไม่งั้นเรื่องในตอนนั้น......”

“ไม่หรอกๆ ฉันจะไม่สร้างปัญหาให้เจ้าอีกแล้ว” ย่าเถียนไม่รอลั่วเสี่ยวปิงพูดจบ ก็พลันรีบรับปากรัวๆ

นางจะยังกล้าปรากฏตัวต่อหน้าลั่วเสี่ยวปิงได้ยังไงกัน?

แม้การเอาเปรียบก็สำคัญ แต่การรักษาชีวิตให้รอดนั้นสำคัญที่สุดแล้ว

ลั่วเสี่ยวปิงโบกมือ “เจ้าไปเถอะ”

ลั่วเสี่ยวปิงกับย่าเถียนพูดอะไรกันในบ้าน คนอื่นๆไม่มีใครรู้ ทุกคนเห็นเพียงแค่ว่าหลังจากที่ย่าเถียนออกมาจากบ้าน ก็รีบพาหลานชายหลานสาวที่ดูท่าทางไม่เต็มใจไปจากร้านเมืองแห่งอาหารทันที ประหนึ่งถูกผีไล่ตามหลังก็ไม่ปาน

ส่วนชุนวัง หลังจากที่ลั่วเสี่ยวปิงออกคำสั่งทางสายตา ก็ไม่ได้ไปแจ้งความจริงๆ เพียงแค่อยู่ที่หน้าประตูชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ณ นอกร้านเมืองแห่งอาหาร เมื่อเห็นครอบครัวย่าเถียนที่จากไปอย่างหมดสภาพ ลั่วเหอซิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในตรอกตรงข้ามกับร้านเมืองแห่งอาหารก็เผยสีหน้าถมึงทึง

“พวกสวะไร้ประโยชน์!”

หลังจากสบถด่า ลั่วเหอซิ่งก็หันตัวจะเดินจากไป

ทว่า เพิ่งหันตัวไป ก็พลันรู้สึกมืดมนตรงหน้า และถูกถุงกระสอบคลุมหัวทีเดียว......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง