แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 39

“ไอ้คนรนหาที่ตาย หากว่าเหวี่ยงจนประตูบ้านข้าพังก็ไสหัวกลับไปตระกูลเมี่ยวของเจ้าไปซะ ตระกูลจางของข้าเลี้ยงลูกสะใภ้ที่ทำเรื่องเช่นนี้แบบเจ้าไม่ไหว”

เดิมทีจางเฉินซื่อก็นิสัยดุดัน เมี่ยวชุ่ยหลานล้วนเป็นเช่นนี้แล้ว นางยังจะอดทนได้อีกอย่างไร? ด้วยเหตุนี้จึงเปิดจากแล้วด่า

หลังจากด่าเสร็จ จางเฉินซื่อก็เพ่งมองไปทางต้าหลางอีกครั้ง “ยังไม่คุมภรรยาของเจ้าให้ดีๆอีก ตระกูลจางของเราก็สามารถถูกนางกระทุ้งจนทะลุฟ้าแล้ว”

ต้าหลางสีหน้าไม่น่าดู แต่กลับกลัวแม่ของตัวเองจะโกรธ ดังนั้นจึงเกลี้ยกล่อม “ท่านแม่ ท่านอย่าโมโห ข้าจะว่ากล่าวนาง”

พูดพลาง ต้าหลางก็เทเห็ดในตะกร้าสะพายหลังลงบนปุ้งกี๋บนพื้น กล่าวต่อทุกคน “ข้าขึ้นเขาไปเก็บเมล็ดสนกลับมาอีกสักหน่อย”

เก็บเห็ดตลอดทั้งตอนกลางวัน กลับไม่ได้เก็บเมล็ดสน ยังไงก็มีราคาทั้งหมด แบกรับมาอีกสักหน่อยก็ดี แม่และน้องชายของเขาจะได้ไม่ต้องเหนื่อย

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินดังนั้นก็รีบชี้แจง “เมล็ดสนพี่ต้าหลางแบกไปไว้ที่บ้านข้าโดยตรงก็ได้แล้ว”

เมล็ดสนไม่เหมือนกับเห็ด ไม่เพียงหนัก นางยังต้องแปรรูปอีก หากว่าวางไว้ที่ตระกูลจางกลับจะไม่สะดวก

ต้าหลางพยักหน้า เดินออกไปด้วยความกลัดกลุ้มแล้ว

มองดูต้าหลางที่มีเงาหลังค่อมๆเล็กน้อย ลั่วเสี่ยวปิงก็อดทอดถอนใจไม่ได้

สู่ขอภรรยาต้องสู่ขอคนที่มีคุณธรรมความสามารถจริงๆ ในความทรงจำของนางจำได้ว่าพี่ต้าหลางก็เป็นคนดีผู้หนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้แต่งงานกับเมี่ยวชุ่ยหลานก็เป็นชายหนุ่มที่มีชีวิตชีวาเต็มไปด้วยพลัง

แต่ตอนนี้กลับมีเมี่ยวชุ่ยหลานภรรยาที่ไม่เป็นที่ชื่นชอบเช่นนี้ ทำให้นางที่แม้ว่าอยากจะลากดึงพี่ต้าหลางก็ต้องไตร่ตรองแล้ว

หลังจากต้าหลางจากไป ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้อยู่ต่อนาน พาเด็กทั้งสองไปบอกลากับจางเฉินซื่อ

ลั่วเสี่ยวปิงมือหนึ่งหนึ่งคนจับมือพาเด็กทั้งสองเดินเส้นทางเล็กกลับบ้าน เพียงแต่ตลอดทางเด็กทั้งสองนิ่งเงียบเป็นอย่างมาก จับมือของลั่วเสี่ยวปิงไว้แน่น

ชั่วขณะนั้น ลั่วเสี่ยวปิงก็ยิ่งมั่นใจแล้วว่าขณะที่อยู่ตระกูลจางเด็กทั้งสองจะต้องเกิดอะไรขึ้นแล้ว

เดิมทียังตั้งใจว่ารอให้กลับถึงบ้านแล้วค่อยถาม แต่เวลานี้ลั่วเสี่ยวปิงกลับอดทนไม่ได้แล้ว หยุดฝีเท้าลง นั่งยองลง มองตรงไปที่เด็กทั้งสอง

“บอกแม่มา วันนี้เกิดอะไรขึ้น?”

“ท่านแม่......”

“ท่านแม่ เรื่องอะไรก็ไม่มี”

เล่อเล่อต้องการจะเปิดปากในเวลานั้น อานอานกลับเปล่งเสียงออกมาก่อนแล้ว

เล่อเล่อมองดูพี่ชายของตัวเองอย่างงงัน ราวกับว่าไม่เข้าใจเล็กน้อย

ทั้งๆที่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ทำไมพี่ชายถึงบอกว่าเรื่องอะไรก็ไม่มี?

ลั่วเสี่ยวปิงเห็นเด็กทั้งสองเป็นเช่นนี้ อดไม่ได้ที่จะมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา มองดูอานอานโดยตรง “อานอาน แม่รู้ว่าเจ้าฉลาดกว่าเด็กคนอื่นๆ และรู้เรื่องเป็นอย่างมาก ไม่อยากให้แม่เป็นห่วง แต่อย่างแรกเจ้าต้องจำไว้คือ ตอนนี้เจ้ายังเป็นเพียงเด็กที่อายุไม่ถึงห้าขวบคนหนึ่ง แต่แม่เป็นผู้ใหญ่ ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แม่ก็จะขวางไว้อยู่ด้านหน้าของพวกเจ้า”

อานอานเด็กคนนี้โตก่อนวัยเกินไปแล้ว ความคิดก็รอบคอบเกินไป นางไม่ปรารถนาให้เขาเป็นเช่นนี้

อย่างน้อย เด็กผู้หนึ่งที่อายุสี่ห้าขวบ ไม่ควรจะแบกรับมากมายเกินไป นางไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม ในเมื่อนางมาแล้ว ก็คิดต้องการให้เด็กทั้งสองเติบโตขึ้นอย่างปลอดภัยไร้กังวล

อานอานได้ยินคำพูดของท่านแม่ คิ้วน้อยๆขมวดแน่นขึ้น สีหน้าท่าทางน้อยๆกลับมีความรู้สึกน้อยใจนิดหน่อยเพราะสีหน้าท่าทางท่านแม่ของตัวเองเคร่งขรึม

อย่างไรเสีย จะโตเกินวัยเพียงไร เขาก็ยังเป็นเพียงเด็กผู้หนึ่งที่อายุไม่ถึงห้าขวบ

“แต่ว่า ท่านแม่อานอานก็อยากจะปกป้องท่านแม่” ดวงตาทั้งคู่ของอานอานเปล่งประกาย แฝงด้วยความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่น “อานอานเป็นพี่ชาย ก็ปกป้องน้องสาวได้”

ได้ฟังคำพูดของอานอาน ลั่วเสี่ยวปิงก็รู้สึกปวดใจและซาบซึ้งทันที น้ำตาจะพรั่งพรูขึ้นมาแต่ก็ฝืนกลั้นไว้ “อานอาน เจ้าต้องรู้ว่า แม่ตั้งชื่อพวกเจ้าว่าอานอานเล่อเล่อ ก็เพราะอยากให้เจ้าและน้องสาวใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและมีความสุข เติบโตมาอย่างปลอดภัยไร้กังวล ไม่ได้ให้เจ้ามาแบกรับอะไรมากมายขนาดนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย”

พูดพลาง สีหน้าท่าทางของลั่วเสี่ยวปิงก็อ่อนลง เอื้อมมือออกไปลูบศีรษะของอานอาน “อานอานคิดต้องการปกป้องแม่ แม่ดีใจเป็นอย่างมาก แต่หลังจากที่อานอานของเราโตแล้วก็มาปกป้องแม่ได้ใช่หรือไม่? ตอนนี้ก็ให้แม่ปกป้องอานอานดีหรือไม่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง