แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 40

เด็กทั้งสองมีความสงสัยต่อผู้ชายที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน สิ่งนี้ลั่วเสี่ยวปิงคิดไว้ล่วงหน้าแล้ว

แต่ว่าลั่วเสี่ยวปิงกลับไม่เคยคาดคิดว่าเล่อเล่อจะคิดว่าชายที่บนเตียงนี้เป็นพ่อ ลั่วเสี่ยวปิงตกใจจนเกือบจะสำลักน้ำลายของตัวเอง

เด็กต้องการมีพ่อ สิ่งนี้นางพอจะเข้าใจได้ แต่ถามมาอย่างกะทันหันเช่นนี้ ก็ทำให้นางตกใจขึ้นมาจริงๆ

เพียงแต่มองไปที่ดวงตาน้อยๆที่ตื่นเต้นและคาดหวังนั่นของเล่อเล่อ ลั่วเสี่ยวปิงก็ทำใจไม่ได้ที่จะพูดความจริง

แต่ทำใจไม่ได้ในจุดนี้ก็ไม่สามารถหลอกเด็กๆทั้งสองว่าผู้ชายที่นอนอยู่ตรงหน้าเป็นพ่อของพวกเขาได้นี่ ด้วยเหตุนี้ลั่วเสี่ยวปิงจึงคิดถึงข้อแก้ต่างขณะที่พูดกับจางเฉินซื่อพวกเขา นั่งยองๆลง และมองตรงไปที่เด็กทั้งสอง

“อานอานเล่อเล่อ ลุงท่านนี้เป็นเพื่อนของท่านพ่อพวกเจ้า ตอนนี้เขาพบกับคนไม่ดีได้รับบาดเจ็บ แม่ทำได้เพียงพาเขากลับมาอยู่ที่บ้านของพวกเราระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น”

อานอานได้ยินดังแล้วก็โล่งใจ แต่เล่อเล่อกลับมีสีหน้าผิดหวัง

ปฏิกิริยาที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงของเด็กทั้งสอง ทำให้ลั่วเสี่ยวปิงสับสนเล็กน้อย

ที่เล่อเล่อต้องการพ่อก็เป็นเรื่องปกติ แต่อานอานโล่งใจเรื่องไปยังไงกันแน่?

ไม่รอให้ลั่วเสี่ยวปิงคิดจนเข้าใจ เล่อเล่อก็ถามลั่วเสี่ยวปิง “ท่านแม่ เพื่อนของท่านพ่ออยู่ที่นี่ เช่นนั้นท่านพ่อก็จะกลับมาใช่หรือไม่?”

ลั่วเสี่ยวปิง“.......”

เป็นดังคาด คำโกหกหนึ่ง ต้องใช้คำโกหกอีกมากมายนับไม่ถ้วนมาทำให้สมบูรณ์

ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกเหนื่อยใจมาก

เด็กๆยังเล็กเกินไป ลั่วเสี่ยวปิงทำใจไม่ได้ที่จะต้องโกหกพวกเขาว่าท่านพ่อตายแล้ว

แน่นอน นางก็ไม่สามารถพูดได้ว่าตัวนางเองก็ไม่รู้ว่าพ่อของพวกเขาเป็นใคร

ด้วยเหตุนี้จึงทำได้เพียงกล่าว “อันนี้แม่ไม่รู้ ต้องรอให้ลุงคนนี้ฟื้นขึ้นมาแล้วถามเขาแล้วล่ะ?”

ลั่วเสี่ยวปิงก็จนปัญญา ไม่รู้จริงๆว่าจะต้องทำให้คำโกหกนี้สมบูรณ์ได้อย่างไร ทำได้เพียงโยนคำถามไปให้ฉีเทียนเห้าที่ยังหมดสติอยู่

ส่วนฉีเทียนเห้าจะร่วมมือในการตอบคำถามเด็กทั้งสองหรือไม่ นี่ก็ไม่ได้อยู่ในการไตร่ตรองของนาง

เพราะ หากว่าเขาไม่ร่วมมือขึ้นมาจริงๆ นางก็ทำได้เพียงขับไล่คนแล้ว

ใครเอาปัญหามาใครก็รับผิดชอบ หากว่าไม่รับผิดชอบ เช่นนั้นก็เป็นธรรมดาว่าให้อยู่ขวางหูขวางตาไม่ได้แล้ว

ความคิดจิตใจของลั่วเสี่ยวปิงล้วนอยู่บนตัวของเล่อเล่อ และไม่ได้สังเกตเห็นอานอานที่อยู่ด้านข้างว่าหลังจากที่ได้ฟังคำตอบของนางแล้ว ในดวงตามีความโกรธเคือง

รอจนขณะที่ลั่วเสี่ยวปิงสนใจอานอานแล้ว ความโกรธเคืองในตาของอานอานก็หายไปนานแล้ว

เห็นเพียงแค่อานอานมองดูผู้ชายที่ยึดครองเตียงเพียงหลังเดียวในบ้านตัวเองไปอย่างครุ่นคิด ถามท่านแม่ของตัวเอง “ท่านแม่ คืนนี้พวกเรานอนที่ไหน?”

ลั่วเสี่ยวปิง“.......” นางลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

ในบ้านมีแค่ห้องเดียว เตียงเดียว นางให้ชายคนนี้นอนแล้ว พวกนางสามแม่ลูกนอนที่ไหน?

แต่ ผู้ชายบนเตียงก็หมดสติไม่ฟื้น นางก็ยากที่จะเคลื่อนคนออกไป

แม้จะต้องการเคลื่อนย้าย ผู้ชายคนนี้ก็หนักขนาดนี้ ตอนนี้ร่างกายนางก็ผอมอ่อนแอและพละกำลังนั่นก็ไม่มี

เฮ้อ ก็ยังคงเป็นเพราะไม่มีบ้านที่ทำลำบาก

รอพรุ่งนี้นางเข้าเมืองไปขายโสม นางก็จะขอให้คนหาช่างมาสร้างบ้าน

“อย่ากังวล แม่จะคิดวิธี” หลังจากลั่วเสี่ยวปิงปลอบโยนเด็กสองคนแล้ว จึงต้องการเตรียมอาหารเย็น

เพราะวันนี้ต้องขึ้นภูเขา ดังนั้นก็กินเป็นอาหารเช้าและเที่ยง แม้ว่าเวลาตอนนี้ยังเช้าอยู่ แต่เว้นไปนานขนาดนี้แล้วเด็กทั้งสองน่าจะหิวแล้ว

ในเมื่อระหว่างทางได้ตอบรับเด็กสองคนแล้วว่าจะทำโรตีไข่ยัดไส้ไข่ให้ นางจึงไปที่เล้าไก่ก่อน

ที่ทำให้ลั่วเสี่ยวปิงประหลาดใจคือ เดิมทีเล้าไก่ซึ่งเดิมควรจะมีไข่เพียงฟองเดียว ด้านในกลับมีไข่ไก่สองฟองวางอยู่นิ่งๆอย่างคาดไม่ถึง

คราวนี้โรตีไข่ยัดไส้ไข่ของนางก็ทำได้แล้ว

ต้องการทำโรตีไข่ยัดไส้ไข่ การนวดแป้งเป็นสิ่งสำคัญ

แป้งต้องใช้น้ำเดือดในการนวด ลั่วเสี่ยวปิงจึงต้มน้ำก่อน

รอน้ำเดือดแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงทำแป้งชามใหญ่ หลังจากเพิ่มเกลือไปเล็กน้อยครึ่งหนึ่งใช้น้ำเดือดนวดออก ครึ่งหนึ่งใช้น้ำเย็น จากนั้นนำแป้งทั้งหมดมานวดเป็นก้อนเดียว วางเตรียมไว้ด้านข้าง

ทำสิ่งเหล่านี้เสร็จแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ไปดึงต้นหอมป่าที่ไม่มีคนกินมาเล็กน้อยอีก เอาไข่ไก่ตอกใส่ถ้วย แล้วโรยต้นหอมป่าลงไปเล็กน้อย ใส่เกลือละเอียดลงไปเล็กน้อย วางไว้ด้านข้างเพื่อเตรียมใช้

ทำสิ่งเหล่านี้เสร็จ ก็เริ่มทำแป้งทอดแล้ว

แป้งทอดทำง่ายมาก เพียงแค่ต้องทำแป้งผงให้ข้นเล็กน้อย โรยเกลือเล็กน้อย จากนั้นตั้งน้ำให้ร้อน แล้วเทน้ำมันลงไปในแป้งที่ใส่เกลือแล้วให้เสมอกัน แป้งทอดก็เสร็จแล้ว

รอจนทำแป้งทอดเสร็จแล้ว ก็เริ่มทำโรตีได้

เอาแป้งที่นวดเสร็จแล้วแบ่งเป็นก้อนแป้งเล็กๆขนาดเท่าๆกันหลายๆก้อน จากนั้นก็ปั้นเป็นกลมๆ กดให้แบน ตรงกลางตักแป้งทอดหนึ่งช้อน จากนั้นก็ห่อแป้งทอดเหมือนซาลาเปาเช่นนั้น บีบรวมกันไปทางด้านล่าง แล้วใช้ไม้นวดแป้งคลึงให้แบนราบ

ทำซ้ำไปมาเช่นนี้ แป้งแบนๆอ่อนๆห้าอันเล็กๆก็เสร็จแล้ว

ต่อจากนั้นก็คือการอบแป้ง

เพราะว่าไม่มีหม้อก้นแบนตื้น อีกทั้งเป็นเตาไฟ ที่สุดของการทดสอบการอบแป้งก็คือระดับความร้อนของไฟ เพียงแค่ไม่ระวังก็ไหม้แล้ว

หลังจากลั่วเสี่ยวปิงทำให้เตาร้อนแล้ว ก็เหลือไม้ฟืนไว้ท่อนหนึ่ง อย่างอื่นก็กลบไว้ในกองขี้เถ้า เห็นการเผาไหม้กำลังพอดี ลั่วเสี่ยวปิงก็เริ่มอบแป้งอย่างรวดเร็ว

เอาแป้งอ่อนสองอันวางลงในหม้อก่อน กลับหน้าไปมาซ้ำๆ จนเริ่มพองตัวขึ้น ลั่วเสี่ยวปิงรีบใช้ตะเกียบจิ้มแป้งอ่อนให้แตกทะลุอย่างรวดเร็ว เทไข่ผสมต้นหอมป่าเหลวๆลงไป

ไม่ช้า กลิ่นหอมของต้นหอมก็ฟุ้งกระจายออกมา เด็กทั้งสองมาถึงห้องครัวด้วยความอยากกิน มองดูการเคลื่อนไหวของลั่วเสี่ยวปิงตาปริบๆ

รอจนลั่วเสี่ยวปิงรู้ว่าพอใช้ได้แล้ว จึงตักโรตีออกมา กล่าวต่ออานอานเล่อเล่อ “พวกเจ้าไปล้างมือก่อน ล้างมือแล้วก็กินโรตีได้”

เมื่อเด็กทั้งสองได้ยินว่าล้างมือเสร็จก็สามารถกินโรตีหอมๆได้แล้ว จึงรีบไปล้างมือทันที

หลังจากที่ท่านแม่ฟื้นขึ้นมาครั้งก่อน แม่ของพวกเขาทำอะไรก็ล้วนอร่อยทั้งหมด แม้ว่าจะมีกฎการล้างมือก่อนกินข้าวเพิ่มขึ้นมา พวกเขาก็ชอบมาก

ไม่ช้า เด็กทั้งสองก็ล้างมือเสร็จ ลั่วเสี่ยวปิงเห็นว่าโรตีไม่ร้อนแล้ว ก็แบ่งให้คนละอัน ให้ไปนั่งกินด้านนอก

รอหลังจากที่เด็กทั้งสองออกไปแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ทำการกระทำเมื่อครู่ซ้ำอีกครั้งอบโรตี เพราะว่าไข่ไก่มีเพียงสองฟอง หลังจากอบโรตีเสร็จสี่ชิ้น ก็แทบจะเหลือไม่เท่าไหร่แล้ว

ลั่วเสี่ยวปิงจึงหั่นต้นหอมป่าอีกหน่อย ห่อเข้ากับไข่เหลวๆที่เหลืออยู่นิดหน่อย บวกกับปรุงรสเล็กน้อย แล้วยัดเข้าไว้ในโรตี

โรตีสองอันที่ไม่มีไข่อะไรนี้ก็คือของนางแล้ว

แต่ว่าหลังจากอบโรตีเสร็จ ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้มอดไฟทันที แต่เด็ดพริกจากสเพซอันหนึ่ง คู่กับผักชีและกระเทียมเล็กน้อย พร้อมซีอิ๊วขาวอะไรอีกเล็กน้อย ราดน้ำมันร้อนๆลงไป ทำเป็นน้ำจิ้ม

แล้วผัดแครอทขึ้นฉ่ายผักกะหล่ำผักกาดขาวฝอยอีกนิดหน่อย

รอจนเด็กทั้งสองเข้ามาหลังจากกินโรตีอันหนึ่งหมด ก็เห็นแม่ของตัวเองทาน้ำจิ้มเล็กน้อยที่โรตี จากนั้นก็ห่อผักฝอยม้วนเป็นก้อน

มองดูท่านแม่ทำเช่นนี้ พวกเขาทั้งรู้สึกแปลกใหม่ และยิ่งอยากกินขึ้นแล้ว

อานอานเล่อเล่อ ก็เหมือนแมวตะกละสองตัวเช่นนั้นมองดูโรตีในมือท่านแม่ของตัวเอง ในแววตาราวกับเขียนว่า‘อยากกิน อยากกินจังเลย’ไม่กี่คำนี้

ลั่วเสี่ยวปิงดูแล้วน่าขัน จึงเอาโรตีที่ม้วนเสร็จแล้วยื่นให้อานอาน และรีบม้วนให้เล่อเล่ออันหนึ่ง

เล่อเล่อชอบกินเป็นอย่างมาก หลังจากหยิบโรตีแล้วก็กัดลงไปคำหนึ่ง

โรตีกรุบกรอบเป็นที่สุด ยังมีผักอร่อยสดชื่นถูกปาก ทั้งยังมีความหอมที่เหลืออยู่ของไข่และต้นหอมอีก กัดลงไปคำหนึ่ง ดวงตาน้อยๆของเล่อเล่อก็เป็นประกายแล้ว

“ท่านแม่.......อร่อยมาก........อร่อย......มากมาก”

เล่อเล่อยัดเข้าปากของตัวเองจนแก้มตุ่ยไปพลาง พูดจาไปพลาง เหมือนกับหนูแฮมเตอร์ตัวน้อยตัวหนึ่ง น่ารักเป็นที่สุดแล้ว

มองดูเล่อเล่อท่าทางเช่นนี้ ลั่วเสี่ยวปิงมีเหตุผลให้เชื่อว่า หากเล่อเล่อไม่ได้อายุยังน้อย รู้จักอักษรไม่มาก คาดว่าคงจะไม่เปรียบเปรยโรตีนี้ว่า ‘อร่อย’ แค่สองคำนี้แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง