หลังจากเซี่ยงเซียวเซียนเข้าไปแล้ว ก็เงียบตลอด ถึงขั้นเหม่อลอย เหมือนมีความในใจ
มองดูเซี่ยงเซียวเซียนเป็นเช่นนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้รบกวน คิดอยู่ว่าเซี่ยงเซียวเซียนมาถึงก็บอกว่าอยากกินอาหารที่เธอทำ จึงเข้าครัวทำอาหาร
เพราะว่าเซี่ยงเซียวเซียนสีหน้าไม่ดี ลั่วเสี่ยวปิงจึงไม่ได้ทำอาหารอะไรที่รสจัด ทำแค่เพียงซุปไก่เห็ดหนึ่งอย่าง ปลาต้มหนึ่งอย่าง ซี่โครงหมูนึ่งเต้าซี่หนึ่งอย่าง อาหารหลักคือผงไส้กรอกกวางตุ้ง
เมื่อทำอาหารเสร็จยกขึ้นโต๊ะ ในสายตาของเซี่ยงเซียวเซียนก็มีแววความสนใจ หยิบตะเกียบขึ้นมาก็กินอย่างไม่เกรงใจ กินไปด้วยชมไปด้วย “ฝีมือของฉีฮูหยินดีสมชื่อจริงๆ ช่างทำให้ข้าต้องยกนิ้วโป้งให้เลย”
พูดไป ก็เปลี่ยนไปชิมอาหารจานอื่น
ขณะนี้ลั่วเสี่ยวปิงล้างมือให้เล่อเล่ออย่างใจเย็นไม่รีบร้อน จากนั้นทั้งสองก็นั่งลงที่โต๊ะ ที่นี่ของลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้มีกฎชายหญิงร่วมโต๊ะกันไม่ได้
เซี่ยงเซียวเซียนก็ไม่ได้ถือสา ตอนที่กินอาหารก็คีบใส่ถ้วยเล่อเล่อบ้าง อาหารมื้อหนึ่งก็กินกันอย่างมีความสุข
ลั่วเสี่ยวปิงรู้ว่าเซี่ยงเซียวเซียนหาตัวเองต้องมีเรื่องแน่นอน เพราะฉะนั้นเล่อเล่อกินข้าวเสร็จ ลั่วเสี่ยวปิงก็ให้ไป๋เสาพาออกไป ในห้องอาหารก็เหลือเพียงลั่วเสี่ยวปิงกับเซี่ยงเซียวเซียนสองคน
เซี่ยงเซียวเซียนไม่เปิดปาก ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้พูด เพียงแค่นั่งเงียบๆอยู่ตรงนั้น
นานมาก เซี่ยงเซียวเซียนถึงพูด “ได้ยินว่าฝีมือการรักษาของฉีฮูหยินดีมาก ไม่ทราบว่าช่วยข้าจับชีพจรหน่อยได้หรือไม่?”
เพียงแต่มือเพิ่งแตะโดนชีพจรของเซี่ยงเซียวเซียน ลั่วเสี่ยวปิงก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
“เปลี่ยนมืออีกข้าง” ลั่วเสี่ยวปิงปล่อยมือ พูดกับเซี่ยงเซียวเซียน
เซี่ยงเซียวเซียนวางมือซ้ายลง ยกมือขวาขึ้น
นิ้วของลั่วเสี่ยวปิงวางบนมือขวาของเซี่ยงเซียวเซียน แค่ครู่เดียวก็ขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม
เซี่ยงเซียวเซียนไม่พูดอะไร แค่นั่งอย่างนิ่งเงียบ
นานมาก ในที่สุดลั่วเสี่ยวปิงก็แน่ใจแล้ว ปล่อยมือมองไปที่เซี่ยงเซียวเซียน “ท่านโดนพิษกู่?”
ก่อนหน้านี้เธอก็สังเกตออกแล้ว แต่ไม่แน่ใจ
อย่างไรเสียเธอก็เพิ่งศึกษาพิษกู่หลังจากเจอซุนมู่หยาง เมื่อก่อนสำหรับพิษกู่ไม่รู้อะไรเลยสักนิด
แต่เมื่อหลังจากทำความแน่ใจแล้ว เธอก็มั่นใจอย่างมาก
เซี่ยงเซียวเซียนยิ้ม “ฝีมือการรักษาของฉีฮูหยินไม่ธรรมดาจริง”
ซิมแสทั่วไปยังตรวจไม่เจอว่าตัวเองโดนพิษกู่
ลั่วเสี่ยวปิงกลับมองหน้าเซี่ยงเซียวเซียนอย่างเคร่งขรึม
สำหรับนางแล้ว พิษกู่ไม่ใช่ปัญหาที่เล็กน้อยเลย
ถึงแม้ตอนนี้เธอจะดูหนังสือเกี่ยวกับพิษกู่ของซุนมู่หยางแล้ว แต่ว่าพิษกู่ของเซี่ยงเซียวเซียน เธอกลับเจ้า้ไม่ได้
ไม่ใช่เจ้า้ไม่ได้ แต่ว่าพิษกู่ในร่างของเซี่ยงเซียวเซียนคือพิษกู่ลูกในพิษกู่แม่ลูก*(ยาพิษอย่างหนึ่ง) ต้องมีกู่แม่ถึงจะเจ้า้พิษได้ วิธีอื่นทำไม่ได้
“ถ้าหากไม่มีกู่แม่ ท่านมีชีวิตอยู่ได้แค่หนึ่งปี”
ถ้าปกติแล้ว อาจจะอยู่ได้แค่ครึ่งปี
เพราะคนที่ทำพิษกู่ให้เซี่ยงเซียวเซียนไม่อยากให้เซี่ยงเซียวเซียนมีชีวิต เพราะฉะนั้นทำพิษกู่ไม่รู้ว่าทำอะไรลงไป จึงทำให้กู่ลูกในร่างเซี่ยงเซียวเซียนกัดกร่อนร่างกายเขาได้อย่างรวดเร็ว
แต่ว่า เธอมีความมั่นใจในการปรับสภาพร่างกายให้เซี่ยงเซียวเซียน
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ นั่นก็ทำให้เซี่ยงเซียวเซียนอยู่ต่อได้แค่ครึ่งปีเท่านั้น
เพราะฉะนั้น เว้นแต่จะหากู่แม่เจอ มิเช่นนั้นไม่มีวิธีถอน
แต่เซี่ยงเซียวเซียนไม่ได้ใส่ใจ “ออ อยู่ได้หนึ่งปีก็ดีทีเดียว ข้ายังคิดว่าอยู่ได้แค่ครึ่งปี”
ก็แค่ ท่าทางที่มองชีวิตเรียบเฉยมาก ไม่ได้ห่วงเรื่องความตายแม้แต่น้อย มีความรู้สึกมองเรื่องความเป็นความตายเฉยชามาก
คนที่มองเรื่องเป็นเรื่องตายเรียบเฉย มีแค่สองแบบ
แบบหนึ่งคือถูกทำร้ายอย่างรุนแรง แบบหนึ่งคือธรรมะธัมโมไม่ใส่ใจเรื่องความเป็นความตาย
แต่เห็นได้ชัดว่า เซี่ยงเซียวเซียนคือแบบที่หนึ่ง
แต่ไม่ว่าคือสาเหตุอะไร ลั่วเสี่ยวปิงไม่เคยรู้สึกว่าการมองเรื่องความเป็นความตายเฉยชาคือศีลธรรมที่ดีงานอะไร กระทั่งเธอก็ดูถูก
ไม่กลัวแม้แต่ความตาย แต่กลับกลัวมีชีวิตอยู่ นั่นคือคนขี้ขลาด
เท่าที่เธอดูแล้ว ขอแค่มีชีวิตอยู่ ขอแค่พยายาม อะไรที่เจ้า้ไม่ได้ล้วนสามารถเจ้า้ได้ เพียงแค่ปัญหาเรื่องเวลาเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...