แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 498

หลังจากออกจากบ้านผู้ใหญ่บ้านแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงใช้เวลาอีกหนึ่งวันในการจัดการอาณาเขตการค้าของตนเอง วันรุ่งขึ้นก็จัดเก็บสัมภาระเดินทาง และเตรียมที่จะออกจากหมู่บ้านในวันพรุ่งนี้ ไปรวมกับท่านตาและคนอื่นๆ ในอำเภอ

แต่ทว่า ในช่วงเช้าตรู่ เกวียนเพิ่งจะหยุดอยู่หน้าประตู ยังไม่ทันได้ขนสัมภาระขึ้นเกวียน คนตระกูลลั่วก็ก่อความวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง

"นังคนอกตัญญูไม่มีคุณธรรม ครอบครัวเราเลี้ยงดูมาเปล่าประโยชน์จริงๆ ตัวเจ้าเองร่ำรวยขึ้น กลับไม่สนใจญาติมิตรของเจ้า เจ้าเป็นคนไม่มีคุณธรรมเช่นนี้ จะต้องถูกฟ้าผ่าตาย"

"หลายปีนี้ข้าเดินทางไปทั่ว ก็ไม่เคยเห็นคนที่ไม่มีคุณธรรมอย่างเจ้าเช่นนี้เลย เจ้าดูสิว่าใครที่ร่ำรวยแล้ว ไม่คำนึงถึงครอบครัวบ้างล่ะ?"

"หากรู้ผิดชอบชั่วดี เจ้ารีบเอาเงินมาแสดงความกตัญญูต่อค่าน้ำนมของเจ้าเลยนะ ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว ข้าจะส่งจดหมายไปอุทธรณ์ต่อศาล อย่าได้เอ่ยถึงว่าจะตัดความสัมพันธ์เลย ร่างกายของเจ้ามีเลือดตระกูลลั่วของเราหล่อเลี้ยงอยู่ กระดูกที่หักยังติดอยู่กับเส้นเอ็นเลย ยิ่งไม่พูดถึงร่างกายของเจ้าที่มีเลือดของเราอยู่เช่นนั้น? หากเจ้าไม่ต้องการรู้จักเราแล้ว นอกเสียจากเจ้าจะปล่อยเลือดในร่างกายออกให้หมด จึงจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลของเรา"

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินเสียงนี้ ก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้

เป็นลั่วหลานนี่เอง

เพียงแต่ลั่วเสี่ยวปิงไม่เข้าใจว่า ลั่วหลานไม่ใช่แต่งงานกับผู้ชายที่ร่ำรวยหรอกหรือ?

เหตุใดยังทำตัวเหมือนเมียของพ่อค้าหน้าเลือดต้องการขอเงินอยู่อีกล่ะ?

แต่ไม่นานลั่วเสี่ยวปิงก็นึกถึงการแต่งตัวเป็นเศรษฐีใหม่ของลั่วหลาน ก็รู้สึกแจ่มแจ้งอยู่ในใจ

คนบางคนถึงแม้จะร่ำรวย แต่ธาตุแท้ในใจนั้นยังคงยากจนอยู่ เป็นธรรมดาที่การมองเห็นจะไม่ได้สูงส่งอะไร

เพียงแต่ว่าสิ่งที่ลั่วเสี่ยวปิงไม่เข้าใจจริงๆ เลยก็คือ ท้ายที่สุดแล้วเวลานี้ใครเป็นคนยุยงเสี้ยมสอนลั่วหลานกันนะ?

คนคนนี้ไม่สามารถเป็นย่าลั่วได้อย่างเด็ดขาด อย่างไรเสียย่าลั่วในเวลานี้คงไม่กล้าหาเรื่องกับนางอย่างแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น ย่าลั่วรู้ดีกว่าตนเองไม่ได้เกิดมาในตระกูลลั่ว หากมาพูดยุยงนาง ลั่วหลานก็จะไม่สามารถพูดคำพูดเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน

ไม่นาน ลั่วเสี่ยวปิงก็นึกถึงคนคนหนึ่ง

ลั่วเสี่ยวเหมย

ตั้งแต่ได้เจอกันวันนั้น ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่เคยเจอลั่วเสี่ยวเหมยอีกเลย

และตระกูลลั่วคนอื่นๆ ได้มีบทเรียนก่อนหน้านี้ ในระยะเวลาอันสั้นนี้น่าจะไม่กล้าเข้ามา

นึกถึงตรงนี้แล้ว ลั่วเสี่ยวปิงจึงวางของในมือลง และเตรียมจะออกไป

เพิ่งจะเดินออกมาที่เรือนหลัก ก็เห็นเว่ยหยางยืนอยู่ที่นั่นด้วยใบหน้าเกรี้ยวโกรธ "คุณหนู ต้องการให้ข้าน้อยไล่นางออกไปหรือไม่?"

ตั้งแต่เว่ยหยวนหมิงมา เว่ยหยางเริ่มเรียกตนเองว่าข้าน้อยมาตลอด

เพียงแต่ว่า ไม่ต้องให้ลั่วเสี่ยวปิงตอบกลับ ด้านนอกบ้านก็มีเสียงการเคลื่อนไหวดังเข้ามา

"เจ้ามีสิทธิ์อะไรกัน ถึงกล้ามาด่าทอพี่สาวข้าถึงที่นี่?" เป็นเสียงของเว่ยเจ๋อฉี

แต่ว่า เว่ยเจ๋อฉีไม่ได้ไปส่งจีเหวินจุนกลับเมืองหลัวหรอกหรือ อีกทั้งยังบอกว่าเมื่อถึงเวลารวมตัวกันจะกลับมาอีกครั้ง? เหตุใดถึงกลับมาเร็วขนาดนี้ล่ะ?

ลั่วเสี่ยวปิงกำลังสงสัย ก็ได้ยินเว่ยเจ๋อฉีกล่าวต่ออีกว่า "เลือดสกปรกในตัวเจ้า ยังกล้าเอามาเปรียบเทียบสายเลือดอันสูงส่งของพี่สาวข้าด้วยหรือ? เจ้าจะหน้าด้านเกินไปแล้วหรือเปล่า?"

เว่ยเจ๋อฉีเป็นคนชอบธรรมอย่างยิ่ง แต่ไหนแต่ไรไม่เคยพูดจารุนแรงเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โกรธอย่างมาก จึงได้กล่าวคำพูดที่หยาบคายออกมา

"ใช่แล้ว หน้าด้านๆ ของเจ้าทำไมถึงไม่เอาไปทำเก้าอี้ล่ะ? รู้นะว่าจะมาทำให้พี่เสี่ยวปิงของข้าเสียหาย" นี่ก็เป็นเสียงของจีเหวินจุน

ห๊ะ?

จีเหวินจุนไม่ได้กลับไปที่เมืองหลัวแล้วหรอกหรือ?

ลั่วเสี่ยวปิงสงสัย จึงดึงประตูเปิดออก

เพิ่งจะเปิดประตูก็ได้เห็นชาวไร่ชาวนาที่ทยอยเดินเข้ามาทีละคนๆ ต่างชี้นิ้วนินทาลั่วหลาน และพากันหัวเราะเยาะเย้ย

และลั่วหลาน เวลานี้ก็โกรธจนหน้าสั่น

"พวก......พวกเจ้า......"

"เราทำไมหรือ? เจ้ามันคนหน้าด้านยังจะไม่ให้เราว่าอีกหรือ? พี่เสี่ยวปิงของข้าติดเงินพวกเจ้าหรือ ยังจะมาหาพี่เสี่ยวปิงของข้าเพื่อขอเงินอีก?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง