หลังจากออกจากบ้านผู้ใหญ่บ้านแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงใช้เวลาอีกหนึ่งวันในการจัดการอาณาเขตการค้าของตนเอง วันรุ่งขึ้นก็จัดเก็บสัมภาระเดินทาง และเตรียมที่จะออกจากหมู่บ้านในวันพรุ่งนี้ ไปรวมกับท่านตาและคนอื่นๆ ในอำเภอ
แต่ทว่า ในช่วงเช้าตรู่ เกวียนเพิ่งจะหยุดอยู่หน้าประตู ยังไม่ทันได้ขนสัมภาระขึ้นเกวียน คนตระกูลลั่วก็ก่อความวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง
"นังคนอกตัญญูไม่มีคุณธรรม ครอบครัวเราเลี้ยงดูมาเปล่าประโยชน์จริงๆ ตัวเจ้าเองร่ำรวยขึ้น กลับไม่สนใจญาติมิตรของเจ้า เจ้าเป็นคนไม่มีคุณธรรมเช่นนี้ จะต้องถูกฟ้าผ่าตาย"
"หลายปีนี้ข้าเดินทางไปทั่ว ก็ไม่เคยเห็นคนที่ไม่มีคุณธรรมอย่างเจ้าเช่นนี้เลย เจ้าดูสิว่าใครที่ร่ำรวยแล้ว ไม่คำนึงถึงครอบครัวบ้างล่ะ?"
"หากรู้ผิดชอบชั่วดี เจ้ารีบเอาเงินมาแสดงความกตัญญูต่อค่าน้ำนมของเจ้าเลยนะ ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว ข้าจะส่งจดหมายไปอุทธรณ์ต่อศาล อย่าได้เอ่ยถึงว่าจะตัดความสัมพันธ์เลย ร่างกายของเจ้ามีเลือดตระกูลลั่วของเราหล่อเลี้ยงอยู่ กระดูกที่หักยังติดอยู่กับเส้นเอ็นเลย ยิ่งไม่พูดถึงร่างกายของเจ้าที่มีเลือดของเราอยู่เช่นนั้น? หากเจ้าไม่ต้องการรู้จักเราแล้ว นอกเสียจากเจ้าจะปล่อยเลือดในร่างกายออกให้หมด จึงจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลของเรา"
ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินเสียงนี้ ก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
เป็นลั่วหลานนี่เอง
เพียงแต่ลั่วเสี่ยวปิงไม่เข้าใจว่า ลั่วหลานไม่ใช่แต่งงานกับผู้ชายที่ร่ำรวยหรอกหรือ?
เหตุใดยังทำตัวเหมือนเมียของพ่อค้าหน้าเลือดต้องการขอเงินอยู่อีกล่ะ?
แต่ไม่นานลั่วเสี่ยวปิงก็นึกถึงการแต่งตัวเป็นเศรษฐีใหม่ของลั่วหลาน ก็รู้สึกแจ่มแจ้งอยู่ในใจ
คนบางคนถึงแม้จะร่ำรวย แต่ธาตุแท้ในใจนั้นยังคงยากจนอยู่ เป็นธรรมดาที่การมองเห็นจะไม่ได้สูงส่งอะไร
เพียงแต่ว่าสิ่งที่ลั่วเสี่ยวปิงไม่เข้าใจจริงๆ เลยก็คือ ท้ายที่สุดแล้วเวลานี้ใครเป็นคนยุยงเสี้ยมสอนลั่วหลานกันนะ?
คนคนนี้ไม่สามารถเป็นย่าลั่วได้อย่างเด็ดขาด อย่างไรเสียย่าลั่วในเวลานี้คงไม่กล้าหาเรื่องกับนางอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น ย่าลั่วรู้ดีกว่าตนเองไม่ได้เกิดมาในตระกูลลั่ว หากมาพูดยุยงนาง ลั่วหลานก็จะไม่สามารถพูดคำพูดเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน
ไม่นาน ลั่วเสี่ยวปิงก็นึกถึงคนคนหนึ่ง
ลั่วเสี่ยวเหมย
ตั้งแต่ได้เจอกันวันนั้น ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่เคยเจอลั่วเสี่ยวเหมยอีกเลย
และตระกูลลั่วคนอื่นๆ ได้มีบทเรียนก่อนหน้านี้ ในระยะเวลาอันสั้นนี้น่าจะไม่กล้าเข้ามา
นึกถึงตรงนี้แล้ว ลั่วเสี่ยวปิงจึงวางของในมือลง และเตรียมจะออกไป
เพิ่งจะเดินออกมาที่เรือนหลัก ก็เห็นเว่ยหยางยืนอยู่ที่นั่นด้วยใบหน้าเกรี้ยวโกรธ "คุณหนู ต้องการให้ข้าน้อยไล่นางออกไปหรือไม่?"
ตั้งแต่เว่ยหยวนหมิงมา เว่ยหยางเริ่มเรียกตนเองว่าข้าน้อยมาตลอด
เพียงแต่ว่า ไม่ต้องให้ลั่วเสี่ยวปิงตอบกลับ ด้านนอกบ้านก็มีเสียงการเคลื่อนไหวดังเข้ามา
"เจ้ามีสิทธิ์อะไรกัน ถึงกล้ามาด่าทอพี่สาวข้าถึงที่นี่?" เป็นเสียงของเว่ยเจ๋อฉี
แต่ว่า เว่ยเจ๋อฉีไม่ได้ไปส่งจีเหวินจุนกลับเมืองหลัวหรอกหรือ อีกทั้งยังบอกว่าเมื่อถึงเวลารวมตัวกันจะกลับมาอีกครั้ง? เหตุใดถึงกลับมาเร็วขนาดนี้ล่ะ?
ลั่วเสี่ยวปิงกำลังสงสัย ก็ได้ยินเว่ยเจ๋อฉีกล่าวต่ออีกว่า "เลือดสกปรกในตัวเจ้า ยังกล้าเอามาเปรียบเทียบสายเลือดอันสูงส่งของพี่สาวข้าด้วยหรือ? เจ้าจะหน้าด้านเกินไปแล้วหรือเปล่า?"
เว่ยเจ๋อฉีเป็นคนชอบธรรมอย่างยิ่ง แต่ไหนแต่ไรไม่เคยพูดจารุนแรงเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โกรธอย่างมาก จึงได้กล่าวคำพูดที่หยาบคายออกมา
"ใช่แล้ว หน้าด้านๆ ของเจ้าทำไมถึงไม่เอาไปทำเก้าอี้ล่ะ? รู้นะว่าจะมาทำให้พี่เสี่ยวปิงของข้าเสียหาย" นี่ก็เป็นเสียงของจีเหวินจุน
ห๊ะ?
จีเหวินจุนไม่ได้กลับไปที่เมืองหลัวแล้วหรอกหรือ?
ลั่วเสี่ยวปิงสงสัย จึงดึงประตูเปิดออก
เพิ่งจะเปิดประตูก็ได้เห็นชาวไร่ชาวนาที่ทยอยเดินเข้ามาทีละคนๆ ต่างชี้นิ้วนินทาลั่วหลาน และพากันหัวเราะเยาะเย้ย
และลั่วหลาน เวลานี้ก็โกรธจนหน้าสั่น
"พวก......พวกเจ้า......"
"เราทำไมหรือ? เจ้ามันคนหน้าด้านยังจะไม่ให้เราว่าอีกหรือ? พี่เสี่ยวปิงของข้าติดเงินพวกเจ้าหรือ ยังจะมาหาพี่เสี่ยวปิงของข้าเพื่อขอเงินอีก?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...