ไม่ว่าทุกคนมีความคิดยังไง ในที่สุดก็มาถึงการแข่งขันรอบสุดท้าย ซ่งฉงปิงคนหนึ่งแข่งกับสามคน
ฮ่องเต้และฮองเฮาตัดสินว่า ครั้งนี้แข่งเครื่องดนตรี วาดภาพและคำนวณเลขสามอย่าง ชนะสองในสามรอบจะถือว่าชนะ
ครั้งแรกแข่งกันวาดภาพ
ให้สี่คนวาดรูปด้วยพู่กันเสร็จภายในเวลาสองธูปเทียน
เวลาสองธูปเทียนสำหรับบางคนยังไม่ทันได้จุ่มหมึกและจินตนาการเลย แต่ซูรุ่ยและเป้ยเจิ้งชิงไม่ได้คิดอะไรมาก จับพู่กันแล้วเริ่มวาดทันที
เว่ยเจ๋อเหวินไม่ได้รีบลงมือ กลับมองไปทางซ่งฉงปิงด้วยความเป็นห่วง"เสี่ยวปิง เจ้ายังได้อยู่ไหม?"
เว่ยเจ๋อเหวินอยากบอกว่า ถึงขั้นนี้แล้วจะชนะหรือแพ้ล้วนไม่สำคัญ ถึงแม้นางแพ้ เขาก็สามารถชิงที่หนึ่งให้นางได้
แต่เมื่อเห็นลักษณะที่มั่นใจมากของซ่งฉงปิง คำพูดที่ถึงปากของเว่ยเจ๋อเหวินก็พูดไม่ออกสักที
"พี่ใหญ่ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ"ซ่งฉงปิงยิ้มมุมปาก
เว่ยเจ๋อเหวินเห็นเช่นนี้ มีแต่ต้องเอากระดาษและพู่กันออกมา เริ่มวาดและใส่บทกลอนลงไปด้วย
ส่วนซ่งฉงปิงในตอนนี้กลับครุ่นคิดอยู่
นางมีความสามารถทุกอย่างก็จริง แต่ไม่ได้ถนัดวาดพู่กันมากนัก
การวาดด้วยพู่กันเนี่ย ถ้าไม่มีความหมายอันลึกซึ้งแฝงอยู่ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะชนะ
และในเมื่อครั้งนี้นางไม่อยากปิดบังความสามารถ งั้นก็ต้องได้ที่หนึ่งแน่นอน
เมื่อนึกถึงที่นี่ สายตาของซ่งฉงปิงก็มองมาที่พระสนมคนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากฮ่องเต้ บังเอิญว่าพระสนมคนนั้นได้อุ้มแมวตัวหนึ่งในมือด้วย
พระสนมคนนั้นซ่งฉงปิงไม่รู้จักแต่กลับรู้สึกว่านางสวยมาก
สิ่งที่ดีงามมักจะทำให้คนอดมองไม่ได้ พระสนมคนนั้นเป็นเช่นนี้ แมวในมือของพระสนมก็เป็นเช่นนี้
มีความคิดแล้ว!
ซ่งฉงปิงคิดได้แล้ว
จากนั้น ซ่งฉงปิงก็ให้คนเอาถ่านไม้ขนาดเท่านิ้วมาให้นาง แล้วก็เริ่มถือถ่านไม้วาดบนกระดาษ
มีคนที่ไม่รู้เรื่องเห็นเช่นนี้ รู้สึกแต่ว่าซ่งฉงปิงไร้สาระจริงๆ
วาดไม่เป็นก็ไม่ต้องวาด หยิบถ่านไม้วาดอะไรออกมาได้ล่ะ?
เวลาผ่านไปทีละนิดละหน่อย ซูรุ่ยและเป้ยเจิ้งชิงวางพู่กันลงตามลำดับ ต่อมาเว่ยเจ๋อเหวินและซ่งฉงปิงเกือบจะเสร็จพร้อมกัน
ไม่นานภาพวาดของซูรุ่ยก็ถูกส่งมาที่ฮ่องเต้และฮองเฮา เป็นภาพงานเลี้ยงในพระราชวัง
ภาพงานเลี้ยงในพระราชวังนี้เกือบจะวาดทุกคนลงไปหมด ความครึกครื้นล้วนปรากฏในกระดาษ เหมือนจริงมาก
แต่ยังไงก็เป็นปัญหาของเวลา จึงทำให้ไม่สามารถวาดทุกรายละเอียดลงไปหมด ทำให้ตัวละครบนภาพวาดมีแต่รูปร่างแต่ไม่มีสีหน้าอารมณ์
แต่ถึงเป็นเช่นนี้ ภาพวาดก็ยังได้รับคำชื่นชมจากหลายๆคน
จากนั้น ภาพวาดของเป้ยเจิ้งชิงก็ถูกยกขึ้นไป
ที่เป้ยเจิ้งชิงวาดนั้นเป็นทิศทัศน์ที่เห็นในระหว่างทางที่มาเมืองหลวง ภาพวาดทิวทัศน์ที่วาดเสร็จในระยะสั้นนี้ ไม่ค่อยมีความอลังการ แต่วาดได้ดีมาก โดยเฉพาะลายมือที่เขียนนั้นเรียบร้อยและงดงาม เหมือนเป็นลายมือของนักปราชญ์
เว่ยเจ๋อเหวินวาดได้ง่ายมาก เป็นภาพวาดเด็กเล่นบอล ไม่ว่าจะเป็นสีหน้าหรือท่าทางของเด็กล้วนละเอียดมาก ตัวหนังสือที่เขียนในข้างๆก็สวยงามมาก ไม่ว่าจะเป็นภาพวาดหรือตัวหนังสือล้วนได้รับการชื่นชม
แต่พอภาพวาดในมือของซ่งฉงปิงส่งมาถึงมือของฮ่องเต้และฮองเฮา สีหน้าของฮ่องเต้และฮองเฮาก็อึ้งไปอย่างเห็นได้ชัด
ฮ่องเต้ซ่งหยุนจางมองไปทางเสวี่ยกุ้ยเฟยที่อุ้มแมวอยู่ข้างๆ ส่วนสีหน้าของฮองเฮาก็ค่อนข้างแย่อย่างเห็นได้ชัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...