แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 64

“เฉินเอ้อเม่ย ทำไมเจ้าถึงไม่รับเมาโวโวของเรา?”

ตอนที่ลั่วเสี่ยวปิงกลับมาถึงบ้าน ก็เวลาประมาณสามสี่โมง ยังไม่ทันลงจากรถเกวียน ก็ได้ยินเสียงแหลมของป้ารองจ้าวซื่อดังขึ้น

มองผ่านทะลุรั้วไป แล้วก็เห็นป้ารองคนดีของนางคนนั้นกำลังโวยวาย มองดูกองตะกร้าด้านข้างจ้าวซื่อ ลั่วเสี่ยวปิงก็รู้แล้วเกิดอะไรขึ้น

เมื่อวานลั่วต้าฟู่แอบหนีไปแล้ว ไม่ได้ลงนามข้อจำกัดความรับผิดชอบไว้ และก็ไม่ได้ยอมรับเห็ด

คิดว่าคงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นบ้านตระกูลลั่วจึงส่งจ้าวซื่อคนที่หน้าด้านที่สุดมาเป็นตัวแทน อยากจะขายแลกเงินเหมือนกับชาวบ้าน

หลังจากรู้แล้วว่ามาเพื่ออะไร ลั่วเสี่ยวปิงจึงลงจากรถม้า

และเวลานี้เสียงจางเฉินซื่อก็ดังขึ้นว่า “เมื่อวานทุกคนต่างก็ประทับลายมือ บ้านพวกเจ้าไม่ได้ประทับลายมือ และก็ไม่ได้เรียนรู้เรื่องเมาโวโว หากข้ารับเมาโวโวของเจ้ามาแล้วเกิดอะไรขึ้นใครจะรับผิดชอบ?”

จ้าวซื่อได้ยินจางเฉินซื่อพูดเช่นนี้ จู่ๆก็ไม่ยอมขึ้นมา

“เจ้าจางเฉินซื่อตัวดี เจ้าคิดจะเอาขนไก่มาทำเป็นลูกธนูหรือ?” จ้าวซื่อเอามือเท้าเอว พูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “เจ้าอย่าลืม เสี่ยวปิงก็นามสกุลลั่ว นางไม่ได้นามสกุลจาง ไม่จำเป็นต้องให้คนนอกอย่างเจ้า มารังแกคนในครอบครัวของนาง”

พูดเสร็จ จ้าวซื่อหันไปมองชาวบ้านคนอื่น พร้อมพูดขึ้นอย่างเอะอะโวยวายว่า “ทุกคนมาช่วย ให้ความยุติธรรมกับข้า ธุรกิจนี้หลานสาวของข้าเป็นคนเริ่มต้นขึ้นมา เพียงแค่จ้างเฉินเอ้อเม่ยมาช่วยดูแล แล้วเฉินเอ้อเม่ยจะมีอำนาจกว่าหลานสาวของข้าแล้วมารังแกคนในครอบครัวของนางหรือ? เรื่องเช่นนี้ยังมีความยุติธรรมอยู่ไหม”

เพราะลั่วเสี่ยวปิงอยู่ข้างหลัง ทุกคนต่างให้ความสนใจตรงหน้า ดังนั้นจึงไม่มีใครเห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงกลับมาแล้ว

เมื่อได้ยินจ้าวซื่อพูดเช่นนี้ มีบางคนเห็นว่ามีเหตุผล จึงอดไม่ได้ที่จะต่อว่าจางเฉินซื่อขึ้นมา

“บ้านต้าฉวน เรื่องนี้เจ้าทำไม่ถูก ยังไงจ้าวชุนฮวาก็เป็นป้าของเสี่ยวปิง ต่อให้เจ้าไม่เห็นแก่หน้าญาติก็ควรที่จะเห็นแก่พระท่าน”

“ใช่ เสี่ยวปิงไว้ใจเจ้าถึงให้เจ้ามาดูแล เจ้าจะล่วงเกินคนในครอบครัวของนางไม่ได้ ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องเสียงานนี้ไป”

“น้องรอง เจ้าควรที่จะยอมถอยหนึ่งก้าว อย่าซื่อตรงเกิน ยังไงของพวกนี้ก็แตกต่างกันไม่มาก ใครรับไว้ก็เป็นการรับเหมือนกันไม่ใช่หรือ?” ทุกคนต่างช่วยกันพูด โน้มน้าวให้จางเฉินซื่อยอมถอย

จางต้าหลางร้อนใจจนหน้าแดง แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่มีฝีปากกล้า ไม่รู้ว่าเวลานี้ควรที่จะพูดอย่างไร

เพียงแต่ เผชิญหน้ากับคนพวกนี้ จางเฉินซื่อก็ไม่ยอม

ตอนนี้เหมือนอย่างที่จ้าวซื่อพูด นางเป็นคนที่เสี่ยวปิงจ้างมาช่วยงาน ดังนั้นจึงต้องยิ่งเข้มงวด นางไม่ควรตัดสินใจโดยพลการ

“ข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่า เรื่องของข้าต้องให้ทุกคนมาช่วยตัดสินใจ” ลั่วเสี่ยวปิงพูดขึ้น

ได้ยินเสียงลั่วเสี่ยวปิง คนต่างหันกลับมามอง

เห็นสีหน้าเย็นชาของลั่วเสี่ยวปิง คนที่ช่วยจ้าวซื่อพูดเมื่อกี้ต่างก็หุบปาก ละอายใจไม่กล้ามองสบตาลั่วเสี่ยวปิง

เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานยังจำฝังตา พวกเขายังอยากมีรายได้จากลั่วเสี่ยวปิง ไม่กล้ามีเรื่องกับลั่วเสี่ยวปิงในตอนนี้

พวกชาวบ้านต่างหลีกทางให้ลั่วเสี่ยวปิง ลั่วเสี่ยวปิงเดินมาถึงด้านข้างจางเฉินซื่อ กวาดสายตามองผ่านชาวบ้านทุกคนอย่างเรียบเฉย บ่งบอกได้ถึงการเตือน

นางสามารถให้ทุกคนได้มีโอกาสมีรายได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้พวกเขามายุ่งกับเรื่องของนาง

เห็นสีหน้าแต่ละคนต่างหวาดกลัว ลั่วเสี่ยวปิงค่อยหันไปมองจ้าวซื่อ

เริ่มแรกเมื่อตอนจ้าวซื่อเห็นลั่วเสี่ยวปิง ยังค่อนข้างรู้สึกหวาดกลัว เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน เพิ่งถูกลั่วเสี่ยวปิงดึงกระชากผม ท่าทีของลั่วเสี่ยวปิงนั้นก็ค่อนข้างน่ากลัวจริงๆ กลัวว่าเมื่อลั่วเสี่ยวปิงเป็นบ้าขึ้นมาสามารถทำอะไรก็ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง