แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 657

“ข้าผิดไปแล้วยังไม่ได้หรือ?” เห็นสายตาของฉีเทียนเห้ายิ่งอยู่ยิ่งอันตราย ซ่งฉงปิงก็คิดเหตุผลที่เหมาะสมไม่ได้ สุดท้ายก็ทำได้เพียงขอร้องให้ยกโทษ

ฉีเทียนเห้ามองซ่งฉงปิงอย่างลึกซึ้ง จนกระทั่งเห็นซ่งฉงปิงขนลุกในใจ ในที่สุดฉีเทียนเห้าก็พูด “ในเมื่อรู้ว่าผิดแล้ว เช่นนั้นก็ต้องรับโทษ”

ซ่งฉงปิงใจสั่น จากนั้นก็ถามอย่างระมัดระวัง “เจ้าจะลงโทษข้าอย่างไร?”

“แน่นอนว่า.......” ฉีเทียนเห้าโน้มไปแนบข้างหูซ่งฉงปิง ลมหายใจร้อนๆทำให้ซ่งฉงปิงสะดุ้ง ฉีเทียนเห้าถึงพูดผลลัพธ์สุดท้ายออกมาอย่างเชื่องช้า “ตีก้น”

ซ่งฉงปิงอึ้ง

ไม่รอนางตอบสนอง ก็ถูกฉีเทียนเห้าอุ้มขึ้นมา จากนั้นก็โยนขึ้นไปบนเตียง

สิ่งที่ทำยังไงซ่งฉงปิงก็คิดไม่ถึงคือ ฉีเทียนเห้ากลับพูดว่าตีก้น นั่นก็คือตีก้นจริงๆ

ชาตินี้ ชาติที่แล้ว ซ่งฉงปิงก็ไม่เคยมีประสบการณ์ถูกตีก้นมาก่อน

ช่างขายหน้าเหลือเกิน

มิหนำซ้ำไม่ว่านางขัดขืนยังไง ขอร้องยังไงก็ไม่ได้

“เพี๊ยะ——เพี๊ยะ——” เสียงดังขึ้นภายในห้อง ซ่งฉงปิงรู้สึกว่าก้นของตัวเองปวดแสบร้อน

เทียบกับก้น หน้าของหน้ายิ่งแสบร้อน

สุดท้าย ไม่รู้ว่าเพราะอาย หรือว่าน้อยใจ หรือเพราะว่าเจ็บ น้ำตาของนางก็ไหลลงมา

ฉีเทียนเห้าโกรธจริง

โกรธความไม่ระวังของซ่งฉงปิงในครั้งนี้

ไม่ว่าอย่างไร ฝ่ายตรงข้ามคืออ๋องคัง จุดจบของหลิวจิ้งเซียนยังจำอยู่ในสายตา

แค่คิดถึงซ่งฉงปิงอยู่ตามลำพังกับคนอย่างซ่งหงซี และอาจจะถูกทำร้าย เขาก็จิตใจกระวนกระวาย

ทนจนถึงตอนนี้ เขาก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว

เพราะฉะนั้น ฝ่ามือที่ฉีเทียนเห้าตีซ่งฉงปิง ตีอย่างเต็มมือ ไม่ได้ออมมือเลยแม้แต่น้อย

ตีต่อเนื่องกันสิบฝ่ามือ เห็นก้นของซ่งฉงปิงถูกตีจนแดงแล้ว ฉีเทียนเห้าเห็นสภาพแดงๆแบบนั้น ในสายตาก็รู้สึกเสียใจและสงสารเล็กน้อย

พอดีเวลานี้ก็ได้ยินเสียงสะอื้นของซ่งฉงปิง ทันใดนั้นก็ทำอะไรไม่ถูกแล้ว

ตอนแรกอยากดึงซ่งฉงปิงขึ้นมา แต่มองดูตำแหน่งที่ถูกตัวเองตี ฉีเทียนเห้าก็หยุดท่าทางลงทันที

เงียบอยู่ชั่วขณะ ฉีเทียนเห้าถึงเปิดปากพูด “ยาทาแผลบนตัวเจ้าล่ะ? เอาออกมา ข้าทาให้เจ้า”

น้ำเสียงมีความแหบแห้งเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าฉีเทียนเห้าตีซ่งฉงปิงแล้ว ก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

ตอนนี้ซ่งฉงปิงยังอารมณ์เสียที่ตัวเองโตขนาดนี้แล้วแต่กลับถูกตีก้น แน่นอนว่าไม่ฟังฉีเทียนเห้า อยากขัดขืนลุกขึ้นมาไม่ให้ฉีเทียนเห้าทายา

“เชื่อฟังนะ” ฉีเทียนเห้าปลอบโยนเบาๆ

น้ำเสียงอ่อนโยนและมีแรงดึงดูดเล็กน้อย เหมือนมีเวทมนตร์ สุดท้ายซ่งฉงปิงก็ไม่มีศักดิ์ศรี หยิบยาออกมาจากแขนเสื้อ

ท่าทางของฉีเทียนเห้าเบาและอ่อนโยน ยาของซ่งฉงปิงก็ดีมาก เพราะฉะนั้นไม่นานก็ไม่มีความเจ็บปวดแล้ว

เพียงแค่ มือที่เดิมทีแล้วกำลังทายาก็ค่อยๆเปลี่ยนไป บรรยากาศก็ค่อยๆเปลี่ยนไป.......

ตอนที่ซ่งฉงปิงตื่นมา ก็เหนื่อยไปทั่วร่างอีกครั้ง โกรธจนนางพลิกตัวไปอยู่บนร่างของฉีเทียนเห้า กัดลงไปที่ไหล่ของเขาทีหนึ่ง

โมโหนัก

ทำไมถึงต้องเป็นนางที่เหนื่อยทุกครั้ง?

ทั้งๆที่คนที่ขยับตัวไม่ใช่นางมิใช่หรือ?

ฉีเทียนเห้าที่นอนอย่างอิ่มเอิบพอใจถูกกัดจนตื่น เห็นสภาพแยกเขี้ยวยิงฟันของซ่งฉงปิง อดหัวเราะไม่ได้

เห็นได้ชัดว่า ฉีเทียนเห้าไม่ได้นำเรื่องที่ถูกซ่งฉงปิงกัดมาใส่ใจ

ถึงแม้จะเจ็บ แต่ก็อยู่ในของเขตที่ทนได้

แต่อีกด้านของปิงเอ๋อร์ที่โมโหไร้เดียงสาแบบนี้ เห็นได้น้อยมาก

เพราะฉะนั้น ฉีเทียนเห้าไม่ได้ใส่ใจความเจ็บที่ถูกกัดเลยแม้แต่น้อย

ซ่งฉงปิงกัดไปครู่หนึ่ง เห็นฉีเทียนเห้าไม่เพียงไม่มีอาการเลย ยังมองตัวเองด้วยสีหน้ารักใคร่เด็กน้อย ทันใดนั้นก็ไม่โกรธแล้ว

ไม่สนุก

ซ่งฉงปิงลุกขึ้นจะลงจากเตียง แต่กลับถูกฉีเทียนเห้าถึงไว้

ซ่งฉงปิงจ้องฉีเทียนเห้าอย่างโมโห “เจ้าอยากทำอะไร?”

ดังนั้น ก็สีหน้าระมัดระวัง

“ข้าขอบอกเจ้า ข้ามีเรื่องต้องทำ เจ้าอย่า.......” ซ่งฉงปิงกลัวมากที่ฉีเทียนเห้าจะทำอะไรไปเลื่อย

นางกลัวจริงๆ

พอคิดถึงตรงนี้ ซ่งฉงปิงก็อดไม่ได้ที่จะจ้องฉีเทียนเห้า

ฉีเทียนเห้าเห็นซ่งฉงปิงสภาพสีหน้าระมัดระวัง ก็อดหัวเราะไม่ได้

“วางใจ ข้าไม่ทำอะไรทั้งนั้น”

ซ่งฉงปิงยังคงไม่เชื่อ ยังคงสีหน้าระมัดระวัง

ฉีเทียนเห้าถอนหายใจ

ทำไมมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นหมาป่า ถูกปิงเอ๋อร์ป้องกันไว้?

คือตัวเองที่ช่วงนี้ลืมไปที่จะควบคุมแล้วหรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง