หลัวเจิ้งหยางตะลึง
จากนั้นก็เห็นบุรุษในชุดดำลายหม่างดิ้นทอง(*งูตัวใหญ่ชนิดหนึ่ง เป็นลายที่มีราชนิกุลชั้นสูงสวมใส่) เดินมา
บุคลิกนั้นชวนให้หลัวเจิ้งหยางขาอ่อนเล็กน้อย
แต่เขารู้จักคนผู้นี้
ดังนั้นหลัวเจิ้งหยางจึงมีความมั่นใจขึ้นเล็กน้อย
เขาเดินขึ้นหน้าก้าวหนึ่ง เอ่ยด้วยสีหน้าโกรธจัด “อ๋องเซ่อเจิ้ง คนผู้นี้ไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา ท่านรีบช่วยข้าจับนางเร็ว”
ทุกคน “...” ซื่อจื่อคนนี้...กินหญ้าเลี้ยงสุกรเติบใหญ่กระมัง? มิเช่นนั้นไฉนจึงมีสมองสุกรได้?
ฉีเทียนเห้าไม่ปรายตามองหลัวเจิ้งหยางสักนิด แต่เดินไปอยู่ข้างกายซ่งฉงปิง “ไม่เป็นไรกระมัง?”
ซ่งฉงปิงส่ายหน้า
คนสามัญธรรมดาไม่อาจทำอะไรนางได้
แต่...
ซ่งฉงปิงมองฉีเทียนเห้า ฟ้องร้องด้วย นางชี้หลัวเจิ้งหยาง “เขาต้องการให้ข้าเป็นภรรยาเขา”
ได้ยินดังนั้นฉีเทียนเห้าก็หน้าตึงไปทันที
หันไปมองหลัวเจิ้งหยางด้วยดวงตาเย็นชา
“เจ้าต้องการให้นางเป็นภรรยาเจ้า?”
หลัวเจิ้งหยางยังไม่ทราบความจริง พยักหน้า “ถูกต้อง”
เพียงแต่หลังจากกล่าวจบ หลัวเจิ้งหยางก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ไม่ถูกต้องอย่างชัดเจน
สายตาฉีเทียนเห้าอันตรายมาก เขารู้สึกได้
หลัวเจิ้งหยางกลืนน้ำลายลงอึก ประหวั่นพรั่นพรึง
เขาคิดความเป็นไปได้เรื่องหนึ่งขึ้นมา ดังนั้นจึงมองฉีเทียนเห้า “ท่าน...ท่านก็ถูกใจนางหรือ?”
“ใช่...” ฉีเทียนเห้าตอบ จากนั้นก็เดินประชิดไปทางหลัวเจิ้งหยาง
ส่วนหลัวเจิ้งหยาง ความพรั่นพรึงที่ฉายบนใบหน้ามีมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ความต้องการครอบครองของเขาทำให้เขาละเลยกลิ่นอายอันตรายบนกายของฉีเทียนเห้า ยืดคอตรงแล้วเอ่ย “ข้าถูกใจนางก่อน เป็นภรรยาข้าได้เท่านั้น อย่างไรคนมาก่อนย่อมมีสิทธิ์ก่อน ท่านอย่าคิดแย่งข้าเลย”
กล่าวจบหลัวเจิ้งหยางก็คิดแล้วกล่าวอีก “อีกอย่างท่านก็มีองค์หญิงใหญ่แล้วมิใช่หรือ?”
ทุกคน “...” ทนดูไม่ได้แล้ว
นี่มัน เคยเห็นแต่คนไม่รู้จักที่ตาย แต่ไม่เคยเห็นคนไม่รู้จักที่ตายขนาดนี้
ทันใดนั้นเหล่าผู้ที่กำลังมุงดูก็พากันล่นถอยออกไปหลายก้าวตามสัญชาตญาณ เหลือพื้นที่ประมาณหนึ่งให้หลัวเจิ้งหยาง
ส่วนหลางซิงเหอก็ลากแขนเสื้อจางซิ่งฮวาขยับไปด้านข้างหลายก้าว
เวลานี้ซางซิ่งฮวาหน้าซีดเผือด
สำหรับนาง ท่าทางฉีเทียนเห้าในเวลานี้น่าหวาดกลัวเหลือเกิน
นางชักไม่เข้าใจเสียแล้ว ว่าทำไมหลัวเจิ้งหยางถึงกล้าอาจหาญเพียงนี้
หรือว่าโหวเย๋อะไรนั่นจะร้ายกาจยิ่งกว่าอ๋องเซ่อเจิ้ง องค์หญิงใหญ่กับฮ่องเต้องค์ปัจจุบันอีกหรือ?
นี่เขาเอาความมั่นใจมาจากไหน?
ฉินซานเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆ ก็ทำหน้าฉงนสนเท่ห์
แต่ฉินซานเอ๋อร์ไม่กล้ามองสถานการณ์ตึงเครียดล่อแหลมแบบนี้เลย
ฉินซานเอ๋อร์ยังถึงกับกำลังพิจารณาว่าอีกประเดี๋ยวจะหลับตาดี หรือว่าจะลืมตาดี
เพราะหากหลับตา เช่นนั้นก็ไม่เห็นอะไรแล้วสิ มิเสียเปรียบหรอกหรือ?
แต่หากลืมตา นางก็กลัวว่าจะเป็นภาพคาวเลือดมากเกินไป
ส่วนหลัวเจิ้งหยาง ในยามนี้เขายังไม่รู้สึกสักนิดว่าอันตรายกำลังประชิดเข้าใกล้เขาแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขามีความกล้าหาญชาญชัยกล้าโอหังกับอ๋องเซ่อเจิ้งจริง
แต่เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองกำชัยอยู่ในมือ
เพราะอะไรน่ะหรือ?
ประการแรก เขาถูกใจโฉมเฉลานางนี้ก่อน หากอ๋องเซ่อเจิ้งต้องการยื้อเอาไป นั่นก็ไม่มีเหตุผลแล้ว จริงไหม?
ประการที่สอง อ๋องเซ่อเจิ้งเคยผ่านการวิวาห์กับองค์หญิงใหญ่มาแล้ว ในฐานะที่เป็นราชบุตรเขยของฝ่าบาท หากสนใจหญิงอื่นในยามนี้ ต่อให้เพื่อหน้าตาของราชวงศ์ ฝ่าบาทก็คงไม่ให้เขาสมปรารถนากระมัง?
สรุปแล้วหลัวเจิ้งหยางคิดว่าทางเขามีเหตุผล
และสาเหตุหลักที่ทำให้หลัวเจิ้งหยางเกิดความรู้สึกผิดเช่นนี้ ก็เพราะความเข้าใจในตัวฮ่องเต้ยังหยุดอยู่กับฮ่องเต้หย่งเฉิงปีนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...