แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 77

เดิมทีเสียงของฉีเทียนเห้าก็แยกแยะได้ง่ายมากอยู่แล้ว ยิ่งพูดประโยคนี้เข้าไป ทุกคนก็ตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง

แม้แต่ฉีเทียนเห้าเองก็ตกตะลึงเช่นกัน

แม่หม้ายหลี่หยุดคร่ำครวญโดยไม่รู้ตัว อันที่จริง นางส่งเสียงคร่ำครวญมาเป็นเวลานาน เมื่อเห็นว่าไม่มีใครช่วยผสมโรง ลั่วเสี่ยวปิงเองก็ไม่กลัว นางก็จึงไม่อยากที่จะคร่ำครวญต่อไป

และหลังจากที่ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินคำพูดของฉีเทียนเห้า เนื่องจากบทเรียนก่อนหน้านี้ ดังนั้นลั่วเสี่ยวปิงก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันไม่ดี

แต่ว่า ก่อนที่ลั่วเสี่ยวปิงจะหยุดเขาได้ ประโยคต่อไปของลั่วเสี่ยวปิงก็โพล่งออกมาทันที

“เพราะว่าข้าก็คือพ่อของอานอานเล่อเล่อ” ฉีเทียนเห้าตะลึงอยู่พักหนึ่ง แล้วพูดออกมาเบาๆ

อย่างไรเสียดูแล้วก็ไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อของอานอานเล่อเล่อไปอยู่ที่ไหน เป็นพ่อของพวกเขาสักสองสามวันก็คงไม่เป็นอะไร

เพราะเด็กสองคนนี้กับเขาก็ถูกชะตากัน เขาก็ไม่อยากให้ใครมาว่าว่าพวกเขาเป็นเด็กสวะ

ประโยคนี้ของฉีเทียนเห้า โพล่งออกไป ทั่วทั้งลานก็เงียบลงอีกครั้ง ชนิดว่าแม้แต่เข็มตกก็ยังได้ยิน

บังเอิญมาก ขณะที่ฉีเทียนเห้าพูดแบบนี้ ผู้ใหญ่บ้านก็ได้ยินเรื่องจึงรีบวิ่งมาพอดี

และดวงตาของอานอานและเล่อเล่อเองก็เบิกกว้างด้วยความตกใจหลังจากได้ยินคำพูดของฉีเทียนเห้าด้วยเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาก็ตกใจกับ "ความจริง" นี้ด้วย

และลั่วเสี่ยวปิงก็บังเอิญเห็นผู้ใหญ่บ้านจางเต๋อหวั่งรีบมา และนึกถึงสิ่งที่ตนเองพูดต่อหน้าจางเต๋อหวั่ง โดยไม่รู้ตัว ลั่วเสี่ยวปิงมองไปที่จางเฉินซื่อและจางเอ้อหลางที่รู้ 'ความจริงที่แท้จริง'

ในที่สุด ลั่วเสี่ยวปิงทนไม่ได้ต้องเอามือก่ายหน้าผาก

เละแล้ว!

เละแล้ว!

วุ่นวายไปหมดแล้ว

เป็นอย่างที่คิดจริงๆ โกหกหนึ่งครั้ง ก็ต้องโกหกมากขึ้นไปอีกเพื่อปกปิด

ปวดหัว!

อยากจะฆ่าฉีเทียนเห้าให้ตายต้องทำยังไง?

ลั่วเสี่ยวปิงเหนื่อยใจมาก

ด้วยการเข้ามาร่วมวงของฉีเทียนเห้า ข่าวลือระหว่างลั่วเสี่ยวปิงกับจางเอ้อหลางก็ถือว่าถูกทำลายโดยสมบูรณ์แบบ

ไม่ว่าจะเป็นแม่หม้ายหลี่ก็ดี หรือจะเป็นสงจางซื่อก็ดี หากพวกเขาอยากจะสร้างปัญหาอีก ไม่มีทางเสียหรอก

ท้ายที่สุดจางเต๋อหวั่งก็เอ่ยปาก ให้ทุกคนแยกย้ายไป ควรจะไปทำอะไรก็ทำ

และสุดท้ายก็เหลือแต่ ลั่วเสี่ยวปิงสามแม่ลูก ฉีเทียนเห้า จางเฉินซื่อสองแม่ลูก กับผู้ใหญ่บ้านจางเต๋อหวั่ง อยู่ในลาน

จางเต๋อหวั่งมองไปยังลั่วเสี่ยวปิงด้วยท่าทางอึกๆ อักๆ สุดท้ายก็ถอนหายใจ "เสี่ยวปิง ข้าก็รู้ว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ข้าเป็นคนนอกไม่ควรจะถาม แต่ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เจ้าไม่ใช่บอกข้าว่าพ่อของเด็ก ..."

ก่อนที่จางเต๋อหวั่งจะพูดจบ เขาก็เหลือบมองไปที่ฉีเทียนเห้า อานอานและเล่อเล่อ ที่ยืนอยู่ข้างๆเขาอย่างระมัดระวัง สุดท้ายเขาก็หยุดคำพูดที่เขาต้องการเอ่ยไว้

ลั่วเสี่ยวปิง “……” ตอนนี้นางอยากจะพูดว่าสิ่งที่ฉีเทียนเห้าพูดนั้นไร้สาระ ยังจะทันไหม?

แต่ถ้าถูกถามว่าฉีเทียนเห้ามาอยู่บ้านนางได้อย่างไร นางจะอธิบายว่าอย่างไร?

ลั่วเสี่ยวปิงปวดหัว อยากจะกระชากผมแล้วกรี๊ด

ทำไมเขาไม่ให้นางจัดการปัญหาพวกนี้ด้วย? นางยอมทะเลาะกับสงจางซื่อและแม่หม้ายหลี่ยังจะดีกว่า

จางเต๋อหวั่งไม่ได้ใส่ใจท่าทางที่แทบจะคลุ้มคลั่งของลั่วเสี่ยวปิง แต่กลับมองไปที่ฉีเทียนเห้าอย่างละเอียด

ในตอนแรกจางเต๋อหวั่งก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับฐานะของฉีเทียนเห้า เพราะลั่วเสี่ยวปิงก็บอกเองว่าพ่อของเด็กๆเสียชีวิตไปแล้ว

แต่ว่าเมื่อจางเต๋อหวั่งมองดูใบหน้าครึ่งหนึ่งที่ยังไม่เสียโฉมของฉีเทียนเห้า แล้วมองใบหน้าของอานอานที่แห้งและขาดสารอาหารเนื่องจากการดูแลที่ผ่านมา เขาก็ไม่สงสัยอีกต่อไป

ถึงแม้ว่าตอนนี้อานอานจะยังผิวเหลืองและผ่ายผอมอยู่บ้าง แต่ก็เห็นได้พอว่าดูออกว่ามีส่วนคล้ายกับชายคนนี้อยู่บ้าง

แม้แต่การแสดงออกก็เกือบจะออกมาจากเบ้าเดียวกัน

นอกจากนี้ เสี่ยวปิงก็เคยบอกว่าทักษะต่างๆที่นางทำได้พ่อของเด็กๆก็เป็นคนสอน ก่อนหน้านี้เขายังเคยคิดว่าพ่อของเด็กๆจะเป็นคนแบบไหนกัน แต่วันนี้พอได้เห็นท่าทางแล้ว เขาไม่ธรรมดาจริงๆ

เขาต้องเป็นคนที่มีฐานะไม่ธรรมดาแน่ๆ สอนอะไรเสี่ยวปิงบ้างก็เป็นเรื่องปกติ

ที่เสี่ยวปิงขอกว่าพ่อของเด็กตายแล้ว ไม่แน่ว่าอาจเป็นการทะเลาะขัดแย้งระหว่างพวกเขา

นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้พ่อของเด็กก็ไม่เคยปรากฏตัว ที่วันนี้จู่ๆก็ปรากฏตัวมา ในใจของเสี่ยวปิงจะมีความขุ่นเคืองอยู่บ้างก็ปกติ

เมื่อคิดได้แบบนี้ จางเต๋อหวั่งก็พูดโดยไม่ต้องรอคำตอบจากเสี่ยวปิง “เสี่ยวปิง ข้ารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ไม่รบกวนพวกเจ้าสองสามีภรรยาแล้ว ระหว่างพวกเจ้าสามีภรรยาไม่มีอุปสรรคใดที่ผ่านไปไม่ได้ วันหน้าข้าค่อยมาใหม่”

เมื่อพูดแล้วจางเต๋อหวั่งไม่รอให้ลั่วเสี่ยวปิงตอบ เขาก็หันหลังแล้วเดินจากไปทันที

ลั่วเสี่ยวปิง “……”

ไม่ใช่สิ ผู้ใหญ่บ้านรู้อะไรไปแล้ว?

ยังมี อะไรคือพวกเจ้าสามีภรรยาสองคน?นี่ต้องมีเรื่องเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ?

ตอนนี้จางเฉินซื่อและจางเอ้อหลางก็มีเรื่องสงสัยเต็มใจ มีคำถามอยากถามอยู่เต็มสมอง แต่ว่าคำพูดของผู้ใหญ่บ้านก็เตือนสติพวกเขาเอาไว้

เวลานี้พวกเขาไม่ควรอยู่รบกวนครอบครัวคนอื่นจริงๆ

ดังนั้นจางเฉินซื่อจึงกล่าวลากับลั่วเสี่ยวปิง ก่อนจากไปจางเฉินซื่อจึงพูดด้วยใบหน้าจริงจังว่า “เสี่ยวปิง วันนี้ครอบครัวของข้าทำให้เกิดเรื่อง ข้าต้องมีคำอธิบายให้เจ้าแน่นอน”

จางเฉินซื่อกล่าวเช่นนี้ ดวงตาของเขาก็มีความมุ่งมั่นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

ตอนนี้สมองของลั่วเสี่ยวปิงกำลังอยู่ในภาวะงุนงง จึงไม่ทันสังเกตความแตกต่างในแววตาของจางเฉินซื่อ ทำได้เพียงเบิกตาโพลงส่งจางเฉินซื่อกลับไป

รอจนไม่มีคนอื่นอยู่ในลาน ในที่สุดลั่วเสี่ยวปิงก็นึกขึ้นได้จ้องมองผู้กระทำผิด

“เจ้า…”

“ท่านแม่...”

ลั่วเสี่ยวปิงยังไม่ทันพูดอะไร อานอานเล่อเล่อก็เรียกลั่วเสี่ยวปิงขึ้นมาพร้อมกัน ท่าทางของลั่วเสี่ยวปิงจริงจังมาก ในดวงตามีคำถามอยู่

ลั่วเสี่ยวปิงนึกขึ้นมาได้ว่า นางต้องอธิบายกับเด็กๆทั้งสองคน

ชั่วขณะนั้น ลั่วเสี่ยวปิงก็ปวดหัวตงิดๆขึ้นมาอีกครั้ง

ทำไมเกิดเรื่องมากมายขนาดนี้?

นางจ้องไปที่ฉีเทียนเห้าอีกครั้ง

ทว่าฉีเทียนเห้ากลับยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเฉยเมย เขาไม่มีความละอายเลยแม้แต่น้อย

ลั่วเสี่ยวปิงกัดฟันเอาไว้ รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเอาความกับฉีเทียนเห้า เพราะตอนนี้นางต้องอธิบายให้เด็กทั้งสองคนก่อน

“ท่านแม่ เขา…” เล่อเล่อมองไปยังฉีเทียนเห้า และมีท่าทีจริงจังอย่างที่ลั่วเสี่ยวปิงไม่เคยเห็นมาก่อน “เขาเป็นท่านพ่อจริงหรือ?”

“ไม่ใช่” ลั่วเสี่ยวปิงตอบโดยไม่ต้องคิด

เป็นอย่างที่คิด คำตอบของลั่วเสี่ยวปิงทำให้ดวงตาของเล่อเล่อเป็นสีแดง

“ท่านแม่ เช่นนั้นข้ากับท่านพี่เป็นเด็กสวะจริงๆหรือ? หากข้ากับพี่ชายไม่ใช่เด็กสวะ แล้วเหตุใดท่านพ่อยังไม่กลับมาหาพวกเราอีกเล่า?”

เห็นได้ชัดว่า เล่อเล่อติดใจมากว่าตัวเองจะใช่เด็กสวะหรือไม่

แต่ในทางกลับกันอานอานกลับดูนิ่งเงียบมาก ใบหน้าน้อยๆเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม ดวงตาของลึกล้ำ ให้คนดูไม่ออกว่าตอนนี้เขาคิดอะไรอยู่

ลั่วเสี่ยวปิงรู้ดีว่า หลายครั้งที่ตนเองไม่สามารถเห็นอานอานเล่อเล่อเป็นเด็กห้าขวบกลบเกลื่อนไปได้ ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของเล่อเล่อ ลั่วเสี่ยวปิงเองก็ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร

ในสายตาของนาง อานอานเล่อเล่อไม่ใช่เด็กสวะอะไรนั่น

แต่ว่า หากพูดว่าไม่ใช่ นางจะเอาพ่อของเด็กๆมาจากไหน

ปล่อยให้พวกเขาเข้าใจว่าฉีเทียนเห้าเป็นเพื่อนของพ่อ ช้าเร็วพ่อก็จะกลับมา แต่หลังจากนั้นล่ะ?

ในใจพวกเขาเฝ้ารอพ่อที่ไม่รู้ว่าเป็นหรือตายตลอดหรือเปล่า?

คิดอย่างนี้ ท่าทีของลั่วเสี่ยวปิงก็เคร่งขรึมขึ้นมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง