แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 79

ลั่วเสี่ยวปิงหันกลับไปตามเสียง แต่ในระยะที่สายตามองเห็นก็ไม่เห็นอานอานและเล่อเล่อแล้ว

ลั่วเสี่ยวปิงใจหายวาบ รีบวิ่งออกไปโดยไม่ต้องคิด

แต่บนคันนาไม่ไกลเห็น จ้าวซื่อกำลังผลักอานอานและเล่อเล่อ เห็นเด็กทั้งสองคนกำลังจะถูกผลักลงทุ่งนาแล้ว

“เจ้ากำลังทำอะไร?”ลั่วเสี่ยวปิงตะโกนด้วยความตื่นตระหนกและโกรธเล็กน้อย

เมื่อจ้าวซื่อได้ยินเสียงของลั่วเสี่ยวปิง การเคลื่อนไหวก็หยุดชะงักลงโดยไม่รู้ตัว หันกลับมายิ้มแห้งๆ “เสี่ยวปิง เจ้าอย่าเข้าใจข้าผิด ข้า กำลังล้อเล่นกับเด็กสองคนนี้เท่านั้นเอง”

เห็นได้ชัดว่า วันนี้ท่าทีของจ้าวซื่อเปลี่ยนไป แต่ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้สนใจจ้าวซื่อ แต่รีบสาวเท้าไปอยู่ข้างๆอานอานเล่อเล่อ แล้วตรวจดูเด็กทั้งสองคนอย่างละเอียด เมื่อเห็นว่าเด็กทั้งสองคนไม่เป็นอะไรถึงโล่งอก

“บอกแม่มา เมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้น?” ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้มองจ้าวซื่อ แต่ถามเล่อเล่อตรงๆ

“เฮ้อ เสี่ยวปิงเจ้านี่ยังไงกัน? หรือว่าเจ้าจะไม่เชื่อคำพูดของข้า?” จ้าวซื่อถามอย่างรู้สึกผิด

เมื่อลั่วเสี่ยวปิงได้ยินก็เงยหน้าขึ้น ชำเลืองมองไปยังจ้าวซื่ออย่างเย็นชา แล้วถามกลับว่า “เจ้าถือดีอะไรให้ข้าเชื่อเจ้า แต่ไม่เชื่อลูกของข้า?”

เมื่อลั่วเสี่ยวปิงถามออกมา ดวงตาเย็นชาของนางมีความดุร้ายแฝงอยู่เล็กน้อย จ้าวซื่อตกใจที่ถูกดวงตาของลั่วเสี่ยวปิงทำให้ตกใจ จึงไม่กล้าพูดอะไรไปครู่หนึ่ง

“ท่านแม่ ท่านย่ารองถามว่าบ้านข้างหลังเรา เป็นบ้านของเราหรือเปล่า ข้ากับท่านพี่ไม่ตอบ นางเลยผลักเรา” เล่อเล่อตอบคำถามของลั่วเสี่ยวปิง

เมื่อลั่วเสี่ยวปิงได้ยิน นางทำสีหน้าก็แย่ลงนิดหน่อย แล้วหันไปมองจ้าวซื่อด้วยตาวาวโรจน์

ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเข้าฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว แต่เนื่องจากฝั่งนี้อยู่ใกล้กับแม่น้ำ ดังนั้นในทุ่งนาทั้งสองข้างจึงยังมีน้ำอยู่มาก หากเด็กๆตกลงไปก็จะเปียกไปทั้งตัว และคงจะไม่สบาย

จ้าวซื่อน่าเกลียดจริงๆ เด็กสองคนยังลงมือ

“เสี่ยวปิง เจ้าอย่าไปฟังเด็กสองคนนี้พูดเพ้อเจ้อ ข้าไม่ได้ผลักพวกเขาจริงๆ…”คำพูดของจ้าวซื่อที่กำคิดจะเถียงข้างๆคูๆภายใต้สายตาเย็นชาของลั่วเสี่ยวปิงก็กลืนหายไปจนหมด

แต่ไม่นาน จ้าวซื่อก็พูดอย่างอายๆว่า “ไอ้หยาเสี่ยวปิง ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ข้าก็แค่ล้อเล่นกับเด็กสองคนนี้”

ลั่วเสี่ยวปิงไม่สนใจจ้าวซื่อ แล้วเดินกลับบ้านพร้อมกับลูกสองคน

ตอนนี้ฉีเทียนเห้าก็เดินออกมาแล้ว และกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูมองไปยังลั่วเสี่ยวปิงที่โกรธแต่ฝืนทนไว้

เมื่อเห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงกำลังจะจากไป จ้าวซื่อก็รีบหันกลับมาและกำลังจะไล่ตาม เมื่อเห็นฉีเทียนเห้ายืนอยู่ที่ประตู นางก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ

แต่ว่าเมื่อนางเห็นใบหน้าของฉีเทียนเห้ามีรอยแผลเป็น ในแววตาก็ฉายแววดูถูก

แต่ในเวลานั้นเอง นางก็ถูกสายตาเย็นชาของฉีเทียนเห้าจ้องมอง จ้าวซื่อตัวสั่นด้วยความตกใจและเกือบจะกลิ้งตกลงนา

“เสี่ยวปิง เจ้ารอข้าด้วย…” ใจของจ้าวซื่อสั่นไหว แต่เมื่อคิดถึงจุดประสงค์ที่ตนมา ก็รีบวิ่งตามลั่วเสี่ยวปิง

“เสี่ยวปิง บอกข้าที แถบบ้านที่อยู่ด้านหลังใช่บ้านของเจ้าหรือไม่?” เมื่อจ้าวซื่อถาม ดวงตาของนางเป็นประกายวาววับจ้องไปที่กำแพงสูงใหญ่ตระหง่าน

ในหมู่บ้านนี้ บ้านใครจะมีกำแพงที่สูงใหญ่โอ่อ่าเช่นนี้? แม้แต่เจ้าของที่ดินรวยๆในหมู่บ้านอื่นก็ไม่เคยได้ยินว่าจะมีใครสร้างบ้านใหญ่โตขนาดนี้

ถ้านี่เป็นบ้านของเสี่ยวปิง พวกเขาที่เป็นคนในครอบครัวของเสี่ยวปิงจะสามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้หรือไม่?

จ้าวซื่อคิดไว้สวยงาม ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความคาดหวังเมื่อมองไปยังกำแพงสูงด้านหลังของนาง ราวกับว่าเมื่อบ้านนี้สร้างเสร็จ นางจะสามารถเข้าไปอยู่ได้จริงๆ

“บ้านข้าเอง” ลั่วเสี่ยวปิงหยุดเดิน แล้วพูดอย่างไม่ปิดบัง เมื่อเห็นอารมณ์ทุกอย่างของจ้าวซื่อแสดงอยู่บนใบหน้าแล้ว ดวงตาของนางเย็นขึ้นมาเล็กน้อย

เมื่อจ้าวซื่อได้ยินว่าบ้านด้านหลังเป็นบ้านของลั่วเสี่ยวปิงจริงๆ ดวงตาของนางเป็นประกาย มองไปยังลั่วเสี่ยวปิงด้วยความกระตือรือร้น

แต่ริมฝีปากของลั่วเสี่ยวปิงในขณะนี้ก็กระตุกขึ้น “แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า”

หลังจากพูดจบ ลั่วเสี่ยวปิงก็พาเด็กสองคนกลับเข้าไปในบ้าน

จ้าวซื่อยังคิดอยากจะตามไป แต่จู่ๆฉีเทียนเห้าก็เข้ามาขวาง เมื่อจ้าวซื่อเงยหน้าขึ้นแล้วพบกับดวงตาที่เย็นเยียบของฉีเทียนเห้า ทันใดนั้น จ้าวซื่อก็รู้สึกสยดสยองราวกับเห็นผีตอนกลางวันแสกๆ ตกใจจนถอยหลังอยู่เนืองๆ แล้วเหยียบถูกก้อนหินก้อนหนึ่งโดยไม่ระวัง ก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น

แต่บังเอิญตรงที่ก้นของนางนั่ง มีหินที่ค่อนข้างแหลมคม

ทันทีที่จ้าวซื่อนั่งลง นางก็ส่งเสียงร้องโหยหวนราวกับหมูเชือด

จากนั้นเสียงปิดประตูไม้ก็ดัง “ปั้ง” ก็กระแทกเข้ามาตรงหน้านาง

ใบหน้าของจ้าวซื่อก็บิดเบี้ยวด้วยเจ็บปวด เมื่อมองไปยังประตูไม้ที่ปิดอยู่ ความโกรธของจ้าวซื่อก็ปะทุขึ้นมา ลุกขึ้นจากพื้นแล้วจะเตะประตูไม้ไปสักที

ในเวลานั้นประตูไม้ก็เปิดออกฉีเทียนเห้าก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของนาง ใบหน้าที่ราวกับเทพร้ายสำหรับจ้าวซื่อ

จ้าวซื่อโซเซด้วยความตกใจแล้วล้มลงกับพื้นอีกครั้ง คราวนี้นางล้มลงบนก้อนหิน จ้าวซื่อเจ็บปวดมากจนแทบจะสงสัยชีวิตตัวเอง

แต่ประตูไม้ก็ปิดลงอีกครั้ง

จ้าวซื่อตะโกนส่งเสียงดังกับพื้นเป็นเวลานาน ก่อนที่จะคลานขึ้นมาอย่างซมซาน

เมื่อมองไปยังประตูไม้ที่ทรุดโทรม จ้าวซื่อก็กลัวเล็กน้อย ไม่กล้าเข้าใกล้อีก แต่นางก็เกลียดลั่วเสี่ยวปิงขึ้นมาอีกครั้ง

“ถุย...!” จ้าวซื่อถ่มน้ำลายกับประตูไม้ “มีเงินเหม็นๆหน่อยก็ทำเป็นเก่ง?ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า?นี่ไม่ใช่เรื่องที่เอาเจ้าว่าเสียหน่อย”

เมื่อพูดแล้ว จ้าวซื่อก็เดินกะเผลกๆกลับไปที่หมู่บ้าน นางอยากกลับบ้านไปบอกข่าวนี้กับทุกคน

ในลานบ้าน หลังจากที่จ้าวซื่อเดินจากไป เล่อเล่อมองไปที่ฉีเทียนเห้าด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย “อาฉีเมื่อสักครู่ที่ท่านย่ารองล้มลงเป็นฝีมือท่านใช่หรือไม่?”

เล่อเล่อพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ "ข้าเห็นหมดแล้ว"

ในเวลานี้อานอานมองไปที่ฉีเทียนเห้าดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าเขาพอใจกับเรื่องที่ฉีเทียนเห้าสั่งสอนจ้าวซื่อมาก

ฉีเทียนเห้าประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ที่เขาลงมือเขาปกปิดเป็นอย่างดี แต่กลับถูกเด็กน้อยคนนี้เห็นหมดแล้ว?

ฉีเทียนเห้าคิดว่าที่เล่อเล่อเห็นคงเป็นเรื่องบังเอิญ เขาก็ไม่ได้คิดมาก เขาแค่พยักหน้า "อืม"

หญิงชั่วคนนั้นรังแกเด็กสองคนนั่น แน่นอนว่าเขาย่อมทนดูไม่ได้

ลั่วเสี่ยวปิงเหลือบมองฉีเทียนเห้า แล้วพูดกับเด็กทั้งสองคนว่า "อานอานเล่อเล่อพวกเจ้ามากับแม่"

เมื่อพูดจบ ลั่วเสี่ยวปิงก็เดินเข้าไปในบ้าน

อานอานเล่อเล่อคิดว่าแม่คงจะบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องของพ่อ รอยยิ้มบนใบหน้าเล็กๆของเด็กน้อยทั้งสองหายไป พวกเขาเดินตามลั่วเสี่ยวปิงเข้าไปในบ้านด้วยสีหน้าจริงจัง

ตอนนี้ฉีเทียนเห้าถือว่าเป็น 'บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง' ดังนั้นเขาจึงเข้ามาด้วย

เมื่อเด็กสองคนเห็นว่าฉีเทียนเห้าเข้ามาด้วย ใบหน้าเล็กๆทั้งสองก็มีรอยย่นมากขึ้น

“ท่านเข้ามาทำไม?” อานอานมองไปที่ฉีเทียนเห้า แล้วขมวดคิ้ว

ฉลาดเช่นเขาเวลานี้จึงมีการคาดเดาเพิ่งขึ้นอีก และทำให้เขาจ้องไปที่ใบหน้าของฉีเทียนเห้าเขม็ง

ก่อนหน้านี้ มีข้าในหมู่บ้านบอกว่า ตนเองหน้าเหมือนเขา...

อานอานเม้มริมฝีปากแน่น มองตาของฉีเทียนเห้า แววตาค่อยๆไม่เป็นมิตรเรื่อยๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง