ลั่วเสี่ยวปิงสัมผัสได้ถึงความอริของอานอานที่มีต่อฉีเทียนเห้า ดังนั้นนางจึงมองฉีเทียนเห้าอย่างเห็นใจ
นางรู้ว่า ความปรารถนาของอานอานที่มีต่อพ่อของเขาไม่มากเท่าเล่อเล่อ กระทั่งว่าเกลียดแค้นกับบทบาทพ่อนี้ด้วย
นางเคยคิดหาวิธีเปลี่ยนความคิดของอานอานมาก่อน เพราะถึงนางรู้สึกว่าบทบาทของ'พ่อ'จะไม่ปรากฏในชีวิตของเด็กทั้งสองอีก แต่นางก็ไม่อยากให้เด็กทั้งสองมีความเกลียดชังกับพ่อ
แต่ท้ายที่สุดแล้วนางก็ยอมแพ้ และพ่อของพวกเขาก็หายไปจากชีวิตพวกเขาจริงๆ ที่จริงนางเองก็ไม่สามารถบังคับอานอานให้ให้อภัยพ่อที่ขาดความรับผิดชอบได้ ดังนั้นนางจึงปล่อยไปตามธรรมชาติ
สำหรับตอนนี้ ในเมื่อฉีเทียนเห้าอยากจะกลายเป็น‘พ่อ’ของพวกเขา ฉีเทียนเห้าก็จะต้องแก้ปัญหานี้เอง
นี่เป็นการทดสอบแรกที่‘พ่อ’ควรทำให้สำเร็จ
ลั่วเสี่ยวปิงไม่ยอมรับ ว่าที่จริงในใจนางตอนนี้กำลังรู้สึกสนุกที่ได้เห็นคนอื่นเดือดร้อนอยู่
ก็ไม่ใช่ว่านางไร้น้ำใจ แต่ใครใช้ให้ฉีเทียนเห้าเป็นต้นเหตุของวันนี้เล่า? ดังนั้นเขาก็ควรจะรับผิดชอบ
ลั่วเสี่ยวปิงเก็บความรู้สึกยินดีปรีดาในความโชคร้ายของคนอื่น แล้วมองดูเด็กสองคนด้วยสีหน้าจริงจังปนรู้สึกผิดเล็กน้อย
“ที่จริงแล้ว…”
ลั่วเสี่ยวปิงพึ่งจะพูดไปแค่สองคำ แต่อานอานเล่อเล่อก็มองมาที่ลั่วเสี่ยวปิงเป็นตาเดียว
ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกผิดมากในชั่วขณะหนึ่ง แต่ก็ยังบังคับเสียงให้สงบ "อาฉีของพวกเจ้า ก็คือพ่อแท้ๆของพวกเจ้า"
หลังจากที่ลั่วเสี่ยวปิงพูดจบ นางก็ไม่กล้ามองหน้าอานอานหรือเล่อเล่อไปชั่วขณะหนึ่ง และทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบชนิดที่ว่าแม้แต่เข็มตกลงมาก็ยังได้ยิน
เมื่อนางมองไปที่เด็กสองคน นางก็เห็นว่าพวกเขากำลังมองลั่วเสี่ยวปิงอย่างจริงจัง
“ท่านแม่โกหก” เล่อเล่อกล่าวหา “เมื่อสักครู่ท่านแม่ยังบอกว่าอาฉีไม่ใช่ท่านพ่ออยู่เลย”
ในเวลานี้ ดวงตาของเล่อเล่อแดงก่ำและเต็มไปด้วยน้ำตา ดูน่ารักและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน หัวใจของ ลั่วเสี่ยวปิงแทบละลายเมื่อนางมองดวงตาทั้งคู่ และเกือบจะโพล่งความจริงออกมา
แต่ลั่วเสี่ยวปิงก็ยังยับยั้งคำพูดของนางได้ทัน
“เมื่อสักครู่แม่แค่กำลังโกรธพ่อของพวกเจ้า” ลั่วเสี่ยวปิงอธิบาย
เป็นอย่างที่คิดจริงๆ โกหกหนึ่งครั้ง ก็ต้องโกหกมากขึ้นไปอีกเพื่อรักษาเอาไว้
“แม่กับพ่อของเจ้า…เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก แต่หลังจากที่แม่ท้องพวกเจ้า จู่ๆพ่อของพวกเจ้าก็มีธุระต้องจากไป แล้วยังจากไปตั้งห้าปี ดังนั้นแม่จึงโกรธพ่อ ถึงพูดว่าเขาไม่ใช่พ่อของพวกเจ้า”ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกว่าเหตุผลที่นางสร้างขึ้นไปอย่างนั้นยังถูกต้อง ดังนั้นการแสดงออกของนางจึงผ่อนคลายมากขึ้น
ในเวลานี้ฉีเทียนเห้ามองดูลั่วเสี่ยวปิงอย่างเงียบ ๆ
นางในตอนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อของเด็กๆ?
ไม่รู้ทำไม เมื่อได้ยินหลัวเสี่ยวปิงพูดคำเหล่านี้ ในหัวใจของเขาก็รู้สึกไม่สบายใจ
เพียงแต่ความรู้สึกนี้แปลกใหม่เกินไป แปลกใหม่จนแม้เขาจะสืบค้นก็ไม่อาจหาสาเหตุได้
ทว่า อานอานกลับถามว่า “แล้วทำไมเขาถึงบอกว่า…เขาเป็นเพื่อนของท่านพ่อ?”
เมื่ออานอานถามลั่วเสี่ยวปิง ก็มองไปที่ฉีเทียนเห้าด้วยแววตาไม่เป็นมิตร
ฉีเทียนเห้า “……” เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าทำไมตนเองถึงกลายเป็นเพื่อนพ่อของพวกเขาได้?
ฉีเทียนเห้าก็มองไปที่ลั่วเสี่ยวปิง เพื่อดูว่าลั่วเสี่ยวปิงจะแต่งเรื่องอย่างไรอีก
ลั่วเสี่ยวปิงตกใจเมื่อได้ยินคำพูดนั้น แต่นางก็คิดหาวิธีจัดการได้อย่างรวดเร็ว “แม่บอกพวกเจ้าแล้วอย่าโกรธนะพ่อของเจ้า… เขาความจำเสื่อม”
เมื่อก่อนนางอ่านนิยายรักมาไม่น้อย ความจำเสื่อมสามารถใช้อ้างได้ตลอด
เหตุผลทั้งหมดที่อธิบายไม่ได้และไม่มีคำอธิบาย สามารถกลบเกลื่อนได้ด้วยความจำเสื่อม
เมื่อได้ยินว่าฉีเทียนเห้าสูญเสียความทรงจำ อานอานและเล่อเล่อก็ไม่ได้ถามฉีเทียนเห้าอีกต่อไป ได้แต่มองไปที่ฉีเทียนเห้า
ห้องก็เงียบลงอีกครั้ง
เป็นเวลานาน เล่อเล่อมองไปที่ฉีเทียนเห้าอย่างสงสารแล้วถามว่า "ท่าน…ความจำเสื่อมจริงๆหรือ?"
ฉีเทียนเห้า“…อืม” สตรีคนนั้นให้เขา ‘ความจำเสื่อม’ แล้วเขาไม่ความจำเสื่อมได้หรือ?
เล่อเล่อ “เช่นนั้น ท่านก็จำข้ากับท่านพี่ไม่ได้?”
ฉีเทียนเห้า “…” ถึงแม้ว่าจะไม่มีการสูญเสียความทรงจำ แต่ตามที่ลั่วเสี่ยวปิงกล่าว ตอนที่พ่อของเด็กๆจากไปพวกเขาก็ยังไม่เกิด ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะจำอะไรไม่ได้ใช่ไหม?
ฉีเทียนเห้าคิดแล้วก็พยักหน้า
หลังจากนั้น เมื่อเห็นฉีเทียนเห้าพยักหน้า เล่อเล่อที่จากเดิมก็มีน้ำตาคลออยู่ในดวงตาแล้ว ก็ร้องไห้ออกมาทันที จ้องมองฉีเทียนเห้าด้วยใบหน้าบวมตุบ “เล่อเล่อเกลียดท่านพ่อ”
เมื่อพูดจบ เล่อเล่อก็ร้องไห้แล้ววิ่งออกไป
และอานอานก็เหลือบมองฉีเทียนเห้าอย่างเย็นชาแล้วไล่ตามเขาออกไป
ฉีเทียนเห้า “……”
อธิบายไม่ถูกว่า การที่ถูกเล่อเล่อเกลียดชังทำให้เขารู้สึกเจ็บในใจเล็กน้อย
แต่ว่า ฉีเทียนเห้าเองก็ไม่มีประสบการณ์ในการโอ๋เด็กผู้หญิง
ด้วยจิตใต้สำนึกฉีเทียนเห้ามองไปที่ลั่วเสี่ยวปิง
ลั่วเสี่ยวปิงมอบสายตาช่วยตัวเองนะแล้ววิ่งออกไป
นางไม่ลืมว่าบ้านลั่วยังมีคนประสงค์ร้ายเด็กสองคนนี้อยู่ ไม่กล้าปล่อยเด็กสองคนออกไปเอง
ฉีเทียนเห้า “…” ที่แท้ ลั่วเสี่ยวปิงสตรีคนนี้ก็น่าเกลียดมาก
ฉีเทียนเห้ามีอาการปวดหัว และทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเสียใจที่ได้ช่วยลั่วเสี่ยวปิง และเสียใจกับข้อเสนอให้แต่งงานกันแบบปลอมๆของลั่วเสี่ยวปิง
ปัญหาสองเรื่องสองทาง แต่ต้องทำในเวลาเดียว
ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่จ้าวซื่อกลับมาที่บ้านลั่วแล้ว นางก็เล่าเรื่องที่กระท่อมอีกครั้งแบบตีไข่ใส่นม
“ท่านแม่ ท่านไม่รู้หรอกว่าลั่วเสี่ยวปิงหยิ่งยโสแค่ไหน นางบอกว่าในเมื่อบ้านเป็นของนาง ดังนั้นคนบ้านลั่วเราก็อย่าคิดจะได้อะไรจากบ้านนางสักนิด ถึงแม้ว่าท่านจะเป็นย่าของนางก็ไม่ได้”
“ปั้ง!” ลั่วเฉินซื่อตบโต๊ะอย่างโกรธจัด
“นังสารเลวใจดำอำมหิต เจ้าคนอกตัญญู ผิดต่อฟ้าแล้ว กล้าทำแบบนี้กับข้าที่เป็นย่า ” ลั่วเฉินซื่อลุกขึ้นยืนอย่างโกรธเคือง ไป พวกเราไปหานาง ดูสิว่านางจะกล้าไม่ให้ย่าอย่างข้าเข้าอยู่หรือ?
บ้านอิฐเก่าของตระกูลลั่วนั้นใหญ่จริง แต่รองรับคนได้ไม่มาก จึงแออัดมาก นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนในบ้านหลังเก่าของตระกูลลั่วจึงอิจฉาบ้านหลังใหญ่ของลั่วเสี่ยวปิงที่กว้างถึงสองหมู่(*ประมาณ666.67ตารางเมตร)
ถ้าคนในตระกูลลั่วสามารถอาศัยอยู่ได้จริงๆ อยู่คนละห้องแล้วยังมีเหลืออีกใช่หรือไม่?
แต่ว่าก่อนที่ลั่วเฉินซื่อจะออกไป ฟ่านลี่ฮัวก็หยุดนางไว้ก่อน "ท่านแม่ โปรดช้าลงหน่อย"
“เรื่องนี้จะช้าได้อย่างไร?” ลั่วเฉินซื่อจ้องไปที่ฟ่านลี่ฮัว ตอนนี้นางอยากจะยึดบ้านเป็นของตัวเองเดี๋ยวนี้แล้ว จะรอช้าได้ที่ไหนกัน?
“ท่านแม่ บ้านทางนู้นยังไม่ได้สร้างขึ้นมาเลยมิใช่หรือ?พวกเราไปตอนนี้คงจะไม่ดีกระมัง” ฟ่านลี่ฮัวพูด แววตาเฉียบแหลม
นางยอมอยากได้บ้านมาเป็นของตัวเองอยู่แล้ว
แต่เวลานี้ยังไม่ถึงเวลาไม่ใช่หรือ?
ลั่วเฉินซื่อได้ยิน นางก็มีสีหน้าลังเล “ถ้าไม่ไปตอนนี้ แล้วจะไปตอนไหน?”
“ท่านแม่อีกครึ่งเดือน เหอซิ่งก็จะได้หยุดแล้วมิใช่หรือ รอถึงตอนที่เหอซิ่งกลับมา บ้านก็คงสร้างเสร็จไปแล้ว แล้วพวกเราค่อยไปที่นั่นไม่ดีกว่าหรือ? ถึงเวลานั้นเจ้าเด็กเสี่ยวปิงยังจะกล้าไล่ท่านออกมาอยู่หรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...