แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 84

แม้เด็กทั้งสองคนไม่มีใครตอบฉีเทียนเห้า แต่พอถึงเช้าตรู่ของวันที่สอง เด็กทั้งสองก็ตื่นขึ้น

หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ทั้งสองไปยืนรอข้างเตียงของฉีเทียนเห้าโดยไม่ส่งเสียงใดๆ

ฉีเทียนเห้าก็ไม่ได้พูดอะไร ตื่นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินออกไปข้างนอก

เดินไปหาลั่วเสี่ยวปิง ฉีเทียนเห้าเปิดปากถาม “เจ้าก็อยากเรียนหรือ?”

ลั่วเสี่ยวปิง“……อยาก”

ฉีเทียนเห้า “อย่างนั้นเจ้าจะเรียนด้วยมั้ย?”

ลั่วเสี่ยวปิงตกตะลึงมองไปที่ฉีเทียนเห้าด้วยความประหลาดใจ “ข้าอายุปานนี้แล้วยังเรียนได้หรือ?”

ฉีเทียนเห้าพยักหน้า “เพียงแค่เจ้ามีใจอยากเรียนก็ได้แล้ว”

ความเป็นจริงแล้วศิลปะการต่อสู้ของราชวงศ์ต้าชิ่งต้องปูพื้นฐานตั้งแต่เด็ก

แต่ว่า ฉีเทียนเห้าไม่เคยเชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้น

แม้ว่าผู้ใหญ่จะไม่มีเงื่อนไขเหมือนเด็ก แต่ถ้าตั้งใจอยากเรียนรู้ ก็ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินว่าตัวเองสามารถเรียนศิลปะการต่อสู้ได้ ดวงตาก็เปล่งประกาย แน่นอนว่านางไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว

แต่ว่าวันนี้ลั่วเสี่ยวปิงต้องเข้าไปในเมือง ก็เลยไม่ได้ไปเรียนด้วย

เด็กสองคนมีความเพียรพยายามและความอดทนมาก หลังลั่วเสี่ยวปิงทำอาหารเช้าเสร็จ แม้ว่าหัวเด็กทั้งสองจะท่วมด้วยเหงื่อ แต่ก็ยังเดินหมอบต่อไป

ลั่วเสี่ยวปิงจึงไม่ได้รบกวนเด็กทั้งสอง นางกินอาหารเช้าคนเดียว แล้วนำอาหารเช้าของสามคนมาอุ่นไว้ในหม้อ แล้วก็นั่งรถของจางเอ้อหลางเข้าไปในเมือง

เมื่อของส่งถึงหอฝูหม่านแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงนั่งเกวียนไปเหรินโซ่วถังก่อน

เมื่อถึงเหรินโซ่วถัง ลั่วเสี่ยวปิงยังไม่ทันได้อธิบาย พนักงานในร้านก็เอ่ยด้วยความตื่นเต้น

“แม่นางลั่ว ท่านมาสักที ท่านซุนรอท่านมานานแล้ว”

พอลั่วเสี่ยวปิงได้ยินพนักงานพูดดังนั้น ก็ตกตะลึง

ท่านซุนรอนางนานแล้วหรือ?เพราะอะไรรึ?

ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้ถาม แต่พนักงานก็ต้อนรับลั่วเสี่ยวปิงไปนั่งในห้องโถงข้างหลังอย่างกระตือรือร้น และก็รีบไปชงชา แล้วก็พูดว่า “แม่นางลั่ว กรุณารอสักครู่ เดี๋ยวข้าน้อยจะไปเรียกท่านซุนมาที่นี่ให้

พูดเสร็จ พนักงานก็รีบไปเรียกท่านซุนมาโดยไม่ทันได้รอให้ลั่วเสี่ยวปิงตอบกลับ

เมื่อเห็นท่าทีแบบนี้ของพนักงาน ลั่วเสี่ยวปิงกำลังครุ่นคิดว่าท่านซุนมีเรื่องอะไรจะพูดกับนาง ในใจก็เดาได้อย่างคลุมเครือ

รอได้ไม่นาน ท่านซุนก็มาอย่างรีบร้อน

“โอ้ เสี่ยวปิง ในที่สุดเจ้าก็มาที่นี่แล้ว” สีหน้าที่ของท่านซุนที่เห็นลั่วเสี่ยวปิงนั้นไม่ต่างจากพนักงานเมื่อกี้เลย ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“ท่านซุน มีเรื่องอะไร?”ลั่วเสี่ยวปิงถามออกมาอย่างใจเย็น

“จริงๆมีเรื่องหนึ่ง”ท่านซุนพยักหน้า แล้วก็ถามอย่างระมัดระวังว่า “โรคหลอดเลือดในสมองของป้ากุงจากหมู่บ้านเฉินเจีย เจ้าเป็นคนรักษาหายใช่หรือไม่?”

เมื่อได้ยินว่าเป็นเรื่องนี้ ลั่วเสี่ยวปิงรู้อยู่แก่ใจ

โรคหลอดเลือดในสมอง แท้จริงแล้วไม่ว่าในยุคสมัยไหนก็ถือว่าเป็นโรคที่ค่อนข้างรักษายาก เป็นเรื่องปกติที่ท่านซุนจะมีความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้

เมื่อคิดได้แบบนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็ยิ้ม “ท่านซุนอย่าโทษที่ข้าแย่งคนไข้ของท่านก็พอ”

เมื่อท่านซุนฟังลั่วเสี่ยวปิงพูดดังนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะทำหน้าตึงเครียดทันที “เจ้าพูดแบบนี้ได้อย่างไร หากคนนี้ข้ารักษาไม่หาย แล้วข้าจะไม่ให้เจ้ารักษารึ?”

เมื่อเห็นท่านซุนทำหน้าจริงจัง ลั่วเสี่ยวปิงไม่รู้จะทำยังไง “ข้าก็แค่ล้อเล่นเอง”

ท่านซุนฟังแบบนี้แล้ว จึงถอนหายใจด้วยความโล่งใจ

แล้วถามว่า “เสี่ยวปิงโรคของป้ากุง เจ้ารักษาหายได้อย่างไร?”

โรคหลอดเลือดในสมอง แทบหายกลับเป็นปกติไม่ได้ หลานชายของเขามีความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เป็นที่รู้จักในนามของแพทย์อัจฉริยะมาโดยตลอด สำหรับโรคหลอดเลือดในสมอง

เกรงว่าหลานชายของเขาก็หมดหนทางแล้ว แม้จะรักษาได้ แต่ก็จะไม่หายอย่างปาฏิหาริย์เท่าของลั่วเสี่ยวปิง

ดังนั้น เมื่อเห็นเฉินต้าจ้วงมาซื้อยา ถึงได้รู้ว่าแม่ของเฉินต้าจ้วงอาการดีขึ้นแล้ว ท่านซุนจึงไปหมู่บ้านเฉินเจียทันที เพื่อตรวจชีพจรของป้ากุง

ตั้งแต่ตรวจชีพจร ท่านซุนรู้สึกตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อรู้ว่าหมอที่รักษาป้ากุงคือลั่วเสี่ยวปิง

ท่านซุนไม่ได้ผลีผลามไปที่หมู่บ้านต้าซิงไปหาลั่วเสี่ยวปิง แต่รอคอยทุกวันอย่างใจจดใจจ่อให้ลั่วเสี่ยวปิงมาเอง

วันนี้ ในที่สุดคนที่รอก็มาแล้ว หากรอแล้วยังไม่มา เขาก็จะไปหาที่หมู่บ้านต้าซิงจริงๆแล้ว

เมื่อลั่วเสี่ยวปิงเห็นว่าท่านซุนสนใจเกี่ยวกับโรงหลอดเลือดในสมองจริงๆ จึงอธิบายชีพจรของป้ากุง และหลักการรักษาโรคหลอดเลือดในสมอง

ท้ายสุด ลั่วเสี่ยวปิงกล่าวอย่างเสียใจว่า “เสียดายที่ข้าไม่มีเข็มเงิน หากฝังเข็มที่จุดฝังเข็ม ก็จะมีประสิทธิภาพมากกว่าการนวดกดจุด”

ลั่วเสี่ยวปิงก็ได้แต่ถอนหายใจ แต่เมื่อท่านซุนได้ยินก็ลุกจากที่นั่งอย่างตกใจ

“เจ้าว่าอะไรนะ?”ท่านซุนเบิกตาโต

ลั่วเสี่ยวปิง “ข้าบอกว่า การฝังเข็มมีผลดีกว่าการนวดกดจุด……” มีอะไรผิดหรือ?

ใครจะไปรู้ ว่าเมื่อท่านซุนได้ยินลั่วเสี่ยวปิงพูด ก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา จนทั้งตัวสั่น

ลั่วเสี่ยวปิงเห็นท่าทางตื่นเต้นของท่านซุน เหมือนกับว่าต้องเสียเหงื่อให้เขาแล้ว กลัวว่าความดันของเขาจะพุ่งจนเป็นลม

“เจ้า……”ท่านซุนชี้ไปที่ลั่วเสี่ยวปิง มื่อสั่นแล้วก็สั่น “นี่เจ้า……”

“ข้า?”เกิดอะไรขึ้นกับนาง?

“เจ้ารู้เทคนิคการฝังเข็มรึ?”ในที่สุดท่านซุนก็สงบสติอารมณ์ลงเล็กน้อย เมื่อถามความสงสัยในใจออกมา

ลั่วเสี่ยวปิง“……ใช่”

เห็นท่าทีของท่านซุน ลั่วเสี่ยวปิงเกิดความสงสัย ว่าในยุคนี้การฝังเข็มนั้นไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดา?

ตามความทรงจำของร่างเดิม เจ้าของร่างเดิมอาศัยอยู่บริเวณของชายแดนของหมู่บ้านต้าซิง เมื่อชาวบ้านไม่สบายเล็กน้อยก็ไม่ไปหาหมอ เมื่อไม่สบายหนักก็แค่ตรวจชีพจรทานยา ไม่มีใครไปฝังเข็ม ดังนั้นนางจึงไม่แน่ใจว่าในยุคสมัยนี้การฝังเข็มจะเป็นที่นิยมหรือไม่

หากการฝังเข็มหาได้ยากจริง นางคง……

ตอนที่ลั่วเสี่ยวปิงกำลังคิดอยู่นั้น อยู่ๆท่านซุนก็มีเสียง ‘ฟุบ’ คุกเข่าลงหน้าลั่วเสี่ยวปิง

ลั่วเสี่ยวปิงกระโดดขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความตกใจ และหลบไปที่ข้างๆ ด้วยใบหน้าตกใจ

มีคนรุ่นราวเดียวกันกับปู่ของนางมาคุกเข่าต่อหน้า แบบนี้ทำให้อายุสั้นลงได้

“เสี่ยวปิง ข้ารู้ว่าคำขอนี้จะมากเกินไป แต่ว่าวิชาการฝังเข็มนี้……”ท่านซุนหน้าแดงขึ้น “โปรดรับข้าเป็นลูกศิษย์”

เมื่อพูดเสร็จ ท่านซุนกำลังจะก้มหัว

ลั่วเสี่ยวปิงรีบห้ามไว้ “ท่านซุนข้าไม่รับลูกศิษย์ ท่านไม่ต้องคุกเข่าแล้ว”

ลั่วเสี่ยวปิงปวดหัวเล็กน้อย ท่านซุนอยู่ๆก็มากราบไหว้ให้นางเป็นอาจารย์ นี่ก็เป็นครั้งที่สองแล้ว

นางก็รู้อยู่ว่า ท่านซุนเพียงแค่ยึดมั่นสนใจในการแพทย์

เมื่อได้ยินว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่รับเป็นลูกศิษย์ ก็รู้สึกหดหู่

เรื่องการฝังเข็ม เขาเคยได้ยินจากท่านปู่ของเขา พูดว่าจุดกำเนิดมาจากที่ที่ยังไม่รู้จัก บรรพบุรุษของเขาโชคดีจึงได้รับคู่มือเข็ม แต่น่าเสียดายที่มันหายไปนานแล้ว

ไม่เพียงแต่เขา หลานชายของเขาก็ยังปรารถนาที่จะเรียนรู้เทคนิคการฝังเข็มอย่างมาก

ดูเหมือนว่า ในชีวิตนี้เขาคงไม่มีโอกาสได้รับรู้แก่นแท้ของมันแล้ว

เมื่อมองดูท่านซุน ลั่วเสี่ยวปิงก็จะนึกถึงท่านปู่ของนาง ดังนั้นนางจึงทนไม่ได้ที่จะเห็นท่าทีความหดหู่ของเขา

คิดไปคิดมา ลั่วเสี่ยวปิงก็เอ่ย “ท่านซุน เทคนิคการฝังเข็มนี้มีความกว้างขวางและลึกซึ้ง

ข้าคิดว่าด้วยความสามารถ จะไม่สามารถสอนอะไรท่านได้ แต่……”

เมื่อได้ยินลั่วเสี่ยวปิงพูดคำว่าแต่ ในดวงตาของท่านซุนก็มีหวังอีกครั้ง

มองดูลั่วเสี่ยวปิงอย่างคาดหวัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง