แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 93

คำพูดของฉีเทียนเห้า เหมือนกำลังอธิบายสาเหตุของแววตาเมื่อกี้ของเขากับลั่วเสี่ยวปิง และกำลังเตือนโอหยางฉี่หยู่เหมือนกัน

แต่ทว่าคำว่า ‘ภรรยาของข้า’ กลับทำเอาลั่วเสี่ยวปิงกับโอหยางฉี่หยู่อึ้งไปตามๆกัน

คำว่าภรรยาของฉีเทียนเห้าทำเอาลั่วเสี่ยวปิงชะงักนิ่ง เหมือนถูกไฟฟ้าช็อตไปทั้งตัว ตัวชาไปถึงหัวใจ

แถมยังได้ยินน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยการปกป้องของฉีเทียนเห้า ทำเอาลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกแปลกๆในหัวใจ เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน

แต่ว่า ในตอนที่นางได้สติแล้วหันไปมองฉีเทียนเห้า กลับเห็นฉีเทียนเห้าไม่ได้มองมาที่ตัวเองเลย คิดว่าเขาคงจะพูดออกมาเพราะเป็นหุ้นส่วนกัน ในตอนที่โล่งอกขณะเดียวกันก็รู้สึกหัวใจว่างเปล่าไปด้วย เป็นความรู้สึกที่พูดไม่ออก

และภายในใจตอนนี้ของโอหยางฉี่หยู่กลับตกตะลึงอย่างมาก

ฉีเทียนเห้าเป็นคนยังไง ทุกคนในเมืองรู้ดี

ไม่พูดเรื่องอื่น เรื่องที่ไม่ชอบผู้หญิง ทุกคนรู้กันทั่วเมือง

ไม่ว่าผู้หญิงที่อยากจะเข้าใกล้ฉีเทียนเห้า ก็จะไม่มีจุดจบที่ดีกันทั้งนั้น ผู้หญิงที่อยากขึ้นเตียงเขา ตอนนี้หญ้าบนหลุมศพคงขึ้นสูงหลายเมตรแล้ว

แต่ว่า ฉีเทียนเห้ากลับเรียกหญิงชาวบ้านขี้ริ้วขี้เหร่แบบนี้ว่า ‘ภรรยา’ จะไม่ให้โอหยางฉี่หยู่ตะลึงได้ยังไง?

มีแวบหนึ่งที่เขาคิดว่าตัวเองยังไม่ตื่น และกำลังฝันอะไรที่เป็นไปไม่ได้อยู่

แต่เขารู้ดีว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในความฝัน

และโอหยางฉี่หยู่เป็นนักธุรกิจ ก็ไม่มีทางโง่ถึงขนาดนั้น กลับกัน เขาเป็นคนที่ฉลาดมาก ไม่งั้นด้วยตำแหน่งของเขาคงไม่มีความสำเร็จเหมือนอย่างวันนี้

ดังนั้นตกตะลึงแค่ชั่วครู่ โอหยางฉี่หยู่ก็เข้าใจทั้งหมดแล้ว หญิงชาวบ้านที่ดูธรรมดาคนนี้ เป็นคนที่ฉีเทียนเห้าอยากปกป้องไว้ และไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ฉีเทียนเห้าเหมือนจะไม่อยากให้ลั่วเสี่ยวปิงรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา ดังนั้นโอหยางฉี่หยู่จึงทำหน้าจริงจัง แล้วทำท่าคารวะไปทางฉีเทียนเห้า

“เมื่อกี้ข้าน้อยคิดน้อยเกินไป เงินปันผลหนึ่งส่วนไม่มีทางซื้อวิธีการดีๆแบบนี้ได้แน่นอน” ว่าแล้ว โอหยางฉี่หยู่ก็มองไปทางลั่วเสี่ยวปิง “แต่ว่าแม่นางลั่ว ข้าเป็นนักธุรกิจ เจ้าขอเงินปันผลสี่ส่วน นั่นมันมากเกินไปหรือเปล่า?”

ถึงแม้จะมีอำนาจของฉีเทียนเห้ากดขี่ไว้ แต่โอหยางฉี่หยู่ก็อยากจะต่อรองราคาอีกสักหน่อย นี่เป็นสัญชาตญาณของนักธุรกิจในตัวเขา

แน่นอนว่า ในตอนที่พูดนั้น เขาก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่มาจากฉีเทียนเห้า

ในตอนที่โอหยางฉี่หยู่กำลังจะยอมแพ้ด้วยแรงกดขี่ของฉีเทียนเห้า ในที่สุดลั่วเสี่ยวปิงก็กลับหลังหัน มองดูโอหยางฉี่หยู่แล้วพูดว่า “สามส่วน”

สีหน้าของลั่วเสี่ยวปิงจริงจังมาก เป็นสีหน้าที่ไม่ยอมให้ต่อรองอีก

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำไมโอหยางฉี่หยู่ถึงเปลี่ยนความคิดเร็วขนาดนี้ แต่ลั่วเสี่ยวปิงจะไม่เสียโอกาสดีๆแบบนี้ไปเด็ดขาด

“ตกลง!” โอหยางฉี่หยู่ไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต และไม่อยากรับแรงกดดันจากฉีเทียนเห้าอีกแล้ว ดังนั้นจึงตอบตกลงอย่างรวดเร็ว

เป็นไปตามที่คิดไว้ เขาเพิ่งตอบตกลง แรงกดดันเมื่อกี้ก็หายไปทันที

ในตอนที่โอหยางฉี่หยู่โล่งอก ขณะเดียวกันก็อดไม่ได้สงสัยว่าทำไมฉีเทียนเห้าถึงเป็นห่วงผู้หญิงคนนี้ หรือว่า ทั้งสองเป็นสามีภรรยากันจริงๆ?

คิดได้เช่นนี้แล้ว โอหยางฉี่หยู่ก็อดไม่ได้มองดูลั่วเสี่ยวปิงตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างละเอียด แต่พอมองไปที่ใบหน้าของลั่วเสี่ยวปิง โอหยางฉี่หยู่ก็รู้สึกเย็นวูบวาบทั่วแผ่นหลัง ทำเอาเขาตกใจจนต้องลดสายตาลง

แต่เป็นเช่นนี้แล้ว โอหยางฉี่หยู่ก็แน่ใจได้ว่าฉีเทียนเห้าชอบลั่วเสี่ยวปิงจริงๆ ไม่ใช่แค่ความรู้สึกผิดๆของเขา

ทั้งสองฝ่ายเขียนสัญญาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ไม่มีข้อสงสัยแล้ว ก็ลงชื่อลงในสัญญาทันที

ลั่วเสี่ยวปิงเอ่ยชวนกินข้าวด้วยกันด้วยความเกรงใจ

คิดว่าตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว พวกโอหยางฉี่หยู่น่าจะรีบกลับเข้าเมืองกัน คงไม่อยู่กินข้าวต่อ

ไม่คิดว่าโอหยางฉี่หยู่จะตอบกลับลั่วเสี่ยวปิงว่า “เช่นนี้แล้ว งั้นก็ขอบคุณแม่นางลั่วที่เลี้ยงข้าวด้วย”

เขาอยากอยู่ดูสถานการณ์ต่อไป เพราะยังไงนานๆทีจะมีโอกาสแบบนี้ หากพลาดครั้งนี้ไม่รู้จะมีครั้งหน้าอีกเมื่อไหร่

โอหยางฉี่หยู่ในตอนนี้เพราะกำลังแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอกในใจ กลับไม่สนใจสายตาที่ไม่เป็นมิตรของฉีเทียนเห้า

ลั่วเสี่ยวปิง: “……” นางแค่ถามไปตามมารยาทเท่านั้นเอง

“บ้านข้ามีแค่ข้าวแข็งๆกับอาหารไม่กี่อย่าง คงไม่เหมาะสมกับตำแหน่งของคุณชายโอหยาง และไม่มีที่นั่งด้วย คุณชายโอหยางเชิญกลับก่อนดีกว่า” ฉีเทียนเห้าเห็นโอหยางฉี่หยู่ไม่สนใจสายตาตักเตือนของตัวเอง เขาจึงออกคำสั่งไล่ด้วยน้ำเสียงเย็นชา

โดยเฉพาะเห็นใบหน้าที่แสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ของโอหยางฉี่หยู่ เขาก็รู้สึกขัดตามาก

ด้วยแรงกดดันของฉีเทียนเห้า เกรงว่านอกจากลั่วเสี่ยวปิงแม่ลูกแล้ว คงมีไม่กี่คนที่จะรับไหว

ฉีเทียนเห้าไล่คนตรงๆแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากให้เขาอยู่ต่อ

โอหยางฉี่หยู่ถึงแม้จะใจกล้าแค่ไหน ตอนนี้ก็ต้องถอนตัวก่อน

ในตอนที่กำลังจะบอกว่าเมื่อกี้ตัวเองพูดเล่น และจะรีบกลับเข้าเมืองก่อนฟ้ามืด อานอานเล่อเล่อสองคนก็เดินออกจากในบ้าน

พอเห็นอานอานเดินมา โอหยางฉี่หยู่ก็ชะงัก

อานอานรับรู้ได้ถึงสายตาของโอหยางฉี่หยู่ คิ้วเล็กๆนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เขากลับมองไปที่ลั่วเสี่ยวปิง แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “ท่านแม่ บ้านเราไม่มีของกินแล้วเจ้าค่ะ”

เห็นได้ชัดว่า เขาได้ยินข้างนอกคุยกันทั้งหมดแล้ว

ลั่วเสี่ยวปิงกำลังจะเดินไปห้องครัวก็ต้องหยุดชะงัก นึกถึงผักในครัวที่ยังกินได้อีกหลายวัน ก็มองอานอานอย่างไม่เข้าใจ

อานอานกำลังจะพูดนั้น ตอนนี้เองเล่อเล่อกลับคิดว่าตัวเองเข้าใจที่พี่ชายพูด มองโอหยางฉี่หยู่แล้วยิ้มตาหยี “ลุงหน้าหวาน ท่านจะอยู่ต่อก็ต้องรับผิดชอบซื้อของกินมานะ”

เล่อเล่อพูดคำนี้ออกไป สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที

อานอาน: “……” เขาไม่ได้หมายความแบบนั้น เมื่อกี้เขากำลังไล่แขกต่างหาก!

ฉีเทียนเห้า: “……” มองดูใบหน้าของโอหยางฉี่หยู่ หรี่ตาเล็กน้อยด้วยสีหน้าบึ้งตึง

ถ้าใบหน้าของเขาไม่มีรอยแผล คงโยนโอหยางฉี่หยู่ออกไปไกลแล้ว!

บางคนกลับยังไม่รู้ตัว ถ้าตัวเองเทียบหน้าตากับคนอื่นขึ้นมา ต้องรู้ว่าเมื่อก่อนเขาเกลียดคนอื่นที่ชอบบอกว่าเขาหน้าตาดีที่สุด

ส่วนลั่วเสี่ยวปิง กลับมองเล่อเล่อด้วยแววตา ‘เด็กคนนี้สอนได้’ นิสัยไม่ชอบเสียเปรียบ นางชอบมาก

โอหยางฉี่หยู่ได้ยินคำพูดของเด็กสองคนก็ได้สติจากความตกตะลึง เขาไม่คิดอะไรมาก ก็รีบใช้ให้เถ้าแก่ฉินไปซื้อผักกลับมา

เถ้าแก่ฉินยังคงตะลึงกับความเปลี่ยนแปลงของเจ้านายตัวเอง ตอนนี้ก็ต้องทำตามคำสั่งอยู่ดี

พอเถ้าแก่ฉินไปแล้ว โอหยางฉี่หยู่ก็มองฉีเทียนเห้าอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็มองไปที่อานอานอีกครั้ง

ตอนนี้ โอหยางฉี่หยู่แน่ใจได้เลยว่า ตัวเองจะต้องเจอกับความลับอะไรที่สุดพิเศษแน่ๆ

เช่นนี้แล้ว วันนี้เขาอยู่กินข้าวต่อ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร นั่นก็ต้องคุ้มค่ามากแน่นอน

โอหยางฉี่หยู่ให้คนไปซื้อผักแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็คงพูดอะไรอีกไม่ได้ จึงเดินเข้าห้องครัวไป

และโอหยางฉี่หยู่ถูกสายตาของฉีเทียนเห้าเรียกออกไปด้านนอก พอทั้งสองเดินไปถึงทุ่งนาแล้ว แน่ใจว่ารอบด้านไม่มีคนอยู่ ฉีเทียนเห้าก็ถึงหันกลับไปมองโอหยางฉี่หยู่

โอหยางฉี่หยู่หดคอลง ลนลานจนไม่กล้ามองฉีเทียนเห้า ความกล้าเมื่อกี้ก็หายไปในพริบตาทันทีที่อยู่กับฉีเทียนเห้าสองต่อสอง

“อยากอยู่ หรืออยากตาย?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง