แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 94

เห็นฉีเทียนเห้าพาโอหยางฉี่หยู่ออกไป ลั่วเสี่ยวปิงก็รู้สึกสงสัยในใจ นางรู้สึกว่าฉีเทียนเห้ากับโอหยางฉี่หยู่อาจจะรู้จักกัน

แต่พอย้อนกลับมาคิดแล้ว ขอแค่ไม่แตะต้องผลประโยชน์ของนาง ไม่ทำร้ายนางกับลูกๆ พวกเขาสองคนจะรู้จักกันไหมก็ไม่เกี่ยวอะไรกับนางสักหน่อย

คิดเช่นนี้แล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่คิดเรื่องพวกนี้อีก เริ่มคิดว่าคืนนี้จะกินอะไรดี

ถึงแม้โอหยางฉี่หยู่อยู่กินข้าวต่อไม่ใช่สิ่งที่นางคาดการณ์ไว้ แต่ในเมื่อเขาจะอยู่ต่อ นางก็ต้องต้อนรับเขาอย่างดีอยู่แล้ว

บวกกับที่ทั้งสองยังหุ้นส่วนกันด้วย ต่อไปนางอยากจะร่วมงานกับเขาต่อไป ดังนั้นมื้อนี้ไม่เพียงแต่ต้องต้อนรับอย่างดีแล้ว ยังต้องใส่ใจทุกรายละเอียดด้วย

แต่ในบ้านถึงแม้อาหารจะไม่ได้มีเยอะแยะมากมาย และก็เป็นผักทั้งหมดด้วย ทำเอานางคิดหนักเลยทีเดียว

ในตอนนี้เอง เถ้าแก่ฉินก็ซื้อของในหมู่บ้านกลับมา

แต่เห็นคนที่มาด้วยกับเถ้าแก่ฉิน ลั่วเสี่ยวปิงกลับขมวดคิ้ว รู้สึกแปลกใจ

เถ้าแก่ฉินสังเกตสีหน้าของคนเก่ง เห็นสีหน้าลั่วเสี่ยวปิงแบบนี้ก็อธิบายว่า “ข้าซื้อมาค่อนข้างเยอะจึงถือคนเดียวไม่ไหว ผู้น้อยท่านนี้จึงช่วยข้าส่งมา”

เถ้าแก่ฉินพูดถึงจางต้าหยางที่ช่วยเขาถือของมา พี่ชายของจางฮั่วเหมย

จางต้าหยางส่งของเสร็จก็กลับไปแล้ว แต่ที่ทำให้ลั่วเสี่ยวปิงขมวดคิ้วไม่ได้มีเพียงจางต้าหยางเท่านั้น แต่เป็นจางฮั่วเหมยที่ยังยืนอยู่ตรงนั้นแล้วสอดส่องไปทั่ว

จางต้าหยางกลับไปแล้ว นางก็ยังไม่กลับไปอีก และในมือนางก็มีแค่ต้นหอมต้นเดียวด้วย นางคงไม่ได้ช่วยเถ้าแก่ฉินส่งของมาด้วยหรอกนะ?

จางฮั่วเหมยเห็นลั่วเสี่ยวปิงมองนางอยู่ ก็ยิ้มแล้วเดินไปข้างหน้า “ได้ยินว่าที่บ้านพี่เสี่ยวปิงมีแขกมา ข้าอยากมาช่วยพี่เสี่ยวปิงน่ะ”

จางฮั่วเหมยไม่ชอบเจ้าของร่างเดิมมาตลอด ตอนนี้กลับมาเรียกตัวเองว่าพี่เสี่ยวปิง คนที่ไม่รู้เรื่องคงคิดว่าพวกนางสนิทสนมกัน

แต่โบราณว่าไว้ว่ามือที่ยื่นมาย่อมไม่ตบคนที่ส่งยิ้มให้ ในเมื่อมีคนมาช่วยแล้ว นางก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องปฏิเสธ

หลังจากอนุญาตแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็มองไปยังของที่เถ้าแก่ฉินซื้อมา

คงเป็นเพราะเจ้านายตัวเองจะกินด้วย ดังนั้นเถ้าแก่ฉินจึงจัดหนักมาก ไม่เพียงแต่ซื้อไก่เป็ดเท่านั้น ยังมีเนื้อหมู่กับข้าวสารและบะหมี่ขาวด้วย และยังมีปลาอีกหนึ่งตัว และยังมีผักดองหนึ่งไหเล็กที่ไม่รู้ว่าใครให้มา

เห็นของพวกนี้แล้ว ในสมองของลั่วเสี่ยวปิงก็มีเมนูอาหารลอยขึ้นมา ในสายตาของนางเหมือนของพวกนี้กลายเป็นอาหารแต่ละจานแล้ว

ลั่วเสี่ยวปิงไม่เกรงใจเลบย นางใช้ให้จางฮั่วเหมยไปฆ่าไก่ฆ่าปลา ส่วนเป็ด นางจะเลี้ยงเอาไว้ก่อน

แต่ทว่าจางฮั่วเหมยได้ยินลั่วเสี่ยวปิงสั่งงานตัวเอง ก็ลืมไปเลยว่าตัวเองมาทำอะไร ก็รีบมองค้อนแล้วถามเสียงแหลมว่า “เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาสั่งข้า?”

“เจ้ามาช่วยไม่ใช่เหรอ? ไม่ทำพวกนี้แล้วเจ้าจะทำอะไร?” ลั่วเสี่ยวปิงมีสีหน้าหมดคำจะพูด คิดว่าตัวเองมาเป็นคุณหนูหรือไง?

ความจริงแล้ว จางฮั่วเหมยคิดว่าตัวเองมาเป็นคุณหนูจริงๆ

นางได้ยินมาว่าบ้านของลั่วเสี่ยวปิงมีคุณชายเศรษฐีที่นั่งรถม้ามา ต่อมาเถ้าแก่ฉินก็มาซื้อวัตถุดิบในหมู่บ้าน จางฮั่วเหมยไม่มีทางปล่อยโอกาสที่จะประจบประแจงนี้ไป จึงสั่งพี่ชายให้ไปเป็นแรงงานให้เขาฟรีๆ

แต่ไม่คิดว่า นางบอกว่ามาช่วยเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น ลั่วเสี่ยวปิงกลับจะให้นางช่วยจริงๆ ส่วนมากถ้ามีคนบอกมาช่วย เจ้าบ้านควรจะเกรงใจและปฏิเสธสิ?

จางฮั่วเหมยรู้สึกโกรธ แต่เถ้าแก่ฉินที่อยู่ข้างๆกำลังมองอยู่ นางจึงอดทนไว้ก่อน

ดังนั้นจางฮั่วเหมยจึงพูดว่า “ข้ามาช่วยทำกับข้าว” นางทำกับข้าวได้ แต่ฆ่าไก่ฆ่าปลางานสกปรกแบบนี้นางไม่ทำหรอกนะ

ยิ่งไปกว่านั้นทำกับข้าวนางทำแบบลวกๆก็ได้ ลั่วเสี่ยวปิงคงไม่ได้ให้นางทำทั้งหมดหรอกนะ

เหมือนดูออกว่าจางฮั่วเหมยคิดอะไรอยู่ ลั่วเสี่ยวปิงจึงพูดอย่างเย็นชาว่า “ห้องครัวของข้า เจ้าไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งหรอกนะ ถ้าเจ้าไม่อยากช่วย งั้นก็กลับไปเถอะ”

ให้จางฮั่วเหมยทำกับข้าว? นางกลัวว่าจางฮั่วเหมยจะทำวัตถุดิบดีๆพวกนี้เสียหายไปเสียก่อน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง