แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 97

“ต้นฤดูใบไม้ผลิ” ลั่วเสี่ยวปิงพูดตามตรง “เวลาเติบโตอย่างน้อยสองเดือน”

โดยทั่วไประยะเวลาการเจริญเติบโตของพริกคือหกสิบวันถึงเก้าสิบวัน นางมีสเพซน้ำแร่วิญญาณ การเจริญเติบโตสามารถสั้นลงได้ในระดับหนึ่ง

แต่ทว่าได้ยินคำพูดของลั่วเสี่ยวปิงแล้ว โอหยางฉี่หยู่กลับขมวดคิ้ว

นี่ยังห่างจากต้นฤดูใบไม้ผลิอีกตั้งสี่เดือน ระยะการเจริญเติบโตก็ต้องรออีกสองเดือน ก็ต้องรอเป็นครึ่งปีเลยน่ะสิ นานเกินไปแล้ว

ไฟที่ปะทุขึ้นในใจเหมือนถูกน้ำสาดมาเต็มๆ จนไฟในใจดับวูบไปหมด

เห็นท่าทีแบบนี้ของโอหยางฉี่หยู่ ลั่วเสี่ยวปิงก็พูดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจว่า “หากหาผ้าน้ำมันกันน้ำกันแดดได้ ในฤดูหนาวนี้อาจจะปลูกได้นะ”

โรงเรือนปลูกพืช ต้นกำเนิดที่เก่าแก่ที่สุดมาจากราชวงศ์ฉิน และค่อนข้างเชี่ยวชาญในราชวงศ์ซ่ง

และในสมัยโบราณไม่มีพลาสติก จึงต้องใช้ผ้าน้ำมันที่กันแดดและปกปิดอากาศถ่ายเทได้ดีมาแทนที่

นางเคยสอบถามผ้าน้ำมันชนิดนี้กับจิ่นเหนียง เสียดายที่จิ่นเหนียงไม่เคยได้ยินมาก่อน ดังนั้นจะทำโรงเรือนปลูกพืชได้หรือเปล่านั้น ก็ต้องดูที่โอหยางฉี่หยู่ว่าจะหาผ้าน้ำมันชนิดนี้มาได้หรือเปล่า

โอหยางฉี่หยู่ได้ยินว่าต้องหาผ้าน้ำมันมาถึงจะปลูกพริกได้ในฤดูหนาว ก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันที “ข้าหาผ้าน้ำมันได้ แต่ธุรกิจพริก หวังว่าลั่ว……ฉีฮูหยินจะสามารถพิจารณาร่วมงานกับข้าก่อน”

ได้ยินคำว่า ‘ฉีฮูหยิน’ ทำเอาลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง ลูบจมูกเพื่อผ่อนคลาย ลั่วเสี่ยวปิงพยักหน้า “ถ้าเจ้าหาผ้าน้ำมันมาได้ งั้นข้าจะพิจารณาร่วมงานกับเจ้าก่อน”

โอหยางฉี่หยู่ขมวดคิ้ว

เพราะเขารู้สึกเหมือนลั่วเสี่ยวปิงกำลังจะบอกว่าหากคนอื่นหาได้ก่อนก็จะร่วมงานกับคนอื่นก่อน ลั่วเสี่ยวปิงอาจจะพิจารณาร่วมงานกับคนอื่นด้วย

คิดได้เช่นนี้แล้ว โอหยางฉี่หยู่ก็รู้สึกได้ถึงความบีบคั้น แต่กลับลืมซื้อวิธีการทำต้มปลาผักกาดดองของลั่วเสี่ยวปิงมาด้วย

รอได้วิธีการทำทั้งหมดแล้ว โอหยางฉี่หยู่ก็ไม่ได้อยู่ต่อ เขาบอกลาเสร็จก็พาเถ้าแก่ฉินกลับไปทันที

ตอนนี้ฟ้าค่อนข้างมืดแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงเก็บถ้วยอาหารทั้งหมดเสร็จ ก็ตักน้ำล้างหน้าล้างตัวให้เด็กสองคน

กำลังจะพาเด็กสองคนกลับห้องนอน กลับถูกฉีเทียนเห้าขวางไว้เสียก่อน

“เจ้าอยากฝึกต่อสู้ไม่ใช่เหรอ?” ฉีเทียนเห้ามองดูลั่วเสี่ยวปิง

ลั่วเสี่ยวปิง: “……ข้ากล่อมลูกๆนอนก่อน”

ลั่วเสี่ยวปิงเพิ่งพูดจบ ฉีเทียนเห้าก็มองไปยังอานอานกับเล่อเล่อ “พวกเจ้าต้องให้แม่กล่อมนอนไหม?”

อานอานเล่อเล่อกำลังจะพยักหน้า ไม่ได้อยากให้กล่อมนอนหรอก แค่อยากนอนกับท่านแม่แค่นั้นเอง

แต่ทว่าฉีเทียนเห้าในตอนนี้กลับพูดขึ้นด้วยสีหน้าสุขุมว่า “โตแล้วนะ”

อานอาน: “……”

เล่อเล่อ: “……”

“มีแค่เด็กเล็กเท่านั้นถึงจะอยากให้แม่กล่อมนอน” ฉีเทียนเห้าเหมือนกำลังอธิบายความจริง และพูดด้วยสีหน้าเข้มงวด

อานอานเล่อเล่อ: “……”

ลั่วเสี่ยวปิง: “……”

“ท่านแม่ ข้าพาน้องเข้านอนดีกว่า” อานอานมองไปยังลั่วเสี่ยวปิง แก้มสองข้างพองโต

เขาไม่อยากถูกเขาดูถูกหรอกนะ

เขาจะใช้การกระทำพิสูจน์ว่าตัวเองโตแล้ว

ลั่วเสี่ยวปิงมองดูอานอาน แม้จะอยากเตือนอานอานว่าเขากับน้องสาวตอนนี้ยังเด็กอยู่ แต่เห็นสายตาที่เด็ดขาดของอานอาน ก็ต้องจำใจพยักหน้า

อานอานเห็นแม่พยักหน้าแล้ว ก็พาเล่อเล่อที่ไม่ค่อยพอใจเข้าไปในห้องนอน

ภายในลานบ้าน เหลือเพียงแต่ลั่วเสี่ยวปิงกับฉีเทียนเห้าสองคน ดังนั้นลั่วเสี่ยวปิงก็มองค้อนฉีเทียนเห้า อยากจะด่าว่าฉีเทียนเห้าหลอกเด็กๆ แต่กลับเห็นฉีเทียนเห้ากำลังมองตัวเองด้วยสายตาที่ลึกซึ้งอยู่

ขณะนั้น ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง หลบสายตาออกด้วยสัญชาตญาณทันที

แต่ฉีเทียนเห้ากลับหน้าด้านหน้าทนไม่สะทกสะท้านอะไรเลย ยังคงมองลั่วเสี่ยวปิงตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่อย่างนั้น

เป็นเหมือนที่เขาคิดไว้ ผู้หญิงคนนี้เป็นเหมือนคลังสมบัติ รอบกายเต็มไปด้วยสมบัติที่รอให้ตามหา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง